เป็นอีกปรากฏการณ์ที่น่าจับตามองของวงการภาพยนตร์ไทย เมื่อ บริษัท ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ จำกัด บริษัทวางแผนการตลาดและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ นำโดย ต้น ชัยวัฒน์ มิ่งไม้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จับมือกับ แจ็ค เดอะ โกสท์ บอสใหญ่แห่งคอมมูนิตี้ด้านสยองขวัญอันดับหนึ่งของประเทศไทยอย่าง เดอะ โกสท์ เรดิโอ ประกาศเปิดตัว โกสท์ ไลท์ (Ghost Light) เพื่อเดินหน้าผลิตภาพยนตร์สยองขวัญสู่ตลาดไทยและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้าง จักรวาลหนังผี

และวันนี้เราได้สัมภาษณ์ 2 ตัวพ่อ จากวงการหนัง และวงการเรื่องเล่าสุดหลอน มาพูดคุยถามไถ่ถึงการจับมือกันทำโปรเจกต์สุดพิเศษนี้ขึ้นมา ซึ่งเราถาม พี่ต้น และ พี่แจ็ค ว่ามาร่วมมือกันผลิตหนังสยองขวัญได้อย่างไร และก็ได้รับคำตอบว่า 

ต้น : "เริ่มจากผมมาคุยกับพี่แจ็ค ตอนนั้นยังไม่มีเรื่องอะไรที่อยากจะทำ ก็บอกตรงๆ ว่า แจ็คมีความ เชี่ยวชาญทางเรื่องผีๆ และเห็นว่า The Ghost Radio มันคือจุดศูนย์รวมเรื่องผีที่ใหญ่ที่สุด เลยอยากใช้ความเป็น The Ghost Radio ที่เขามีแฟนรายการ และมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกลุ่มคนดู เกี่ยวกับกลุ่มผีของเขามาสร้างเป็นภาพยนตร์น่าจะดี เริ่มจากไอเดียนี้ก่อน ไปคุยกับพี่แจ็คว่า อยากทำร่วมกัน ไม่ใช่แค่ลงทุนร่วมกัน อยากได้ความสามารถของเขา อยากได้ทักษะที่พิเศษของเขามาร่วมกัน คุยกันจนลงตัว ใช้เวลาประมาณ 1 ปีในการคุยเรื่องนี้ เราคุยกันจนกลายเป็นโกสท์ไลท์ คุยกันตั้งแต่เรื่องว่าชื่อจะเป็นอะไร โมเดลจะอย่างไร รายละเอียดหนังมันควรจะอย่างไร ให้ลงตัว เหมือนมาทำความรู้จักให้เป็นเพื่อนสนิทกัน"

...

ทางด้าน แจ็ค เดอะโกสท์ ได้เสริมในเรื่องนี้เอาไว้ว่า "อย่างที่บอกคือ พี่ต้นมาคุยหลายรอบ แล้วก็เห็นอะไรบางอย่างที่มันตรงกัน ณ วันนั้นที่ผมนั่งอยู่ด้วย เห็นถึงสิ่งที่พี่ต้นนำมาเสนอ กลายเป็นว่ามันก็ตรงกับเรา อย่างที่บอกก่อนหน้านี้มีหลายเจ้าติดต่อมาอยากจะมาร่วมกับ The Ghost Radio ให้ The Ghost Radio คัดเลือกเรื่องให้หน่อย เพื่อไปทำเป็นหนัง เดี๋ยวเขาจะไปขาย ซึ่งเราไม่ได้อยากทำแบบนั้นครับ เพราะว่าผมกลัว เรื่องยอดคนดูคนฟังอาจจะเยอะจริง แต่คนทำเขาไม่เข้าใจในเรื่องเล่านั้น เอาไปทำแล้วมันก็แค่สร้างมาจากเรื่องเล่าที่มียอดวิว 10 ล้านวิว แล้วมันยังไงต่อ คนทำเขาอาจจะไม่อินกับเรื่องนั้น แต่ทาง ฉายแสงฯ เขาบอกมาเลยว่ามีเรื่องที่อยากทำอยู่

ตอนที่คุยกับ พี่โขม ก้องเกียรติ ผมเห็นแววตาเขา แล้วก็เห็นความตั้งใจของพี่ต้น แล้วมาตรงกับสิ่งที่เราอยากทำอยู่แล้ว คือ อยากทำหนังผีที่มันน่ากลัวจริงๆ ไม่ต้องใหญ่มาก ไม่ต้องฟอร์มยักษ์ ผมไม่อยากได้หนังฟอร์มยักษ์ ผมอยากทำหนังผีให้คนดูเข้าใจ อิน และดูง่าย ไม่ต้องซับซ้อน

เป็นผีแบบ ผีจริงๆ แบบเรื่องราวใกล้ตัว คนจะอินได้ง่าย ตอนที่คุยกัน ก็บอกว่า ทำยังไงก็ได้ให้คนกลับบ้านไปแล้วกลัวบ้านตัวเอง ระแวงข้างบ้านตัวเอง แค่นี้คือเราประสบความสำเร็จแล้วนะ"

จากนั้นเราถามถึงการคัดเลือกเรื่องเล่าที่จะมาทำหนัง เพราะเรื่องเล่ามีเยอะแยะมากมาย ใช้อะไรในการเลือกมาทำหนัง ซึ่งเราได้รับคำตอบว่า 

ต้น : "จริงๆ วิธีเลือก ก็ไม่ได้เลือกที่ยอดคนดูคนฟัง เพราะเรื่องที่เราเลือกยอดคนดูคนฟังก็ไม่ได้เยอะ คือผมได้ฟังเรื่อง เดอะโกสท์ เพราะภรรยาเป็นแฟนพันธุ์แท้ ภรรยาเปิดแล้วหลับ และผมต้องฟังแทน ผมก็เลยหลอนไปด้วย

หลักที่จะเลือกเรื่องที่จะมาทำ มันควรจะเหมาะกับการทำภาพยนตร์ แต่บางเรื่องเป็นเหมือนซีนหนึ่งมันไม่สามารถขยายเป็นภาพยนตร์ได้ แต่ผมว่าเรื่องนี้มันสามารถสร้างเป็นภาพยนตร์ได้ มันมีหลายมิติ ไม่ใช่แค่ความสยองขวัญ คุณจะได้อะไรกลับไป แล้วคิดถึงบ้านยังไง กลัวบ้านยังไง กลัวข้างบ้านยังไง

คนสมัยนี้จะซื้อบ้านซักหลังนึง คิดเยอะนะ ชีวิตทั้งชีวิตต้องใช้ชีวิตอยู่กับมันทั้งชีวิต ถ้ามันมีสิ่งอะไรแปลกปลอม และข้างบ้านก็น่ากลัวอีก ตรงข้ามบ้านยิ่งน่ากลัวอีก จะอยู่ยังไง (ยิ้ม)"

ทางด้าน แจ็ค เดอะโกสท์ ได้กล่าวเสริมเรื่องของความน่ากลัวที่อยากจะให้มีหนังที่ได้ร่วมกันสร้างว่า "ผมอยากให้มีภาพจำเหมือนกับ ชัตเตอร์ฯ ที่มีภาพจำว่า เมื่อไหร่ที่เราปวดคอ ภาพจำคือผีขี่คอ ส่วนหนังของเรา ผมอยากให้คนดูหนังเสร็จปุ๊บกลับไปต้องระแวงข้างบ้าน เพราะทุกคนต้องมีข้างบ้าน ไม่มีใครปลูกบ้านอยู่คนเดียว และอย่างที่บอก คนที่มาเล่าเรื่องนี้เขาเจอเรื่องนี้อยู่ในบ้านเขา 4 ปีกว่าที่เรื่องจะเคลียร์ทุกอย่างได้

วันที่พี่ต้นมาเล่าให้ฟังว่าอยากจะทำเรื่องนี้เป็นหนัง ผมรู้สึกดีเลย ใช่เลย เพราะอย่างที่บอก ผมชอบอะไรที่มันเรียลๆ ใกล้ตัวคน ไม่ต้องจินตนาการไปไกล ไม่ต้องเหนือจินตนาการเยอะ คือถ้ามันมีเรื่องอื่นๆ ที่มันยอดวิวเยอะๆ มันจินตนาการไปไกล แต่เรื่องนี้ คุณไม่ต้องจินตนาการ คุณกลับไปนอนในบ้าน คุณมองเห็นขื่อ คุณมองเห็นตู้ คุณมองเห็นอะไรในบ้าน แค่นี้ก็หลอนแล้ว"

...

เพราะอะไร ถึงทำค่ายหนังผีโดยเฉพาะ ซึ่ง ต้น ชัยวัฒน์ ได้บอกกับเราว่า "จริงๆ เราอยู่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์เป็น 10 ปี แล้วเราก็รู้สึกว่า เราติดตามความเปลี่ยนไป ความเคลื่อนไหวของมันอยู่ตลอดเวลา สิ่งนึงที่เราปฏิเสธไม่ได้เลย คือหนังสยองขวัญ หนังผี มันเป็นที่ถูกใจของกลุ่มคนดู สิ่งที่ผมพยายามตั้งใจคือ จะทำยังไงให้มันเสิร์ฟคนดูให้ดีที่สุด แล้ววัตถุดิบที่จะเสิร์ฟคนดูนั้นมันต้องพิเศษหน่อย ผมก็เลยต้องมาคอลแลปกับพี่แจ็ค ต้องให้พี่โขมมาช่วยทำ เพราะว่าผมรู้สึกว่า ถ้าเคมีที่เราผสมกันมันดี ผมว่าคนดูก็จะได้รับอรรถรส ความบันเทิงเต็มรูปแบบในแบบโรงภาพยนตร์จะให้ได้ ไม่ใช่ว่าเพราะเราเห็น ธี่หยด ทำเงินได้ เราก็เลยจะต้องทำ มันไม่ใช่อย่างนั้นครับ

และผมเห็นว่าตลาดหนังผีไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ในเอเชียหนังผีไทยกำลังถูกพูดถึง รสชาติของเรากำลังถูกพูดถึงในอาเซียนว่ามันเป็นรสชาติที่ถูกใจ ไม่ใช่แค่คนไทย รอบๆ เราก็ถูกใจไปหมด"

ส่วนจุดแข็งของหนังของค่ายนี้มันคืออะไร เราได้รับคำตอบว่า "จุดแข็งของเรา คือความจริงจัง เราเป็นหนังผีจริงจัง Based on true story สร้างจากเรื่องเล่าที่เขามาเล่าจริง แล้วตัวคนเล่ามีตัวตนอยู่จริง ผมว่ามันน่าจะเป็นจุดแข็งได้ประมาณนึง มันคือเรื่องจริงที่ คนๆ นึงต้องเจอ 4 ปี เขาอยู่มาได้อย่างไร"

พอมันจับมือกัน ร่วมมือกัน คนที่ชอบหนังแนวนี้ก็เริ่มจะคาดหวังกับสิ่งที่จะได้ดูจากตัวพ่อสายเรื่องเล่าผี และตัวพ่อการทำหนัง รู้สึกอย่างไรบ้าง ซึ่งทั้งคู่บอกกับเราว่า "ผมว่าคนดูคาดหวัง นั่นจึงทำให้เราต้องเก็บรายละเอียด ทำการบ้านให้เยอะ เราต้องค่อยๆ คุยกัน รายละเอียดก่อนจะสร้าง กว่าจะทำ กว่าจะจับมือร่วมกัน ต้องทำการบ้านให้หนัก ทั้งพี่ต้น พี่แจ็ค พี่โขม พี่อ้น ต้องทำการบ้านกันหนักหมด"

...

สำหรับโปรเจกต์แรกนี้ ทำไมถึงใช้ผู้กำกับถึง 2 คน คือพี่โขม ก้องเกียรติ และพี่อ้น นพพันธ์ และเราก็ได้รับคำตอบที่ทำให้เราตื่นเต้นที่จะรอดูผลงานการกำกับของทั้งคู่ไม่ไหวแล้วว่า 

"เรารู้จักพี่โขมอยู่แล้ว พี่อ้นเป็นคนเขียนบทด้วย นักแสดงด้วย ผมอยากได้ 2 มุมมอง พี่อ้นเหมือนตัวแทนคนรุ่นใหม่ พี่โขมก็จะเก๋าประสบการณ์ 2 มุมมองนี้ ผมแค่รู้สึกว่าการคอลแลปแบบนี้จะทำให้มันเฟรชขึ้น ทำให้หนังดูสดใหม่ขึ้น

และผมชอบงานพี่โขม และเขาไม่ได้กำกับหนังผีมานานแล้ว หลังจาก ลองของ จากนั้นเราก็ไม่ได้เห็นหนังผีแบบจริงจังของพี่โขมมาสักพักแล้ว รู้สึกว่าอยากเห็นพี่โขมทำหนังผี ผมว่าลายเส้นพี่โขม ทำความลึกลับดีครับ ความลึกลับยกให้เขาเลย ส่วนพี่อ้นร่วมงานกันมาอยู่แล้ว เขาเขียนบท พอมาอยู่ด้วยกัน เขาแข็งแรงมากทั้งคู่เลย"

การทำหนังครั้งนี้ คาดหวังในเรื่องของรายได้มากน้อยแค่ไหน เพราะแค่เปิดตัวก็เป็นที่พูดถึง และหลายคนรอดูกันแล้ว ซึ่งเราได้รับคำตอบในเรื่องนี้เอาไว้ว่า "เรื่องรายได้มันคือโบนัสที่มันอาจจะเกิดขึ้น สมมติว่าทำหนังยังไงให้คนติงน้อยที่สุด ให้คนเข้ามาดูแล้วรู้สึกโอเคกับหนังเรื่องนี้มากที่สุด เราจะทำให้มีการบอกต่อกันแบบปากต่อปากเกิดขึ้นได้หรือไม่ ผมเชื่อในพลังการบอกต่อ เรื่องไหนที่ต่อให้เราโปรโมตไปเต็มที่ มหาศาลมาก ถ้าไม่มีการบอกต่อ กระแสมันก็ไปต่อไม่ได้ครับ ซึ่งตอนนี้เราต้องทำให้หนังมันดีก่อน ให้คนด่าน้อยที่สุด"

...

เราถามกลับในอีกมุมว่า แต่ช่วงนี้หนังดีก็ไม่ทำเงินได้เยอะมาก มันเกิดจากปัจจัยอะไร เอาที่ศึกษามา แล้วก็มาปรับใช้กับหนังเรา มันคืออะไร ซึ่ง ต้น ชัยวัฒน์ ตอบคำถามนี้ของเราว่า "คือแนวทางของหนัง ผมว่าถ้าเรามองตัวเลขหนังสยองขวัญ ก็เห็นอยู่ เราไม่ได้บอกว่า เราจะทำหนังสยองขวัญที่ดี ไม่ใช่เราทำหนังที่ดี เรากำลังบอกคนดูว่า คนดูอยากดูอะไร เราจะเสิร์ฟอย่างนั้นให้คนดูแบบเต็มที่ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เรากำลังจะทำ มันคือการบ้านอย่างหนักที่เราจะพยายามตอบโจทย์คนดูที่เป็นส่วนใหญ่ที่เขาชอบแบบนี้ แฟนๆ ชาวแก๊งค์ Ghost Radio ชอบแบบนี้ คนดูหนังสยองขวัญชอบแบบนี้ คนดูกลุ่มหลักชอบแบบนี้มากกว่า"

แจ็ค เดอะโกสท์ กล่าวเสริมในคำถามนี้ว่า "เราทำให้คนที่ชอบดูหนังผีดูครับ คือเราไม่ได้ทำหนังแบบบทที่จะต้องไปถึงระดับชิงรางวัล ผมจะทำหนังให้คนชื่นชอบหนังผีดู ให้เขารู้สึกอินไปกับเรื่องมากที่สุด และผีที่พวกผมจะสร้างเป็นผีซีเรียส ผีจริงๆ จังๆ เลย (ยิ้ม)"

เพราะเป็นโปรเจกต์ที่หลายคนจับตามอง เราเลยอยากจะรู้ว่า ตอนนี้มีกี่เรื่องที่รอเปิดตัวอยู่บ้างแล้ว และเราก็ได้รู้ว่า ในปีนี้จะทำแค่ 1 เรื่องก่อน ซึ่งจะได้ดูปีนี้แน่นอน น่าจะช่วงๆ ไตรมาส 3 ส่วนแพลนของปีหน้าค่อยว่ากันใหม่ ซึ่งอาจจะมีสักเรื่องหรือ 2 เรื่อง ถ้ากระแสดี เราก็จะเสิร์ฟต่อ ต้องดูทิศทางกันไป เราจะค่อยๆ ไปกันทีละสเต็ป จักรวาลผีจะเป็นแบบไหนก็ต้องรอติดตามกัน 


และเป็นคำถามที่หลายคนก็อยากรู้ว่า การทำหนังผีมันจะตันหรือไม่ เพราะผีที่เราได้เห็นก็มีครบหลากหลากหลายรูปแบบ แต่เราได้รับคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องผีอย่าง แจ็ค เดอะโกสท์ ถึงเรื่องนี้ว่า
"ผมเคยคิดอย่างนี้เหมือนกันนะว่า วันนึงมันก็คงจะตัน เพราะเราจัดรายการผีมา เกิดวันนึงมันไม่มีเรื่องเล่าแล้วจะทำอย่างไร ผมเคยคิดเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว จนผ่านมาวันนี้ ตั้งแต่วันแรกที่มีรายการผี จน 20 ปี วันนั้นที่ผมคิด จนมาถึงวันนี้ มาเพิ่มอีก 10 ปี มันไม่มีวันหมดเลยครับ ยังมีเรื่องใหม่ๆ อยู่เสมอ มีมาเรื่อยๆ เลย เพราะฉะนั้น หนังผีก็ไปต่อได้อีกไกล และยังมีอีกเยอะมาก ไปได้อีกแน่นอน และคนเอเชียก็ชอบเรื่องผีๆ มาก หนังผีอินโดคือแข็งแกร่งและโหดมาก ฉีกปาก แหกปาก ฉีกตาหลุด กัดเลือดกระฉูด ผิดกับผีของเรา เพราะผีของเรามันต้องหลอน แต่เราไม่คิดสู้กับเขานะ อย่าไปสู้กับใครเลย เพราะเราทำของเราให้คนมาอินดีกว่า"

จากนั้นเราถามต่อว่า คิดจะไปตีตลาดหนังผีที่ไหนไว้บ้าง มองไว้บ้างหรือยัง เพราะบอกว่า หนังผียังไงก็ขายได้ ซึ่งเราได้รับคำตอบของคำถามนี้จาก ต้น ชัยวัฒน์ ว่า 

"จริงๆ ก่อนเปิดเรื่องนี้ ได้มีการพูดคุยกับต่างประเทศ ตอนนี้ก็มีทั้งเกาหลี ที่จะซื้อเราทั้ง Southeast Asia ก็มี ที่ยังไม่ได้เปิดกล้องด้วยนะ เขาก็เชื่อมั่นใน The Ghost เขาใช้คำว่า podcast ที่ popular ที่สุดในไทย เรามีชื่อผู้กำกับที่มีชื่อเสียง เขาบอกว่าเป็น horror podcast ที่ popular ที่สุดในประเทศไทย แล้วสร้างจากเรื่องจริง แล้วเขารู้สึกว่า เขาสนใจมาก ในตลาดผมตั้งเป้าไว้อย่างนี้ ใน Southeast Asia น่าจะงาน Hongkong Film กลางเดือนมีนาคม น่าจะ sold out

เราจะค่อยๆ เดินกันไปกันทีละสเต็ป เรียนรู้กับมันทีละสเต็ป ทำการบ้านให้หนัก แล้วก็เรียนรู้กับมัน  วิเคราะห์มันทีละสเต็ป ค่อยๆ สร้างจักรวาลผีของเราขึ้นมา และตอนนี้ความรู้สึกของพวกเราคือรู้สึกว่ามันลงตัวมากเลย ทั้งทีมงาน ทั้งผู้กำกับ เรื่องการตลาด มันดีแล้ว" 

เราถาม แจ็ค เดอะโกสท์ ต่อว่า รู้สึกตื่นเต้นมั้ย กับการที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ ในอีกรูปแบบหนึ่งที่เรายังไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งเจ้าตัวตอบเราว่า 

"ผมตื่นเต้นทุกครั้ง ผมพูดมาตลอดในชีวิตการจัดรายการเรื่องผีว่าวันนึงผมอยากเห็นเรื่องเล่ามันกลายเป็นหนังใหญ่จริงๆ ซักทีนึง แล้วผมไม่คิดว่ามันจะมาในรูปแบบที่ เราต้องลงไปทำเอง ผมคิดว่าสมัยก่อนตอนนั้นเดี๋ยวก็มีค่ายหนังติดต่อมา เอาไปสร้าง แต่เรามองว่า ไม่ควรทำอย่างนั้น กลายเป็นว่า พอวันนี้เราได้ลงไปทำเอง ตื่นเต้นอยู่แล้ว ตื่นเต้น เกร็งมากกว่าและรู้สึกกดดัน

และ ผีไทยคือ soft power อย่างนึงนะ เป็นมานานแล้วด้วย ไม่ใช่หนังผีนะ มันคือผีไทย โดยเฉพาะผีนางรำคือ soft power ของผีไทย ต่างชาติทั่วโลกรู้จักผีนางรำ คนญี่ปุ่นสะสมตุ๊กตานางรำของบ้านเรานะ มันคือโมเดล แล้วก็รู้ว่าเวลามาพักเมืองไทย มาโรงแรม ถ้าเจอคนออกมาแดนซ์ซิ่ง คือเจอแล้วนะ (ยิ้ม) สมัยก่อนฝรั่งไม่เข้าใจ คือว่ามันมีการโชว์ตอนกลางคืนด้วยเหรอ แล้วเขาก็มาเรา เราก็เลยรู้ว่า เขาโดนผีนางรำของเราหลอกแล้ว

และอย่างที่บอก ยิ่งคนเขาคาดหวัง เราก็ทำของเราให้เต็มที่ให้สมกับความคาดหวังของเขา เราทำเต็มที่แล้ว แล้วอยู่ที่คนดูตัดสินแล้วครับว่าเขาจะเห็นอย่างไรกับสิ่งที่เราทำไป เราไม่ทำลวกแน่นอนครับ ไม่อยากให้มันออกมาลวกๆ รีบฉาย รีบทำ ฉายเสร็จ จบ ไม่อยากทำแบบนั้น" 


หลังจากที่ได้ฟังจาก พี่ต้น และ พี่แจ็ค พูดถึงโปรเจกต์ Ghost Light สุดพิเศษนี้แล้ว บอกเลยว่าแฟนหนังผีต่างตั้งหน้าตั้งตารอรับความหลอนจากเรื่อง ข้างบ้าน กันอย่างใจจดใจจ่อ และอีกหลายคนรอดูจักรวาลผีของพี่แจ็คว่าจะสะพรึ่งและน่ากลัวขนาดไหน

แต่สำหรับเราแล้ว แค่ในระหว่างที่กำลังเรียบเรียงบทสัมภาษณ์นี้ ก็เจอเรื่องหลอนๆ ภายในบ้านของตัวเองอย่างที่พี่แจ็คอยากให้เกิดกับคนดูหนังเรื่อง ข้างบ้าน แล้วล่ะ....