ยังเดินหน้าเส้นทางดนตรี นักร้องเสียงคุณภาพดีกรีแชมป์เอเอฟเวทีนักล่าฝันซีซั่น 8 “ต้น-ธนษิต จตุรภุช” ปล่อยซิงเกิล “เปล๊า!” เพลงสำหรับคนแอบรักปากไม่ตรงกับใจ แม้ปัจจุบันวงการเพลงจะเกิดยากแต่ ต้น ก็ยังไม่เคยท้อรักษามาตรฐานของตัวเอง ต้น เล่าว่า “ไม่ได้ออกซิงเกิลประมาณ 2 ปีจากเพลง “รู้ยัง” เพลง “เปล๊า!” เป็นเพลงน่ารักๆ เหมาะสำหรับคนที่แอบรักแล้วถูกจับได้ เหมือนว่าไม่ได้ชอบแต่จริงๆแล้วชอบมาก เลยเกิดการปฏิเสธเสียงสูงว่า “เปล๊า!” เพลงย้อนแย้งนิดนึง แนวเพลงป๊อปที่มีความอาร์แอนด์บี โยกๆได้ตามฟีลนิดหน่อย ได้ “แต๊บ-ธนพล” โปรดิวเซอร์คู่ใจของต้นมาร่วมงานด้วย” เป็นอารมณ์ที่ร้องได้เข้าปากมั้ย? “เข้าปากเลยครับเราชอบนะ มันติดหู พยายามทำออกมาให้ดีที่สุดหาโทนที่เหมาะกับเพลง” การมาอยู่บ้าน “ไอแอม” ทำให้การทำงานเปลี่ยนไปมั้ย? “ด้วยครับ เราก็ได้ทำงานกับพี่ๆทีมใหม่ แต่ไม่ต้องปรับตัวมาก มีส่วนร่วมมากขึ้น ออกไอเดีย ตั้งใจทำเป็นซิงเกิลก่อน แต่ทิศทางคือเป็นต้นลุคใหม่ อิมเมจใหม่ๆแนวสตรีท เท่ๆ เราก็ชอบแต่งตัวแบบนี้ แต่เมื่อก่อนเพลงที่เราออกจะใส่สูท ได้เป็นอีกมุมที่คนไม่เคยเห็น ถึงตอนนี้ฟีดแบ็กเพลงดี คนชอบทวีตมาบอกเราว่าชอบเพลงเท่ บางวันก็ติดเทรนด์ เจอเหตุการณ์แบบนี้อยากเอาไปบอกคนที่ชอบแต่กลัวเค้ารู้”

...
นักร้องหลายคนพอทิศทางวงการเปลี่ยนก็ไปทำอย่างอื่น แต่เราแน่วแน่กับสิ่งนี้? “ครับ มันเป็นสิ่งที่ต้นรักจริงๆ เคยคิดว่าถ้าไม่ได้ร้องเพลงก็ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว เราต้องยึดพื้นที่ตรงนี้ให้ได้ ทำงานตรงนี้ให้ได้นานที่สุด จริงๆงานแสดงต่างๆเราก็เปิดรับนะแต่เพียงที่ผ่านมามันยังไม่มีโอกาสได้ทำ มีได้เล่นละครเวทีบ้าง เรื่องเพลงต้นไม่เคยคิดจะหยุดแต่อาจจะมีแว้บนึงเพิ่มที่อยากทำธุรกิจหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่การร้องเพลงยังไงก็ทิ้งไม่ได้” เป้าหมายที่เราฝันจริงๆ? “อยากมีคอนเสิร์ตใหญ่เป็นของตัวเองให้ได้ในซักวันนึง อยากมีเพลงที่ทุกคนร้องได้ ถ้าเป็นไป ได้ก็อยากโกอินเตอร์นะ เดี๋ยวจะมีงาน ต้นได้รับเลือกจากเกาหลีไปโชว์งานของช่อง MBC มีศิลปินจากหลายประเทศ จากเกาหลีก็มีเซเว่น ถือเป็นงานใหญ่สำหรับเรา วันที่ 21 ก.ย.ไปโชว์เพลงตัวเอง” ตั้งแต่ได้แชมป์เอเอฟมา พอมีคำว่า “แชมป์” ทำให้ต้องแบกอะไรไว้มั้ย? “จริงๆมันแบกเรื่องคุณภาพ ต้นต้องรักษาคุณภาพให้เหมาะสมคำว่าแชมป์ แต่ในเรื่องชื่อเสียงต้นไม่ได้ยึดเอาคำว่าแชมป์เป็นที่ตั้ง คำนี้มันเป็นแค่ในรายการตรงนั้นพอ รายการจบคือ จบทุกคนต้องเริ่มใหม่กันหมด” เวลาคนบอกว่าเสียงดีน่าจะดังกว่านี้ เรารู้สึกยังไง? “ก็เห็นด้วยกับเค้า แต่มันก็เป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ เป็นปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ เก่งอย่างเดียวไม่ได้ต้องเก่งและเฮง มีคนเก่งกว่าเราตั้งเยอะ แต่เค้าอาจจะยังไม่มีจังหวะ” พอมันอาจจะยังไม่ถึงจังหวะของเราเคยมีความท้อมั้ย? “มันก็ไม่ได้ถึงกับท้อแต่มองว่าเราจะทำยังไงดี ต้องปรับแนวเพลงยังไงเพราะทุกวงการมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าวงการไหน ถ้าเรามัวยึดติดว่าจะอยู่ยงคงกระพันก็ไม่ได้ มันมีคนพร้อมขึ้นมาแข่งตลอดเวลา ทำยังไงให้ยืนอยู่ได้นานดีกว่าไม่ต้องไปเปรียบเทียบ แค่ให้เราได้มีพื้นที่ยืนทำงานก็พอแล้ว” คนนึกถึงต้นก็นึกถึงนักร้องคุณภาพ คำนี้ทำให้เราต้องรักษามาตรฐานตัวเองยังไง? “ต้นจะรักษามาตรฐานตัวเองตลอด ร้องให้ดี เข้มงวดกับตัวเอง คนนึกถึงเราแบบนี้ก็ไม่ได้กดดันนะ แต่ต้องรักษามันไว้ อย่าทำให้มันแย่ลงแค่นั้น เวลาได้ยินคนชมก็ดีใจนะ ถือเป็นน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจ”

สิ่งหล่อเลี้ยงหัวใจเรื่องอื่นอย่างความรักล่ะ? “ก็มีคนคุยอยู่ครับ เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยให้ใครรู้นะ อยากให้เป็นเรื่องส่วนตัว เรารู้สึกว่าเราไม่ได้เป็นดาราดังซุปตาร์ คนทั่วไปก็ไม่ได้มาจับจ้องอะไรเรา ก็ดีครับ” เรียกว่ามีคนเดินร่วมทาง? “เรียกว่ามีบ้างไม่มีบ้าง เป็นช่วงๆ” เราให้ความสำคัญกับความรักมั้ย? “มันมีช่วงนึงถ้าอินก็อินเลย ถ้าไม่อินคืออยู่ได้โสดๆ 3 ปีก็มี อาจจะเจอเรื่องที่ไม่ค่อยดี เลยรู้สึกว่าเราก็อยู่ได้” ถึงตอนนี้เรียกว่าความเป็นเราอาชีพคือนักร้อง? “ใช่ครับ ทำอย่างเดียวเลย ที่ผ่านมาก็มีเพลงมีอีเวนต์ เพลงประกอบละคร ช่วงว่างก็มีนะ ก็มีนอยด์ไปเหมือนกัน เวลาเราไม่ได้ออกเพลงไม่ได้โปรโมตก็มีแต่งานจ้างที่มันก็ไม่ได้มีทุกวัน เราก็ต้องดูแลจิตใจตัวเองให้มันดี ออกกำลังกาย ไปทำอะไรที่ไม่เครียด ที่บ้านโอเคไม่ได้บังคับอะไรเราเลย ที่บ้านสนับสนุนมาตลอด อย่างที่จะไปเกาหลีก็ไปด้วย เรามีแฟนคลับที่น่ารัก ก็ยังมีกลุ่มที่เหนียวแน่นกับเราผูกพันกันมาจริงๆ”.