นอกจากท่าเต้นและคลิปนำเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์แล้ว ที่เป็นปัญหาใหญ่อีกอย่าง คือชื่อเพลงและเนื้อร้องที่ออกแนวสองแง่สามง่ามสุดบรรยายสิ่งที่ได้ยิน ได้เห็น!!
แทบจะก๊อบปี้จากวรรณกรรมปกขาวในสมัยก่อน แล้วมาถ่ายทอดเป็นคำพูด สอดแทรกดนตรี
อ้างว่าเป็นเพลงลูกทุ่งหญิงสมัยใหม่
การเอาน้ำใส่นาน้อง คุยไม่แข็ง อีปิ๊ ชิมิ ฯลฯ คือส่วนหนึ่งของเนื้อร้อง บางทีก็เป็นชื่อเพลง มีเปิดกระหึ่มกันทั่วไป คนแต่งพวกนี้ ไม่สมควรถือว่าเป็นครูเพลง
แต่ควรเรียกว่า ผู้สมคบคิดทำลามกสู่สาธารณะ
ชี้เป้าให้แคบอีกนิดคือ ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงแนวภาษาอีสาน แต่เน้นดนตรี สากล
การแต่งเพลงพวกนี้ง่ายๆและมักง่าย ครีเอตให้พัวพันอยู่แถวๆใต้สะดือ
เนื้อร้องเขียนให้ตีความว่าเป็นการร่วมประเวณีของมนุษย์ หรืออวัยวะเพศหญิง-ชาย วนเวียนไปมา ก็จบและนำไปเผยแพร่ได้แล้วหนึ่งเพลง
ต้นทุนทำออกสื่อออนไลน์ไม่เกินหลักพันต่อเพลง
ในช่วงที่รัฐบาลโดยอำนาจของ คสช.มีอยู่เต็มไม้เต็มมืออย่างนี้ ปฏิรูปกากเพลงพวกนี้บ้าง ก็จะดีไม่น้อย
อาจจะเสียมวลชน ต่อผู้หลงมัวเมาแยกแยะไม่ออกไปส่วนหนึ่ง
แต่เชื่อว่าสังคมส่วนใหญ่ปฏิเสธต่อกากเพลงจำพวกนี้ ซึ่งก็ได้แต่ทำตาปริบๆ ทำอะไรไม่ได้
สื่อออนไลน์ให้โอกาสต่อผู้รังสรรค์ผลงานเสมอ แต่ผลงานนั้นต้องไม่ขัดต่อศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของชาติด้วย.
“สันติพงษ์ นาคประดา”