- คู่หูจากฮอลลีวูดอย่างนักแสดงหนุ่มรุ่นใหญ่ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ และผู้กำกับรุ่นเก๋า มาร์ติน สกอร์เซซี เตรียมควงแขนกันมามอบความสุนทรีย์แบบ ‘โหดดิบ’ ครั้งใหม่ผ่านผลงานใหม่ล่าสุดอย่าง Killers of the Flower Moon ที่ใกล้ลงจอฉายทางช่อง Apple TV+ เร็วๆ นี้
การกลับมาของ ‘คู่หู’ คู่ไหนในช่วงนี้ ก็คงจะดูไม่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้ชมสายสตรีมมิงฯ เท่ากับคู่ของนักแสดงหนุ่มรุ่นใหญ่ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ และผู้กำกับรุ่นเก๋า มาร์ติน สกอร์เซซี ที่ควงแขนกันมามอบความสุนทรีย์แบบ ‘โหดดิบ’ ครั้งใหม่ผ่านผลงานใหม่ล่าสุดอย่าง Killers of the Flower Moon ที่เตรียมลงจอฉายทางช่อง Apple TV+ เร็วๆ นี้
ถือได้ว่าเป็นครั้งที่ 6 แล้ว สำหรับการร่วมงานกันระหว่างดิคาปริโอกับสกอร์เซซี ถัดจาก Gangs of New York (2002), The Aviator (2004 - ที่ทำให้ดิคาปริโอชิงออสการ์ ‘นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม’ เป็นครั้งแรก), The Departed (2006), Shutter Island (2010) และ The Wolf of Wallstreet (2013 - ชิงออสการ์ ‘นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม’) โดยหนังที่มีชื่อ (เกือบ)ชวนฝันเรื่องนี้ เป็นการร่วมงานกันในรอบ 8 ปีของทั้งคู่ และดัดแปลงมาจากหนังสือดังชื่อเดียวกันในปี 2017 ของนักข่าว New Yorker อย่าง เดวิด แกรนน์ ที่เล่าถึงการตามสืบสวนคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นจริงในโอเซจ เคาน์ตี รัฐโอกลาโฮมา ยุค 1920 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่มีส่วนในการสร้างชื่อเสียงให้ทีมสืบสวนอย่าง FBI ที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นมาในช่วงเวลานั้น
...
Killers of the Flower Moon เล่าถึง เออร์เนสต์ เบิร์กฮาร์ต ชายหนุ่มที่ทำตามแผนลวงของลุงโดย ‘ตีหน้าซื่อ’ เข้ามาแต่งงานกับภรรยาผู้เป็นชนพื้นเมือง และวางแผน ‘สังหาร’ สมาชิกครอบครัวของเธออย่างแนบเนียนไปทีละคนสองคน เพราะหมายจะฮุบธุรกิจบ่อน้ำมันบนพื้นที่ของตระกูลนี้ในโอเซจเอาไว้เสียเอง โดยนอกจากดิคาปริโอจะมารับบทตัวเอกที่ ‘บวมฉุขึ้น’ จนหลายคนจำแทบไม่ได้แล้ว (ซึ่งชาวโซเชียลฯ หยิบรูปนี้เอาไปแซวกันใหญ่โต) ก็ยังมีนักแสดงรุ่นเก๋ากว่าอย่าง โรเบิร์ต เดอ นีโร -ที่ก็เคยร่วมงานกับสกอร์เซซีมาแล้วถึง 10 ครั้ง นับจาก Mean Streets (1973)- และนักแสดงสาวชาวพื้นเมือง ลิลี แกลดสโตน -ผู้เคยปรากฏตัวใน Certain Women (2016)- มาร่วมวงด้วย โดยคนแรกจะรับบทเป็นลุงจอมวางแผนของตัวละครเบิร์กฮาร์ต ส่วนคนหลังมารับบทเป็นภรรยาผู้ตกเป็นเหยื่อของเขา
อนึ่ง ชนพื้นเมืองในโอเซจยุคนั้นเป็นเชื้อสายเคยผ่านประวัติศาสตร์อันเลวร้ายมาก่อน ทั้งจากการถูกคนผิวขาวไล่ที่จากบ้านเกิดทั้งในมิซซูรีและอาร์คันซอส์จนต้องคอยอพยพอย่างไม่หยุดหย่อน, ถูกเอารัดเอาเปรียบทางสังคม, ถูกทำร้าย หรือแม้แต่ถูกสังหารอย่างไร้มนุษยธรรม ก่อนจะถูกภาครัฐผลักไสให้มาอยู่ใน ‘พื้นที่แห้งแล้งไร้ประโยชน์’ อย่างโอเซจของโอกลาโฮมา -- ซึ่งในเวลาต่อมา ได้กลายเป็นแหล่งผลิตน้ำมันใต้ดินอย่างไม่น่าเชื่อที่ทำเงินได้ปีละหลายสิบล้านเหรียญฯ มาตั้งแต่ปี 1894 และนำพาให้คนผิวขาวกลับมาระรานพวกเขาอีกครั้ง
“สิ่งที่จับขั้วหัวใจผม (จากหนังสือ) ก็คือสัญชาตญาณความชั่วช้าครับ” สกอร์เซซีพูดถึงการเลือกหนังสือสืบสวนเล่มนี้มาเล่า “มันเป็นสิ่งที่แฝงอยู่ในตัวเรา และทำให้เราสามารถทำเรื่องชั่วๆ พวกนี้ได้”
อย่างไรก็ดี ว่ากันว่าสกอร์เซซีได้ทุนสร้างในการทำหนังเรื่องนี้ให้ Apple Studios มากถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว หลังจากที่สกอร์เซซีเคยได้ทุนตอนทำ The Irishman (2019) จาก Netflix มาแล้วราว 250 ล้านเหรียญฯ และถึงแม้ว่ายังไม่มีกำหนดวันฉายที่แน่นอน แต่ผู้เกี่ยวข้องเผยว่า Killers of the Flower Moon จะถูกนำไปฉายในโรงหนังล่วงหน้า ก่อนนำมาฉายในช่องสตรีมมิงฯ อย่าง Apple TV+ อีกทีหนึ่ง
อ้างอิง: Cult of Mac, Vanity Fair, Mashable India
...