ใครจะคิดว่า ฉลาดเกมส์โกง หนังที่ว่าด้วยเรื่องของการ “โกงข้อสอบ” จะถูกบอกเล่าออกมาได้ตื่นเต้นราวกับหนังจารกรรมระทึกขวัญ บทหนังท้าทายและเล่นกับประสบการณ์ร่วมของคนดูทุกคนในเรื่องการศึกษา ที่ทำให้อินไปกับเรื่องได้ไม่ยาก แถมดึงให้รู้สึกลุ้นระทึกเหมือนไปสอบเอง เป็นหนังวัยรุ่นแสบๆ คันๆ ที่ “กัด” การศึกษาไทยได้แสบสันสุดๆ


การกลับมารับงานกำกับภาพยนตร์อีกครั้งของ นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ที่เคยมีเครดิตหนังระทึกขวัญอย่างเรื่อง “เคาท์ดาวน์” ซึ่งครั้งนี้ก็มาพร้อมความลุ้นระทึกกับการสร้าง “เงินล้าน” จาก “กระดาษคำตอบ”

...

ฉลาดเกมส์โกง เล่าเรื่องของ “ลิน” นักเรียนทุนเรียนเกรดเฉลี่ย 4.00 ทุกปีการศึกษา จุดเริ่มต้นจากการให้เพื่อน “เกรซ” ลอกข้อสอบ นำไปสู่การสร้างรายได้ โดยมี “พัฒน์” คนบ้านรวยเป็นตัวตั้งตัวตี เรื่องราวบานปลายสู่การโกงข้อสอบครั้งใหญ่กับการสอบ STIC ที่ใช้คะแนนสอบยื่นสมัครเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก ซึ่งจัดสอบพร้อมกันทั่วโลก ลินจึงต้องเดินทางไปสอบในประเทศที่เวลาเร็วกว่าไทย เพื่อส่งคำตอบกลับมาให้ลูกค้าที่ไทย ปัญหาเดียวคือลินไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว ต้องได้คนฉลาดอีกคนมาช่วย ซึ่งก็คือ “แบงค์” คู่แข่งนักเรียนทุน ซึ่งเกลียดการโกงสุดๆ ..แล้วสุดท้ายแผน “โกงข้อสอบข้ามโลก” ครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร


ลุ้นระทึก เหมือนไปสอบเอง

บทหนังมีความท้าทายและให้รสชาติที่แปลกใหม่ในหนังไทย เก่งกาจในการสร้างสถานการณ์ที่ชวนให้ติดตาม ค่อยๆ เร้า ให้รู้สึกผูกพันกับตัวละคร จนเป็นความลุ้นและเอาใจช่วยราวกับไปสอบเอง อย่าได้แปลกใจว่าทำไมดูหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกอินไปกับเรื่องราว เราไม่ใช่คิดว่า “การโกง” มันคือสิ่งที่ถูกต้องหรอก แต่มันเป็นเพราะเรื่อง “การศึกษา” คือประสบการณ์ร่วมที่ทุกคนมี นั่นหมายความว่า นี่ไม่ใช่หนังวัยรุ่นทั่วไป แต่เป็นหนังที่ผู้ใหญ่หรือคนในวงการศึกษาก็ดูได้

หนังมาพร้อมการตัดต่อที่จังหวะเทพลงตัว การสร้างสรรค์รูปแบบการลอกเป็นอีกสิ่งที่ชวนติดตามในหนัง ให้อารมณ์เหมือนดูหนังจารกรรมฮอลลีวูด ที่ต้องวางแผนการปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จในเงื่อนไขและเวลาอันจำกัด

แต่หนังก็จงใจขยี้เรื่องการโกงจนรู้สึกล้นๆ ไปนิด โดยเฉพาะช่วงท้าย แต่ก็นับว่าผู้กำกับนัฐวุฒิบ้าบิ่นดีในการนำพาหนังไปได้สุดทางแบบที่หนังจะไปได้ และยังอยู่ในขอบเขตความสมจริง


นักแสดงวัยรุ่น แต่การแสดงไม่ใช่เด็กๆ

หนังเรื่องนี้ถือว่าคัดเลือกนักแสดงออกมาได้น่าสนใจมาก คาแรกเตอร์แต่ละคนชัดและสวมบทบาทได้อย่างเข้าถึง โดยเฉพาะ น้องออกแบบ (ชื่อเล่นเก๋จริงๆ) ที่บุคลิกและหน้าตาน้องเขาโดดเด่นมีเอกลักษณ์ ซึ่งก็สามารถถ่ายทอดความกดดันในหลายสถานการณ์ออกมาได้ดี

ในขณะที่ น้องอุ้ม อิษยา ก็แสดงบทหน้าใสใจไม่ซื่อเห็นแก่ตัวได้น่ารังเกียจ ส่วน น้องเจมส์ ธีรดนย์ เป็นลูกคนรวยที่น่าหมั่นไส้มากๆ ในเรื่องซีนอารมณ์ต้องยกให้ น้องชานน กับความเจ็บปวดของการถูกทำร้ายที่แสดงออกมาได้น่าเห็นใจจริงๆ

...

เรียกได้ว่านักแสดงนำวัยรุ่นทั้ง 4 ถือเป็นเลือดใหม่ที่น่าจับตามองจริงๆ กับความก้าวหน้าทางการแสดงที่จะมีออกมาในอนาคต


เอาคืนระบบการศึกษา

สิ่งที่ชอบมากๆ คือหนังมีความ “กล้าหาญ” ที่จะพูดถึง “มะเร็ง” ในแวดวงการศึกษาไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่คนทั่วไปรู้แต่ไม่พูดกัน (และไม่มีวี่แววที่จะหาทางออกได้) เราทุกคนต่างรู้กันดีว่าการโกงของตัวละครในเรื่องไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แต่ก็แอบเห็นด้วยกับมุมมองร้ายๆ และเอาใจช่วยตัวละครที่เป็นประหนึ่งตัวแทนเราในการ “เอาคืน” ระบบการศึกษา ที่มุ่งสร้างรายได้มากกว่าสร้างคน (แม้ในรูปแบบภาพยนตร์ก็ยังดี)

ไม่เพียงเท่านั้น หนังยังสะท้อนบางสิ่งบางอย่างที่อาจเป็นบรรทัดฐานของสังคมในปัจจุบัน เช่น การใช้เงินแก้ปัญหาของคนรวย การใช้ความฉลาดในทางที่ผิด ความมีนอกมีในของคนมีอำนาจ ที่สุดท้ายทุกฝ่ายก็ล้วนแล้วแต่โกงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งทางออกของเรื่องที่หนังทิ้งไว้นั้น ดูเป็น “ความหวัง” ที่เราคาดหวังให้เกิดขึ้นจริงๆ ในสังคมไทยในสักวัน (ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่)

...


ต้องยอมรับว่าหนังไทยสายตีตลาดวงกว้าง ขาดหนังที่จะมาสร้างความคึกคักให้ตลาดมาสักพักใหญ่แล้ว (อย่างที่รู้ว่าวนๆ อยู่แต่ รัก ผี ตลก) ซึ่งก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วไม่รู้ว่าหนังเรื่องที่ 3 ของจีดีเอชรายได้จะไปหยุดที่เท่าไร แต่สิ่งหนึ่งที่รู้แน่ๆ คือ นี่คือหนังไทยที่คุ้มค่ากับการออกไปตีตั๋วดูในโรงภาพยนตร์ในช่วงนี้ ที่ให้ทั้งสาระและบันเทิง ใครที่เจ็บปวดกับหนังไทยมาตลอด “ฉลาดเกมส์โกง” นับเป็นตัวเลือกที่น่าลองให้โอกาสหนังไทยอีกครั้ง

...