เห็นอุตสาหกรรมภาพยนตร์ซึมๆ เศร้าๆ เพราะถูกทั้งโควิดและ Netflix ตีท้ายครัวเข้าอย่างจัง ทำคนเข้าโรงหนังน้อยลง แต่...แต่...แต่... อย่านึกว่า “เบา” นะเจ้าคะ ยกตัวอย่างกรณี “จีดีเอช ห้าห้าเก้า” ที่มี จินา โอสถศิลป์ นั่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เมื่อปีที่ผ่านมามีรายได้ 504 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าตั้ง 95%
เพราะเป็นค่ายหนังใหญ่ขวัญใจมหาชน จีดีเอชจึงยังไม่เคยประสบปัญหาขาดทุน แม้โรงหนังปิด โควิดซัด ก็ยังมีรายได้จากการขายสิทธิ์หนังในมือที่มีอยู่เป็นกะตั้ก ลูกค้ารายใหญ่ที่ซื้อหนังจีดีเอชทุกเรื่องก็คือ Netflix กระนั้น คุณจินา ซึ่งรักหนังไทยยิ่งชีพ ก็ยังไม่ถอดใจที่จะทำให้คนรุ่นใหม่กลับมาเข้าโรงหนังกันให้มากขึ้น เพราะอรรถรสมันผิดกัน
ปีนี้ จีดีเอชมีเป้าหมายเปิดหนังใหม่ 4 เรื่อง 1 ในนั้นเป็นหนังวัยรุ่นกำกับโดยอัตตา เหมวดี ผู้กำกับวัย 32 ซึ่งหวังว่าจะถูกจริตคนรุ่นใหม่ ดึงให้กลับเข้าโรงหนังอีกครั้ง แต่ที่ภูมิใจเสนอยิ่งคือโปรเจกต์รีมาสเตอร์หนังในตำนาน “แฟนฉัน” ในโอกาสครบรอบ 20 ปี (ลงโรงเมื่อ 3 ต.ค. 2546) โดยนำหนังฟิล์มมาทำเป็นดิจิทัลให้ภาพและเสียงคมชัดขึ้น แต่ยังคงความคลาสสิกแบบหนังฟิล์ม และจะมี end credit เป็นโปรเจกต์เล็กๆของ 6 ผู้กำกับแห่งแฟนฉันที่รอให้แฟนๆได้เซอร์ไพรส์
“แฟนฉัน” เป็นหนังที่ดูเมื่อไร ก็สุขใจทุกครั้ง จึงน่ายินดีที่ความสุขนั้นกำลังจะหวนกลับมาอีกครั้งแบบเต็มอรรถรสในโรงภาพยนตร์.