สุดเหวี่ยง สุดเดือด กันทั้งสุดสัปดาห์สำหรับ 808 Festival 2025 เทศกาลดนตรี EDM ระดับแลนด์มาร์กของไทย ที่ปีนี้กลับมาสร้างปรากฏการณ์ความสนุกเต็มกราฟกลาง Bitec Bangna ระหว่างวันที่ 5–7 ธันวาคม พร้อมไลน์อัปแน่นทุกเจเนอเรชัน โปรดักชันจัดเต็มสมศักดิ์ศรีเทศกาลที่ถูกจัดอันดับโดย DJ Mag ให้เป็นหนึ่งในงานดนตรีเต้นรำที่ดีที่สุดในโลก และยังยืนหนึ่งเป็นเฟสติวัล EDM อันดับต้นของไทยที่ผู้ชมจากทั่วโลกตั้งใจเดินทางมาร่วมมันส์แบบไร้ขีดจำกัด ปีนี้ยังสร้างความฮือฮาเมื่อ 808 กล้าพา “ดีเจสายอันเดอร์กราวนด์” มาร่วมไลน์อัปมากที่สุดเท่าที่เคยมีในไทย ถือเป็นหมุดหมายใหม่ของวงการเฟสติวัลบ้านเราอย่างแท้จริง


DAY 1 – ความเดือดเริ่มตั้งแต่วินาทีแรก

งานเปิดตัวอย่างเข้มข้นด้วย Ayrton L, Izecream และ Mr. Black ก่อนส่งต่อพลังให้ Juliet Fox และ Meguru สร้างอารมณ์สุดคูลให้ค่ำคืน ไฮไลต์ช่วงกลางคืนคือ MaRLo และ Maddix ที่ขนโชว์สุดพลังมาเรียกเสียงเฮต่อเนื่อง ก่อนปิดวันแรกด้วยโชว์สุดเข้มข้นของ Reinier Zonneveld ที่ทั้งเพลงและวิชวลทำเอาฮอลล์สั่นสะเทือนและกลายเป็นหนึ่งในโชว์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในปีนี้


DAY 2 – ซีนเทคโนมาแรงที่สุดในรอบหลายปี

วันถัดมาความเดือดเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดจาก Kanshriya, XIllIX, William Kiss และ Odd Mob ต่อด้วยซาวด์ UK Garage จาก Sammy Virji หนึ่งในโชว์ที่ดึงสายตาคนดูมากที่สุดคือ Dom Dolla ที่ปลุกฮอลล์ให้ลุกเป็นไฟด้วยพลังงานระดับมหาศาล อีกด้านของงานคือ Drumcode Stage ที่รวมสายแข็งอย่าง Heartbreakkidz x PVLMFCK, Di Sun, HNTR, Space 92, Massano และปิดอย่างยิ่งใหญ่ด้วยดูโอระดับตำนานจากกรุงเบอร์ลิน PAN-POT


DAY 3 – Grand Finale ที่สมกับเป็นไคลแมกซ์ส่งท้ายปี Monstercat Stage ระเบิดความสนุกตั้งแต่ช่วงเย็นกับ OOTORO, Inzo และ HABSTRAKT ก่อนปิดเวทีด้วยการแสดงสุดบ้าพลังจาก WUKI ด้าน Main Stage ก็เดือดไม่แพ้กัน ตั้งแต่โชว์ B2B ของ Atta x Seesounds x J-Nana ต่อด้วย Netsky, Malaa’s Alter Ego, Lucas & Steve และ TRYM ก่อนปิดท้ายงานด้วยตัวแม่สายเทคโน Charlotte de Witte

...


พลังของแฟนไทย ความสัมพันธ์ 22 ปี และซาวด์เยอรมันแท้ที่ยังคงเดินหน้าต่อ ผ่านบทสัมภาษณ์ของดูโอเทคโนระดับโลก Pan-Pot – Tassilo Ippenberger และ Thomas Benedix หลังจากที่พวกเขาปิด Drumcode Stage อย่างทรงพลัง 


“การกลับมาไทยเหมือนกลับบ้าน” Tassilo เล่าด้วยรอยยิ้มว่า ทุกครั้งที่กลับมาไทย พวกเขารู้สึกเหมือนได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง ผู้คนที่นี่ทำให้เขารู้สึกเหมือนกลับบ้านจริง ๆ พร้อมบอกด้วยว่าซีนอิเล็กทรอนิกส์ไทยเติบโตมาก จากคลับเล็ก ๆ จนกลายเป็นเฟสติวัลระดับโลก Thomas เสริมว่า พลังงานของคนไทยเป็นบวกเสมอ และทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจทุกครั้งที่มาถึง


สไตล์ Pan-Pot: ระหว่าง Raw, Peak-Time และกลิ่นอายเยอรมันแท้

เมื่อถามถึงแนวดนตรีของตัวเอง Thomas หัวเราะก่อนกล่าวว่า บางครั้งพวกเขายังตั้งคำถามกับตัวเองว่า “กำลังเล่นแนวอะไรกันอยู่?” แต่ถ้าขยายความให้ชัดเจน Pan-Pot อยู่ระหว่าง Raw Techno และ Peak-Time Techno และมี Tech House แทรกอยู่บ้าง Tassilo เสริมว่า ทุกอย่างที่ “มันกรู๊ฟ” พวกเขาพร้อมหยิบมาเล่นเสมอ


22 ปีในฐานะดูโอ—ยาวนานกว่าการแต่งงานหลายคู่ 

Tassilo เล่าว่า 10 ปีแรกของการร่วมงานคือยุค “ตีกัน”, 10 ปีถัดมาคือช่วง “คู่รักแฮปปี้” และตอนนี้เหมือนคู่รักวัยชรายังอยู่ด้วยกัน เขามองว่าการทำงานดูโอคือการประนีประนอม ท้าทาย และสนับสนุนกัน ข้อดีที่สุดคือ “คุณไม่เคยอยู่คนเดียว” Thomas เปรียบ Pan-Pot ว่าเป็นเหมือน “ลูกคนหนึ่ง” ของพวกเขา ที่เติบโตขึ้นมาเรื่อย ๆ และยังคงต้องดูแลอย่างต่อเนื่อง


บนเวที ไม่มีหน้าที่ตายตัว แต่เติมไฟให้กันเสมอ

ทั้งคู่เล่าว่าไม่ได้แบ่งหน้าที่ตายตัวในโชว์ ต่างคนต่างเตรียมเพลงของตัวเอง แล้วมาสร้างเซอร์ไพรส์ให้กันบนเวที ซึ่งทำให้การแสดงสดสนุกเสมอ เหมือนคู่รักที่คอยเติมพลังใหม่ ๆ ให้กันอยู่ตลอด 


สิ่งที่แฟนไทยจะได้เห็นในโชว์ที่ 808 Festival แฟนไทยได้ฟังเพลงใหม่ ๆ การแสดงที่ดีที่สุด และพลังเต็ม 120% เมื่อให้สรุปโชว์คืนนี้เป็น 3 คำ ทั้งคู่ตอบว่า Energetic, Fun และ Groove


ข้อความถึงแฟนชาวไทยก่อนจบการสนทนา Tassilo กล่าวอย่างจริงใจว่า พวกเขารักแฟนชาวไทยมาก และหวังว่าจะมีโอกาสกลับมาบ่อยที่สุดในอนาคต Thomas เสริมด้วยเสียงหัวเราะว่า “เขาพูดแทนเราหมดแล้วครับ!”