“มาร์ติน ลอว์เรนซ์” ออริจิมาก
คือเป็นตำนาน
เป็นสายเอ็นฯที่แท้ทรู

25 ปีหลังจาก Bad Boys
17 ปีหลังจาก Bad Boys II

 

ในที่สุดก็ถึงภาคทิ้งทวนอย่าง “Bad Boys For Life” คู่หูนักสืบที่ต่างกันสุดขั้วอย่าง “ไมค์ โลเวอรี” (วิล สมิธ) และ “มาร์คัส เบอร์เน็ตต์” (มาร์ติน ลอว์เรนซ์) ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง

แน่นอนว่าภารกิจของทั้งคู่ก็ไม่ธรรมดาเหมือนภาคก่อนๆ แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือสังขารของลุงๆ ทั้งสองที่ร่วงโรยไปตามกาลเวลา กระนั้นดีกรีความเก๋ารวมไปถึงความฮากลับไม่ดร็อปลงเลย

คู่หูตัวเอกของเรื่อง
คู่หูตัวเอกของเรื่อง "วิล สมิธ" และ "มาร์ติน ลอว์เรนซ์"

...

น่าจะเป็นอีกเรื่องที่เข้าโรงพร้อมความไม่คาดหวัง เพราะแต่เดิมก็ไม่ได้เป็นแฟนคลับของ “Bad Boys” เท่าไหร่ แต่ต้องบอกว่าเซอร์ไพรส์มากเพราะหนังดูสนุกมาก

เรื่องราวในภาคนี้เป็นช่วงบั้นปลายชีวิตทำงาน (ก่อนเกษียณ) ของสองคู่หู “ไมค์” (วิล สมิธ) และ “มาร์คัส” (มาร์ติน ลอว์เรนซ์) แต่ก็ดันเกิดเรื่องเสียก่อน เมื่อจู่ๆ มีมือปืนปริศนาบุกมายิงไมค์!!!

"วิล สมิธ" รับบท "ไมค์" นายตำรวจมือปราบเลือดร้อน

ถ้าใครเคยดูภาคก่อนๆ คงพอเดาปฏิกิริยาของนักสืบเลือดร้อนอย่าง “ไมค์” ได้ แน่นอนว่าเขาต้องอาสาหาตัวคนร้าย แต่ใครล่ะที่จะเป็นคู่หูของเขาในงานนี้ เพราะ “มาร์คัส” ยืนกรานจะเกษียณ

ใครที่ดูตัวอย่างหนังน่าจะรู้เรื่องช่วงนี้ดี เรื่องราวหลังจากนี้จะเป็นภารกิจของคุณลุงคู่หูสุดซ่าที่จะร่วมมือกับหน่วยนักสืบชุดพิเศษที่เชี่ยวชาญเรื่องอาวุธและยุทโธปกรณ์รุ่นใหม่

คู่หูตัวเอกของเรื่อง
คู่หูตัวเอกของเรื่อง "วิล สมิธ" และ "มาร์ติน ลอว์เรนซ์"

ลองนึกภาพดู...เมื่อสองลุงต้องมาเจออุปกรณ์สุดไฮเทค...น่าจะเป็นบรรยากาศรวมๆ ของเรื่อง แต่ที่เซอร์ไพรส์กว่านั้นคือภารกิจครั้งนี้จะพาเราไปรู้จักตัวตนอีกด้านของ “ไมค์” ว่ากว่าเขาจะมาเป็นมือปราบยิงไม่เข้า เขาต้องพบเจอเรื่องราวอะไรมาบ้าง

รับรองว่าต้องเซอร์ไพรส์แน่เพราะ “หนุ่มโสด” อย่าง “ไมค์” นั้นมีอดีตที่ไม่ธรรมดาทีเดียว

เราว่าหนังมีเสน่ห์เพราะเคมีของคู่หูต่างขั้วอย่าง “ไมค์” และ “มาร์คัส” ซึ่งแม้ว่าคาแรกเตอร์ตัวละครจะเชยๆ เหมือนที่เราเคยเห็นในหนังแอ็กชั่นคอมเมดี้ทั่วไป แต่กลับชูรสให้หนังอย่างบอกไม่ถูก เป็นความฮาที่มีความเสี่ยวในบางที แต่ก็ดูเรียล จริงใจ และไม่ท่ามากเท่าหนังแอ็กชั่นสมัยนี้

...

ที่ชอบมากที่สุดคือตัวละคร “มาร์คัส” (มาร์ติน ลอว์เรนซ์) มีความตลกแบบออริจิแบบไม่ต้องพยายาม ทุกฉากที่มีเขาคือเราได้ยิ้มและหัวเราะตามตลอด แม้ว่าซีนนั้นจะเป็นซีนความเป็นความตายก็ตาม ซึ่งนอกจากจะยกความดีให้ทีมออกแบบคาแรกเตอร์ที่ทำให้ตัวละคร “มาร์คัส” มีเสน่ห์ขนาดนี้แล้ว ยังต้องยกความดีให้ฝีมือการแสดง(ตลก)ระดับเทพให้ “มาร์ติน ลอว์เรนซ์” ด้วย เพราะคงมีไม่กี่คนที่จะตลกหน้าตายและเป็นธรรมชาติได้ขนาดนี้

"วิล สมิธ" รับบท "ไมค์" นายตำรวจมือปราบเลือดร้อน

สำหรับ “วิล สมิธ” เรื่องนี้เราก็ว่าดี เราให้บวกมากกว่าหนังเรื่องอื่นๆ รวมทั้งบทบาท “จินนี่” ยักษ์ในตะเกียงของอาละดิน แต่กระนั้นส่วนตัวเราก็ชอบ “มาร์ติน ลอว์เรนซ์” มากกว่า

...

เอาเป็นว่าหนังดูสนุก เป็นภาคต่อที่ไม่แป้กและไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน...

มาดามอองทัวร์
@MadamAutuer