เรียกว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกมากสำหรับการดูหนังผีไทย

ต้องออกตัวก่อนว่าไม่ได้ทำการบ้านใดๆ กระทั่งตัวอย่างหนังเราก็หลีกเลี่ยงจะดู เพราะเอาจริงๆ เป็นคนไม่จริตหนังผีเท่าไร ประสบการณ์ดูหนังผีก็ไม่มาก เพราะฉะนั้น...สำหรับ “ร่างทรง” ถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่...ที่แปลกสำหรับเราพอสมควร

มันแปลกยังไงน่ะเหรอ...สำหรับหนังผีสัญชาติอื่นคงไม่แปลก แต่การเล่าเรื่องผีไทยด้วยวิธีการดำเนินเรื่องแบบ “สารคดี” ก็น่าจะไม่เป็นที่คุ้นเคยสำหรับคอหนัง (ผี) ชาวไทยเท่าไร ซึ่งส่วนตัวหนังก็ “ล่อลวง” เราได้ระดับหนึ่งแหละ...หลอกให้คนไม่ชอบหนังผีนั่งดูต่อไปได้เรื่อยๆ

เรียกว่าหนัง “Function” ได้ระดับหนึ่ง ลวงให้คนไม่โฉลกหนังผี (อย่างเรา) ดูได้เรื่อยๆ แต่ก็แค่ครึ่งเรื่องแรกเท่านั้นแหละค่ะ ครึ่งหลังถือว่าเป็นความท้าทายอีกแบบ เพราะจะว่าหลอนมากมันก็ไม่ขนาดนั้น แต่ก็มีภาพติดตาพอสมควรทีเดียว

...

ส่วนตัวเราคิดว่าเป็นการ “ทดลอง” ที่ดีนะ เป็นการเล่าเรื่องผีที่แตกต่าง ทำให้ประสบการณ์การดูหนังผีครั้งนี้ของเราไม่แย่นัก...แม้จะเหนื่อย (ลุ้น) มากก็ตามว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังการเป็น “ร่างทรง” ครั้งนี้

นอกจากวิธีเล่าที่แตกต่าง จุดแข็งอีกอย่างของ “ร่างทรง” คงเป็น “ทีมนักแสดง” ที่ต้องยอมรับว่าไม่ได้เป็นที่รู้จักสำหรับคนทั่วไปมากนัก แต่ก็ช่วยกันโอบอุ้มเรื่องได้ มีพัฒนาการที่ดี ค่อนข้างน่าเชื่อถือ จะมีแค่ตัวละคร “ทีมงานสารคดี” ที่หลุดไปหน่อย เหมือนไม่มีพัฒนาการและไม่ค่อย “เรียล” เท่าไรนัก

ในครึ่งแรก...การมีอยู่ของตัวละคร “ทีมงานสารคดี” ไม่ได้ “Distract” หรือกวนใจเรามากนัก เพราะมันก็เข้ากับวิธีการเล่าแบบสารคดีดี แต่สำหรับครึ่งหลังการมีอยู่ของตัวละครกลุ่มนี้กวนใจเรามาก มีหลายซีนที่ปฏิกิริยาดูไม่ค่อย Make Sense เหมือนลังเลใจว่าควรเล่าแบบสารคดีต่อไปดี หรือว่าควรจะ (แอบ) ถ่ายเพื่อเดินเรื่องต่อ

กระนั้นเรื่องความไม่เรียลของตัวละครทีมงานสารคดีก็เป็นแค่ “บาดแผลเล็กๆ” เรื่องที่กวนใจเรามากกว่าคือ Closure หรือจุดจบของเรื่อง ของแต่ละตัวละคร สารภาพตรงๆ ว่าอึนไปพักใหญ่หลังดูจบ เพราะก็สะระตะไม่ถูกว่าเรื่องของ “ร่างทรง” ที่ว่ามันควรจะมี “จุดจบ” แบบไหน...

...

เปิดเรื่องมาอย่างชัดว่าจะเป็นเรื่องของ “ร่างทรง” ของ “ย่าบาหยัน” โดยโฟกัสที่การสืบทอด “ร่างทรง” ของตระกูลหนึ่งที่ว่ากันว่าสืบทอดกันมานาน แต่เมื่อเรื่องเลยเถิด การสืบทอด “ร่างทรง” ถูกแทรกแซงโดยอะไรบางอย่าง “ร่างทรง” ที่ว่าก็เหมือนจะไม่ใช่ “ร่างทรง” อย่างที่หมายถึงตอนต้นเรื่องอีกต่อไป

แม้ว่าตอนจบของหนังจะนัวไปสักหน่อยสำหรับเรา แต่ในภาพรวม รายละเอียดและงานโปรดักชั่นต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดี บาดแผลเล็กๆ ระหว่างทางถือเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ (และให้อภัยได้) คงเป็นความคาดหวังของเราเองมากกว่าที่อยากได้จุดจบที่เปรี้ยงปร้างกว่านี้

เอาเป็นว่าโดยรวมเป็นการดูหนังผีที่เลวร้าย ส่วนตัวถือว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลก...แต่ก็ดีมากกว่าไม่ดี คอหนังผีอาจมีคอมเมนต์มากกว่านี้ อาจจะหลอนไม่สาแก่ใจหรือมีอะไรบางอย่างที่ยังสะพรึงไม่สุด แต่เราคิดว่าหนังมีความพยายามจะอธิบาย “ร่างทรง” ในแบบที่เราไม่ค่อยเห็นในหนังผีเรื่องอื่น ซึ่งก็ถือเป็นการเปลี่ยน Landscape หนังผีไทยๆ ที่ดีทีเดียว

ใครอยากลองเปิดประสบการณ์ดูหนังผีใหม่ๆ ก็ขอเรียนเชิญค่ะ หนังเข้าแล้ว รับรองว่าหลอนไม่มาก แต่ก็น่าจะจำไปอีกนาน

สุขสันต์วันฮาโลวีนค่ะทุกคน เจอกันใหม่เรื่องหน้า

มาดามอองทัวร์
Twitter @MadamAutuer

...