มีโอกาสได้รับทราบถึงผังรายการโทรทัศน์ของแต่ละสถานีในปี 2561 นี้มาพอสมควร แต่คงไม่ก้าวล่วงลงไปถึงสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมและเคเบิลทีวี เพราะน่าเห็นใจ
ขอพูดโดยสังเขปไปถึงสถานีโทรทัศน์ดิจิตอลที่ยังสู้อยู่เท่านั้น ยังยืนยันว่าแทบทุกสถานียังประกอบด้วยคอนเทนต์เดิมๆ
ชูโรงด้วยรายการข่าว เล่าข่าว ตามด้วยบันเทิงประเภทละเม็งละคร แต่จะหาละครประเภท ฮิตเปรี้ยงสนั่นเมืองเหมือนเมื่อก่อนมีน้อยยิ่ง
รายการกีฬาประเภทมีอันดับ มีลิขสิทธิ์ แผ่วไปจากจอ ไม่มีใครกล้าลงทุนจ่ายค่าลิขสิทธิ์แพงๆอีก...
ที่กำลังดิ้นรนอย่างหนัก หารูปแบบใหม่ๆ มานำเสนอ ก็คือรายการถ่ายทอดมวยไทย
รายการมวยประเภทมีผู้บรรยาย “พล่าม” เน้นโฆษณา เน้นเชลียร์โปรโมเตอร์ มีน้ำมากกว่าเนื้อ จะเปลี่ยนช่องถ่ายทอดบ่อย เพราะโฆษณาไม่เข้า!!
รายการประกวดร้องเพลงที่เคยคึกคัก วันนี้หงอย ส่วนหนึ่งก็เกิดจากผู้ชมมีความรู้สึกว่าตนเองวิเคราะห์วิพากษ์ได้ดีกว่าคอมเมนเตเตอร์ผูกขาดเหล่านั้น
อีกส่วนหนึ่ง...ก็เกิดจากกระแสการแจ้งเกิดนักร้องหน้าใหม่ จะดังเปรี้ยงปร้างได้ง่ายกว่า หากนำเสนอทางแอพยูทูบ มิจำต้องมาประกวดประชันทางโทรทัศน์ เป็นลูกไล่ของพิธีกรและคอมเมนเตเตอร์อีกต่อไป...
นักผลิตรายการกระแสหลักให้สถานีเมื่อกาลก่อน ส่วนใหญ่จะมีช่องสถานีเป็นของตนเอง ไม่ผลิตส่งให้สถานีต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นคู่แข่งทางธุรกิจอีกต่อไป
ส่วนใหญ่ของโปรดิวเซอร์จึงเป็นเลือดใหม่ มือใหม่ มีวิชาแข็งกล้า แต่ยังด้อยในการอ่านทางและอ่านใจผู้ชม
ผังรายการทีวีในช่วงเดือนแรกไปจนถึงไตรมาสแรกของปีนี้ ยังหารายการโดดเด่น ประเภทเข้าเป้าดังปัง ได้ยาก...
อันนี้...ต้องฝากให้ทีมสร้างสรรค์ของแต่ละสถานีไปสังเคราะห์กันดูว่า ทำรายการทีวีอย่างไรจึงจะโดนใจผู้บริโภคผ่านสมาร์ทโฟน
...
โจทย์อยู่ตรงนั้นครับ พฤติกรรมของผู้ชมโทรทัศน์เปลี่ยนไปแล้ว
ยึดมั่นในการเช็กเรตติ้งแบบเดิม เจ๊งคือคำตอบแรกและคำตอบสุดท้าย!!
“สันติพงษ์ นาคประดา”
แจ๋วริมจอ