“สูญเสีย” ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ต่างก็รู้สึกเศร้าใจไปด้วยกันทั้งนั้น เชื่อว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อต้องสูญเสียคนที่เรารัก หรือแม้กระทั่งคนที่เราชื่นชมผลงาน ซึ่งในวงการบันเทิงในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะทั้งไทยและเทศ เกิดข่าวช็อกวงการเกี่ยวกับการสูญเสียบุคลากรที่มีฝือมือดีกันไปเป็นจำนวนมาก และยิ่งน่าใจหาย เมื่อบุคคลเหล่านั้นตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยการ "ฆ่าตัวตาย"

และเป็นที่น่าสังเกตว่า นักร้อง นักดนตรี ไม่น้อยที่ตัดสินใจจบชีวิตด้วยวิธีแบบนี้ จนเป็นข่าวดังช็อกวงการ บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จะขอพาไปรำลึกถึงพวกเขา ว่ามีใครบ้างที่ตัดสินใจจากไปก่อนวัยอันควรด้วยตัวเขาเอง...

เชสเตอร์ เบนนิงตัน

เชสเตอร์ เบนนิงตัน (Chester Bennington) นักร้องนำวงร็อกเฮฟวีเมทัลชื่อดัง Linkin Park เจ้าของเพลงดัง In the end, Numb, What I've Done, Somewhere i belong ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยการฆ่าตัวตายโดยการแขวนคอ ในบ้านพักของตัวเองที่ ลอส แอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2560 ขณะอายุ 41 ปี

เชสเตอร์ มีประวัติเรื่องยาเสพติดและสุรามาเป็นเวลาร่วมปี โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เขาเคยคิดฆ่าตัวตาย เพราะเขาเคยถูกรังแกในสมัยเป็นเด็กโดยชายสูงอายุกว่า และสุดท้ายเขาก็ลงมือทำมันจริงๆ มีการสันนิษฐานว่าการแขวนคอครั้งนี้ อาจมาจากอาการ "ซึมเศร้า" ของเชสเตอร์เอง

...

เชสเตอร์ นักร้องนำวงลินคิน พาร์ค
เชสเตอร์ นักร้องนำวงลินคิน พาร์ค

เคิร์ต โคเบน

ย้อนไป 23 ปีก่อน เคิร์ต โคเบน (Kurt Cobain) นักร้องนำวง Nirvana ต้นแบบวงร็อกอัลเทอร์เนทีฟแห่งยุค 90 ที่มีเพลงฮิตอย่าง Come As You Are, Smells Like Teen Spirit ก็ตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองโดยการยิงตัวตาย ที่บ้านใน ซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2537 ขณะมีอายุเพียง 27 ปี

...

โดยกระแสข่าวในยุคนั้นรายงานว่า เคิร์ต มีปัญหายาเสพติดและชีวิตครอบครัว โดยรายงานอย่างเป็นทางการระบุว่า เคิร์ต โคเบน นักร้องสุดเท่ ยิงตัวตาย โดยกระสุนเจาะเข้าที่หัว แต่สาเหตุก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันจนทุกวันนี้ว่า เคิร์ต ฆ่าตัวตายหรือถูกฆาตกรรม แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ชื่อของ เคิร์ต โคเบน และ Nirvana คือตำนานหนึ่งของวงการดนตรีโลก

...

เคิร์ต โคเบน
เคิร์ต โคเบน

ฮิเดะโตะ มะสึโมะโตะ

ข้ามฟากมาที่ฝั่งเอเชีย ฮิเดะโตะ มะสึโมะโตะ (Hideto Matsumoto) หรือ ฮิเดะ มือกีตาร์แห่งวงร็อกในตำนานของญี่ปุ่นอย่าง X japan ที่มีเพลงดัง Say Anything และ Endless Rain ก็ถูกพบว่าเสียชีวิตสุดพิสดารโดยการแขวนคอด้วยผ้าเช็ดตัวผูกกับลูกบิดประตู เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2541 ขณะอายุ 33 ปี

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจของญี่ปุ่นสรุปว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่แฟนเพลงของ ฮิเดะ ก็ยังไม่ปักใจ เพราะไม่เชื่อว่า ฮิเดะ จะมีมูลเหตุในการฆ่าตัวตาย บ้างก็พากันสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นอุบัติเหตุจากการละเมอของเขา

...

แฟนคลับชาวญี่ปุ่น ต่างก็เสียใจถึงการจากไปของ ฮิเดะ
แฟนคลับชาวญี่ปุ่น ต่างก็เสียใจถึงการจากไปของ ฮิเดะ

ต่อด้วยที่ประเทศไทยบ้านเราเอง ก็มีนักร้อง นักดนตรีไม่น้อยที่ตัดสินใจจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย อันเนื่องมาจากโรคซึมเศร้า และปัญหาในชีวิตมากมาย 

โจ้ อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ หรือ โจ้ วงพอส

เริ่มที่ โจ้ อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ หรือ โจ้ วงพอส เป็นอดีตนักร้องนำของวงพอส โดยมีเอกลักษณ์ติดตัวคือ หัวฟู และน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของการร้องเพลงในระดับเสียงสูงแต่นุ่ม โจ้ เป็นที่รู้จักจากเจ้าของรางวัลชนะเลิศประเภทขับร้องเดี่ยว จากเวทีประกวดดนตรีเยาวชน โค้กมิวสิคอวอร์ดปี 2533 จากนั้นในปี 2536 เขาได้เข้ามาเป็นนักร้องนำวงพอส

โจ้ วงพอส มีผลงานเพลงดังๆ อย่าง ที่ว่าง, มีเพียงเรา, สัมพันธ์, ข้อความ, ดาว, บางสิ่ง, ความลับ และ รักเธอทั้งหมดของหัวใจ

แต่แล้ว! ในวันที่ 20 ก.พ. 2545 เวลา 04.00 น. มีคนพบโจ้เสียชีวิตภายในลิฟต์ที่แมนชั่นใน ซ.สุขุมวิท 50 ผลการชันสูตรพบบาดแผลกระสุนปืนบริเวณขมับขวา 1 นัด คาดว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย เพราะพบเขม่าดินปืนที่มือขวาของ โจ้ นักร้องชื่อดังจบชีวิตลงด้วยอายุ 31 ปี 

แต่ถึงแม้ว่าผลชันสูตรจะยืนยันได้ว่า เป็นการฆ่าตัวตาย เพราะเครียดกับเรื่องปัญหาส่วนตัว แต่เนื่องจากสาเหตุการตายยังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้ จึงยังมีคนแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย ว่าอาจจะเป็นประเด็นของการเข้าใจผิดกับเพื่อน ปัญหาความรัก พนันบอล หรือแม้กระทั่งความเครียด

ถึงแม้โจ้จะจากไป 15 ปีแล้ว แต่ความเป็นโจ้ และชื่อของ โจ้ วงพอส ก็ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่มีฝันด้านดนตรีตลอดมา แม้แต่เพลงที่เขาได้ร้องไว้ตอนช่วงที่ยังมีชีวิต จนมาถึง ณ ปัจจุบันนี้ ก็ยังเป็นเพลงฮิตตลอดกาล

โจ้ พอส
โจ้ พอส

ต้าร์ ดร.คิดส์ หรือ ต้าร์ บัณฑิตย์ เดชกุญชร

จากนั้นเพียง 1 ปี วงการเพลงไทยก็ต้องเศร้าต่อเนื่อง เมื่อ ต้าร์ ดร.คิดส์ หรือ ต้าร์ บัณฑิตย์ เดชกุญชร หนึ่งในสมาชิกของวง ดร.คิดส์ บอยแบนด์ยุคต้นๆ ของเมืองไทย ที่มีชื่อเสียงมาก และมีเพลงที่เป็นมนต์ขลังของ ดร.คิดส์ ดังทะลุเป็นพลุแตกกับเพลง "ข่าวร้าย"

แต่สุดท้ายก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อสุดท้าย ดร.คิดส์ ต้องเจอ "ข่าวร้าย" จริงๆ เมื่อ ต้าร์ ตัดสินใจจบชีวิตของตัวเอง เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2546 หลังจากที่ประกาศยุบวงได้ 5 ปี ขณะที่เขาอายุเพียง 25 ปีเท่านั้น สร้างความโศกเศร้าให้กับครอบครัวและแฟนคลับเป็นอย่างมาก ต้าร์เสียชีวิตในสภาพผูกคอตายด้วยเชือกไนลอนกับขื่อบ้าน โดยไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงแพรสีเขียว

วง ดร.คิดส์
วง ดร.คิดส์

ก่อนหน้าเขาได้เคยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง โดยมีกระแสข่าวว่า เกิดจากความเครียดเรื่องปัญหาชีวิตส่วนตัว และมีอาการซึมเศร้า ซึ่งหลังจากการเสียชีวิตของต้าร์ ทางญาติๆ ก็ไม่ได้ติดใจปมการตายแต่อย่างใด

ต้าร์ เคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ "มายา แชนแนล" ฉบับต้นสัปดาห์ วันพุธที่ 25-31 ธ.ค. 2545 โดยยอมรับว่า สาเหตุที่ติดยาเพราะต้องการผอม ตามกระแสความนิยมจากเมืองนอก ซึ่งเพื่อนเคยแนะนำให้ทดลองทั้งยาบ้า ยาอี แต่ยังไม่ถึงขั้นฉีดเข้าเส้นจนทำให้เส้นประสาทส่วนหนึ่งตาย

"เลิกไปได้ 4 ปีแล้ว แต่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ ปัจจุบันยังต้องกินยารักษาตัวอยู่ ทำให้ต้องจ่ายเงินค่ายาแต่ละเดือนจำนวนมาก ทุกวันนี้ผมต้องใส่แว่นตาดำอำพราง เพราะกลัวสายตาคนมอง และไม่กล้าสู้หน้าคน ผมจึงไม่เคยถอดแว่นเลย" 

เขาเล่าอีกว่า ถ้าหมดฤทธิ์ยาที่เคยกิน จะทำให้เกิดอาการเครียด ประสาทจะหลอน ไม่สามารถควบคุมสติได้ แต่ก็ไม่เคยไปทำร้ายคนอื่น เคยคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง เช่น ไปกระโดดแม่น้ำที่สะพานพระราม 7 ถึง 2 ครั้ง, กินยาแก้แพ้ 1 ตลับ ประมาณ 100 กว่าเม็ด, กินยาสระผม และล่าสุดนิ้วจิ้มที่ปลั๊กไฟก่อนที่จะใช้น้ำราด

อดีตนักร้องดังบอกด้วยว่า ชีวิตในอดีตถือว่าพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะ บ้าน, รถ, คอนโดฯ, ห้องอัดเสียง แต่วันนี้ไม่เหลืออะไรเลย เขาต้องขายทุกอย่างเพื่อเอาเงินมารักษาตัวเอง ทุกวันนี้อยู่กับแม่ ซึ่งพักอาศัยกับญาติแถวพระราม 7 ไม่มีแม้กระทั่งไฟฟ้าใช้ ต้องใช้เทียนจุด ชาวบ้านแถวนั้นมักจะมีน้ำใจนำข้าวสารอาหารแห้งมาให้ ตกเวลากลางคืนข้างบ้านจะให้เสียบปลั๊กพัดลมใช้คลายร้อน

เขาเปิดเผยอีกว่า ปัจจุบันต้องทำทุกวิถีทางที่จะได้เงินมาเป็นค่ายาเพื่อรักษาตัว ที่ผ่านมาเคยแต่งเพลงให้กับทางค่ายแกรมมี่ และอาร์เอส ทำงานด้านเบื้องหลังเป็นคอรัส, คิดเมโลดี้ ไม่ได้รับเป็นเงินเดือนแต่จะได้เป็นเปอร์เซ็นต์ตอบแทน

"ผมทำงานแม้กระทั่งเป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพระราม 6 ซึ่งตอนนี้ขายรถไปแล้วเพราะไม่มีเงินใช้ บางครั้งต้องนำตุ๊กตาที่เคยสะสมออกมาขายแถวสะพานพุทธ แถวคลองหลอด ได้เงินเพียง 100-200 บาท เพื่อนำเงินมารักษาตัว อาทิตย์หนึ่งผมต้องใช้เงิน 5-6 พันบาท ใช้เป็นค่ายาบำรุงประสาท ผมต้องกินอยู่ตลอด เพราะอาจเกิดการช็อกได้" 

ต้าร์ ถือเป็นนักร้องวัยรุ่นไทยจำนวนไม่กี่คนที่สามารถแต่งเพลง ทำดนตรีเอง และทำงานเบื้องหลังได้ ทำให้หลายคนต่างเสียดายความสามารถของเขามาก

สิงห์ ประชาธิป มุสิกพงศ์ หรือ สิงห์ สควีซ แอนนิมอล

เป็นข่าวดังสุดช็อกกันกลางดึกของแฟนเพลงเกือบค่อนของประเทศเลยก็ว่าได้ เมื่อมีข่าวว่า มือกีต้าร์วงอินดี้ อย่าง สิงห์ มุสิกพงศ์ หรือ สิงห์ สควีซ แอนนิมอล (Sqweez Annimal) ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง ด้วยการกระโดดตึกดิ่งลงจากชั้น 9 คอนโดของตนเองที่อยู่ใจกลางทองหล่อ และตกลงมาที่ระเบียงห้องชั้น 4 ของคอนโด ในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 29 ก.ค. 2558 เวลาประมาณ 22.00 น. และเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ซึ่งในวันนั้นเป็นวันที่ฝนเทกระหน่ำเมืองกรุงอย่างหนักอีกด้วย

เมื่อตำรวจเข้าตรวจสอบที่ห้องพัก ก็ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือรื้อค้นทรัพย์สินแต่อย่างใด แต่ที่ริมระเบียงมีกระป๋องเบียร์ที่เปิดแล้ว และมีจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของผู้ตายถึงแฟนสาว “To Faye only อย่าคิดมากนะที่รัก เราอยากไปมานานแล้ว ชีวิตสิงห์ได้รักคนที่ดีที่สุดในชีวิตมาแล้ว มันพอแล้วครับ” และลงท้ายด้วยชื่อของตนเอง

ซึ่งหลายคนคาดว่า สาเหตุการจบชีวิตครั้งนี้อาจมาจากปัญหาความรักก็เป็นได้ แต่ภายหลังมีการเปิดเผยข้อความจากมือถือของสิงห์ ที่เขาระบุว่า “กูไม่เคยอยากอยู่เลย” และปัญหาเรื่องอื่นๆ อีก จึงคาดว่าเขาอาจจะมีปัญหาสะสมในหลายๆ เรื่อง จนทำให้ตัดสินใจคิดจบชีวิตลง

จดหมายที่สิงห์เขียนถึงเฟย์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนตัดสินใจจบชีวิตลง
จดหมายที่สิงห์เขียนถึงเฟย์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนตัดสินใจจบชีวิตลง

ข่าวเศร้าครั้งนี้ สร้างความเสียใจให้กับครอบครัว เพื่อนพี่น้องในวงการบันเทิง และแฟนคลับเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ วิน สควีซ แอนนิมอล เพื่อนรุ่นพี่คู่หูร่วมวงของสิงห์ เพราะไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะตัดสินใจอย่างนี้ ทุกคนต่างร่วมไว้อาลัยให้กับการจากไปของ สิงห์ พร้อมกับติดแฮชแท็ก #RIPsingha และโพสต์ข้อความเพื่อระลึกถึง และต่างก็ยอมรับการจากไปของเขา

แม้ว่าวันนี้จะผ่านไปเกือบ 2 ปี การจากไปของ สิงห์ มือกีตาร์วงสควีซ แอนนิมอล แต่ก็เชื่อว่า เขายังคงอยู่ในใจของใครหลายๆ คนแน่นอน

ไม่ว่าการจากไปของพวกเขาจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ขอแสดงความเสียใจมา ณ​ โอกาสนี้ และเชื่อว่า พวกเขาเหล่านี้ ยังคงอยู่ในใจของใครหลายๆ คน อีกทั้งเชื่อว่า ณ เวลานี้ คนที่กำลังอ่านเรื่องนี้อยู่ ต้องกำลังเปิดหาเพลงของพวกเขามาฟังเพื่อรำลึกถึงเป็นแน่ 

เราอยากบอกพวกคุณว่า "คิดถึงนะ".