เป็นคู่รักที่อายุห่างกันกว่า 20 ปี สำหรับคู่ของนักแสดงรุ่นใหญ่ เอ๋ ไพโรจน์ กับภรรยายังสาว เอ๋ ชญานิศวร์ ซึ่งทั้งคู่แต่งงานกันมา 10 ปีแล้ว ล่าสุด อาเอ๋ได้ควงภรรยา เอ๋ มาเปิดใจถึงชีวิตรักที่มีความหวานปนความเผด็จการนิดๆ ในรายการ เสือ สิงห์ กระทิง แซ่บ ทางช่อง 3 โดยบอกว่า ตนเองแต่งงานกันมา 10 กว่าปีแล้ว อายุห่างกัน 21 ปี ซึ่งอาเอ๋ ไพโรจน์ ได้พูดติดตลกว่า ที่จริงเราห่างกันแค่ปีเดียว โดยคุณแม่ของเขาอายุอ่อนกว่าตนแค่ปีเดียว
เอ๋ ชญานิศวร์ เผยว่า ไปเจอกันที่กองถ่ายละคร ถ้าถามว่าใครปิ๊งใครก่อน คือมาในฐานะที่เค้าเป็นคนรู้จักกั[คุณลุงของเรา เราก็แค่แนะนำตัวเอง ไม่มีอะไร เรื่องความรักก็ใช้โปรโมชั่น เอาใจฝ่ายชายด้วยการบีบนวดให้ แต่ตนเองก็บีบนวดให้แค่ตอนแรกๆ เมื่อมาอยู่ด้วยกัน ตนเองก็บีบนวดให้แค่ครั้งเดียว

แต่ยอมว่า การที่มีสามีรุ่นใหญ่ บางครั้งก็เหมือนพ่อ คือจริงๆ เราเปลี่ยนพฤติกรรมเราเยอะมาก ตั้งแต่มาอยู่ด้วยกัน มีกฎเหล็กของบ้านก็คือต้องฟังคำของผู้บังคับบัญชา เลยทำให้ตอนนี้ตนเองเพื่อนน้อย เพราะต้องมีเวลาให้สามีเยอะๆ คือเมื่อก่อนเราก็เป็นคนที่ชอบสังคม มีนัดดื่มกับเพื่อนบ้าง พอวันหนึ่งมันก็เกินลิมิตของชีวิตนิดนึง เพราะเราเจอพี่ที่ไม่ได้เจอกันนาน ก็ชนแก้วกัน พอเช้ามาเค้าเรียกคุย บอกว่าถ้ายังไม่ปรับเปลี่ยนตัวเอง จะเปลี่ยนระดับความเชื่อถือ จากแฟนเหลือแค่กิ๊ก
...
นอกจากนี้ พี่เอ๋ ยังได้บอกข้อดีของการมีสามีแก่ว่า มันก็ดีเพราะบางทีมันตะมุตะมิ อย่างบางทีเค้าอยู่บ้าน ตื่นมาก็จะไปเปิดเพลงของเค้า แล้วพอเราเดินไปใกล้ๆ เค้าก็จะคว้าตัวเรามาเต้นรำ การมีสามีแก่มันดูอบอุ่น เวลาที่เราจะปรึกษาอะไร มันจะมีมุมมองอะไรที่บางอย่างที่เราไม่เห็น
ถามว่าเรื่องอายุห่างกันมีปัญหามั้ย ยอมรับว่ามีบ้าง ด้วยอายุที่ห่างกัน บางทีอาเค้าจะคิดอีกแบบ ส่วนเราก็จะคิดอีกแบบ แล้วเราคิดว่าแบบเราดี แล้วถูกต้อง อาเค้าก็จะบอก แล้วอีกอย่างเค้าไม่ค่อยง้อ เค้าจะดุแล้วชอบใช้คำพูดแรงๆ เหมือนตอนที่มาอยู่ด้วยกันใหม่ๆ เค้าจะมีกฎกติกาของเค้า

เค้าจะบอกว่า บ้านหลังนี้ถ้ามันเหมือนประเทศหนึ่งๆ เค้าเป็นคนออกกฎหมายที่จะปกครองตรงนี้ เพราะฉะนั้นถ้ารับกฎตรงนี้ไม่ได้ ก็เนรเทศตัวเองออกไปเลย ตอนที่เค้าพูดเราสะเทือนนะ ว่ามันแรง นิสัยของเค้า เราปรับเค้าไม่ได้ เค้าบอกเค้าแก่แล้ว เปลี่ยนไม่ได้ เราก็ต้องดูว่าอยู่กับเค้าแล้วมีความสุขมั้ย และตัวเราเองนั้นเป็นคนชอบถามอยู่แล้วว่า รักหนูมั้ย เนื่องด้วยคาแรกเตอร์เราเป็นแบบนี้
ส่วนเรื่องเงินนั้นมาใช้กับความรักของเราไม่ได้ เพราะเราให้ค่าความรู้สึกมากกว่าเงิน ตนไม่ต้องการให้เขาเปลี่ยนอะไร
ด้าน อาเอ๋ ไพโรจน์ เล่าว่า ตนเอาความจริงใจใส่ไปอย่างเดียว เป็นตัวตน เพราะว่าเราเนี่ยเคยแต่งงานมาแล้วสองครั้ง การไม่แสดงตัวจริงเนี่ยมันเป็นผลเสีย แต่ถ้าเรารู้ว่าเค้าไม่ดีมาตั้งแต่ต้น ทำอะไรก็เป็นเรื่องปกติ ไม่มีการมาอะไรทั้งสิ้น ปล่อยให้คิวปิดเค้าทำหน้าที่ของเค้าไป การมีเมียเด็กนี่มันดีนะ ทำให้เราอารมณ์ดี แต่จริงๆ แล้วทั้งหมดทั้งปวงขอให้มีสายตาที่ไปในทางเดียวกันได้ ตรงนั้นสำคัญกว่า

ที่ชอบขัดใจเมียทุกเรื่อง ก็เพราะว่าเรารักเค้าไง ถ้าเป็นคนอื่นเราเลิกคบได้ แต่กับเค้าเราเลิกไม่ได้ ก็ต้องสอน ก็ต้องปรับ อะไรที่มันผิดหรือเราเห็นว่ามันถูก เรายอมไม่ได้ เรื่องการนอน ส่วนใหญ่เราจะมีกติกากันว่า มันจะต้องมีอะไรสักส่วนหนึ่งของร่างกายแตะกันไว้หน่อย เช่น กอด เกี่ยว ก่าย กก เพราะฉะนั้นเวลาที่เราไปโรงแรม เราก็จะถามว่า มีเตียงเดี่ยวมั้ย ถ้าไม่มีเราก็ต้องนอนอยู่ในเตียงคู่เตียงเล็กๆ ด้วยกัน
ส่วนเรื่องช่องว่างระหว่างวัยก็มีปัญหาบ้างเรื่องความคิด แต่เราเป็นคนที่ยอมรับเรื่องความแตกต่างได้ ถ้าคิดดูดีๆ หลายๆ อย่างอาก็จะปล่อยเค้า แต่ถ้าอะไรที่มันไม่ได้จริงๆ เราจะไม่ยอมปล่อย เป็นยังไงก็เป็นกัน
...

เรื่องบนเตียงทั้งคู่บอกว่า ก็ไม่ได้โฟกัส แค่จับมือกันก็มีความสุข ตอนนี้ศึกษาธรรมะด้วย ขณะที่ เอ๋ ไพโรจน์ บอกว่า ตนเองแก่แล้ว ความต้องการลดลง ไปสายธรรมะก็สมดุลกันพอดี รักภรรยามากขึ้น แต่ไม่ค่อยแสดงออก.