“คังฮานึล” ไม่ทำให้ผิดหวัง แม้จะดูโทรม และจนมากเหมือนเคย แต่ก็เข้าถึงบทบาท

สารภาพว่ากดดูเพราะความอยากรู้ เห็นว่า Wall to Wall ได้เป็น Movie#1 ประจำสัปดาห์ของ Netflix ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ออกอากาศ จะเป็นเพราะกระแส หรือเพราะแฟนคลับ “คังฮานึล” หรือเปล่าที่ทำให้คะแนนพุ่ง หลังดูจบก็ได้คำตอบว่าหนังเขาก็มีดีเหมือนกัน ไม่ใช่เพราะ “คังฮานึล” คนเดียว

Wall to Wall เป็นเรื่องราวของ อูซอง (คังฮานึล) ชายหนุ่มฐานะธรรมดา เขาเป็นพนักงานออฟฟิศ และมีความฝันเหมือนหนุ่มสาวหลายคนในโซล คือมีบ้านหรืออพาทเมนต์เป็นของตัวเอง และเมื่อโอกาสมาถึง อูซองก็ไม่ลังเลจะกวาดเงินเก็บทั้งหมด รวมทั้งเงินกู้ต่างๆ จากแม่แท้ๆ ที่มีที่ดินในต่างจังหวัด มาดาวน์อพาทเมนต์หลังงามกลางใจเมือง โดยไม่คิดเลยว่าการได้ครอบครองอสังหาฯ หลังที่ว่า จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล…


สิ่งที่ อูซอง ต้องแลกกับการเป็นเจ้าของอพาทเมนต์กลางใจเมือง คือ อาการหลังขดหลังแข็งทำงานสองจ็อบ เพื่อหาเงินพิเศษมาโปะหนี้ดอกเบี้ยบ้านที่เพิ่มขึ้นจนเขาแทบชักหน้าไม่ถึงหลัง ไหนจะสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่เขาควรได้ใช้ในฐานะเจ้าของ กลับกลายเป็นว่าเขาต้องระงับการใช้ทั้งหมดเพราะไม่มีเงินจะจ่าย ทำให้ชีวิตที่เคยคิดว่าจะอยู่อย่างสุขสบาย กลายเป็นแค่วิมานในอากาศ

...

เรื่องคงไม่มีอะไร ถ้าปมมันหยุดแค่นี้ แต่ชีวิตของ อูซอง คงเส็งเคร็งไม่พอ เพราะตัวเร่งที่ทำให้เขาคิดอยากจบวงจรอุบาทว์การหาเงินแบบหามรุ่งหามค่ำ คือ เสียงดังประหลาดจากห้องเพื่อนบ้าน แต่ที่แย่ยิ่งกว่า คือเพื่อนบ้านก็ดันสงสัยเขาว่าเป็นต้นเหตุของเสียงดังประหลาดที่ว่า!

ความทริลเลอร์มันก็อยู่ตรงนี้แหละ ใครหรืออะไรคือต้นเหตุของเสียงประหลาดที่ว่า และอูซองจะรอดพ้นจากข้อกล่าวหาหรือไม่ หรือมันจะพาเขาไปเจออะไรที่ชวนตะลึงมากกว่า ต้องไปตามดูกันใน Netflix นะ

แน่นอนว่าจุดแข็งของเรื่องคือการแสดงของ “คังฮานึล” ผู้รับบท “อูซอง” ตัวละครที่มีบทบาทมากที่สุด และแบกทุกอย่างในเรื่องไว้กับตัว ไม่ว่าเขาจะทำอะไร หรือคิดอะไร มีผลต่อสถานการณ์ในฉากถัดไปเสมอ 

เราว่าตัวละคร “อูซอง” เป็นตัวแทนคนหนุ่มสาวในโซลที่ต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด และยกระดับสถานะของตัวเองให้ดีกว่าเดิมให้ได้ และสถานการณ์แวดล้อม โดยเฉพาะสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ในโซลที่ผันผวนอย่างรุนแรงก็ทำให้เขาตกเป็นเหยื่อ และทำให้เขาตั้งตัวไม่ติด และแทบล้มทั้งยืน

แต่ถึงอย่างนั้น ตัวละคร Underdog อย่าง อูซอง ก็พยายามดิ้นรนอย่างเต็มที่ เพื่อจะหาเงินก้อนเพื่อล้างหนี้ และเพื่อไปให้พ้นจากเรื่องวุ่นวายที่อพาทเมนต์นี้ ซึ่งทุกการตัดสินใจของเขา แม้ว่าเราจะไม่เห็นด้วย (ตามประสาคนดู) แต่สถานการณ์เหล่านั้นก็สะท้อนได้ดีถึงสภาวะกดดันที่หนุ่มสาวในโซลต้องเผชิญ

จะเรียกว่า คังฮานึล เป็นตัวประคองของหนังเรื่องนี้ก็ว่าได้ แน่ล่ะว่าเพราะสัดส่วนบทของเขามีมากกว่าใคร แต่ก็ปฏิเสธฝีไม้ลายมือ และความทุ่มเทของเขาไม่ได้ ที่เล่นอย่างไม่ห่วงหล่อ ไม่ห่วงโทรม ยทชายหนุ่มตกอับ ไร้สิ้นหนทาง เขาก็ทำได้ดี จนเราอดทั้งสมเพชปนเวทนาไม่ได้ อะไรมันพระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรกขนาดนี้

นอกจากการแสดงที่เข้าถึงบทบาทของ คังฮานึล แล้ว เนื้อเรื่องทริลเลอร์ที่เลยเถิดไปไกล แทบเดาไม่ได้ ก็เป็นจุดแข็งหนึ่งของ Wall to Wall อะไรทำให้เสียงดังประหลาดจากห้องเพื่อนบ้านกลายเป็นเรื่องบ้าบอคอแตกได้ขนาดนี้ 

...

อารมณ์ประมาณว่ายิ่งสาว ยิ่งสืบ ยิ่งเจอตอ แถมเป็นตอที่ค้านกับระบบที่สำคัญของประเทศเกาหลีใต้อีกต่างหาก ไม่แปลกใจเลยที่ Wall to Wall จะได้เสียงตอบรับดีพอสมควร ไม่ใช่แค่ดูระทึก ดูสนุก แต่ก็ยังแฝงสาระอันหนักอึ้งไว้ด้วย

แถมให้อีกนิด เราว่าภาษาหนัง หรือองค์ประกอบอื่นๆ ก็ช่วยในการเล่าเรื่องได้ดี โดยเฉพาะมุมกล้อง และการจัดแสงต่างๆ ทำให้เรื่องมีรายละเอียดปลีกย่อย เล็กๆ น้อยๆ ที่ชวนสะพรึง เป็นสีสันที่น่าสนใจ ไม่ได้เน้นที่ฉากไฮไลท์ หรือความเลือดสาดแบบที่หนังระทึกขวัญหลายๆ เรื่องชอบทำ

แต่ถึงกระนั้น ในภาพรวมก็จะมีช่วงอืดๆ อยู่บ้าง โดยเฉพาะช่วงที่ตัวเอกอย่าง อูซอง พยายามตามหาความจริงเรื่องเสียงดังประหลาดที่ว่านั้น ไอ้เราก็ลุ้น แต่มันก็จะเป็นจังหวะเนือยๆ ที่หลายครั้งก็ไม่ชวนให้ดูต่อ แต่ก็เพราะความอยากรู้ล้วนๆ นั่นแหละว่าเรื่องมันจะไปจบที่ตรงไหน อะไรเป็นสาเหตุของเรื่องทั้งหมดกันแน่

เอาเป็นว่าภาพรวมหนังดูสนุก อาจมีจุดเนือยบ้าง แต่รวมๆ พอไปได้ มีตัวดึงดูดทั้ง คังฮานึล และเส้นเรื่องทริลเลอร์ระทึกขวัญ แต่เลยเถิด และเดาไม่ได้ ช่วยดึงคะแนนไว้ ถือว่าเป็นหนังช่วงวันหยุดที่ดี ใครเป็น FC คังฮานึล คงไม่พลาด เช่นเดียวกับคอหนังเกาหลี แต่ถ้าไม่เคยลองก็ลองดูน้า เพราะหนังอาจทำให้เรามองห้องในอพาทเมนต์ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!

...


จนกว่าจะพบกันใหม่