“เอมิเลีย คลาร์ก” เล่นดีมาก
น่าหยิกและน่ากอดในเวลาเดียวกัน
ว่ากันว่าชื่อเรื่อง “Last Christmas” มาจากชื่อเพลงดังอมตะของ “จอร์จ ไมเคิล” โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากเนื้อหาที่พูดถึงความรักในวันคริสต์มาสปีที่แล้ว...
“เคท” (เอมิเลีย คลาร์ก) กลายเป็นคนไร้หัวใจหลังการเปลี่ยนถ่ายหัวใจครั้งสำคัญเมื่อปีก่อน (Last Christmas) เธอใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงเพื่อตามหาและเติมเต็ม “หัวใจ” ที่เธอเชื่อว่าถูกโยนทิ้งไปเมื่อตอนผ่าตัด กระทั่งคริสต์มาสปีนี้...หัวใจที่เคยด้านชากลับเต้นแรงอีกครั้งเมื่อมันได้เจอกับใครบางคนที่ไม่คาดฝัน...
ตีความจากเพลงก็น่าจะดู “Cheesy” หรือว่าดูเลี่ยนๆ ก่อนดูก็เดาๆ เอาเองว่าน่าจะน้ำเน่า แต่ต้องบอกว่าเซอร์ไพรส์ไม่น้อยเพราะหนังดูสนุกมากกว่าที่คิด
ส่วนตัวคิดว่าบวกแรกคงเป็นเพราะนักแสดงนำอย่าง “เอมิเลีย คลาร์ก” หรือที่แฟนๆ ทั่วโลกรู้จักดีจากบทบาทมังกรสาวสุดฮอตจากซีรีส์ดังอย่าง “Game of Thrones” ที่ครั้งนี้กลับมาเขย่าหัวใจแฟนๆ อีกครั้งกับบทบาท “เคท” หญิงสาวผู้มีบาดแผลในหัวใจ
...
เอาจริงๆ อยากดูเรื่องนี้เพราะชื่นชอบ “เอมิเลีย” เป็นการส่วนตัว เพราะแม้หน้าตาจะไม่สวยจัดเหมือนนักแสดงสาวคนอื่น แต่ก็เรียกว่ามีเสน่ห์มาก โดยเฉพาะฝีไม้การแสดงของเธอที่ทำให้เรา “เอ็นดู” เด็กมีปัญหาอย่าง “เคท” ได้ไม่ยาก
นอกจากงานบวกอย่าง “เอมิเลีย” นักแสดงหนุ่มที่มารับบท “ทอม” เจ้าของ “หัวใจ” ของ “เคท” (เอมิเลีย) ก็คือ “เฮนรี่ โกลดิ้ง” ซึ่งเคยทำให้สาวๆ ใจละลายมาแล้วจากบทบาท “นิค ยัง” ทายาทเศรษฐีระดับโลกใน “Crazy Rich Asians” (2018) ก็เป็นงานบวกๆ ไม่แพ้กัน โดยเฉพาะออร่าความหล่อและแววตาอบอุ่นที่เขาเพียรส่งมาทั้งเรื่อง ก็น่าจะทำให้แฟนๆ สาวๆ คลั่งไคล้ได้ไม่ยาก
เอาเป็นว่าองค์ประกอบหลักอย่างนักแสดงนำจัดว่าเป็นแม่เหล็กที่ดี เคมีก็เข้ากันดีอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเอาจริงๆ ตอนแรกที่เห็นหน้าหนังก็รู้สึกขัดๆ อยู่เหมือนกัน แต่ทั้งคู่ก็ทำได้ดี และบทเข้าพระเข้านางก็น่าเคลิ้มตามกว่าที่จินตนาการไว้มาก
...
ในส่วนของเนื้อหาก็ไม่มีอะไรซับซ้อน เชื่อว่าคอหนังประเภทนี้น่าจะพอเดาเนื้อเรื่องได้ตั้งแต่ต้นว่า “หัวใจ” ของ “เคท” มีที่มาที่ไปจากไหน และใครที่เป็นเจ้าของ “หัวใจ” ของเธอ
...
เอาจริงๆ หนังทำให้เรานึกถึงพลอตหนังเกาหลีเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งมันก็น่าจะน้ำเน่าเหมือนที่เราเคยดู แต่หนังก็แอบ twist เล็กๆ ในช่วงท้ายที่ไม่ได้โฟกัสแค่เรื่อง “หัวใจ” ที่ถูกเปลี่ยนถ่าย แต่พูดเรื่อง “คุณค่า” ของหัวใจมากกว่าว่าจะใช้มันไปในทิศทางไหน
ถึงจุดนี้หลายคนน่าจะพอเดาเรื่องกันได้ แต่ที่หนังดูสนุกเพราะสารพัดมุกหักมุมที่ขยันดักคอคนดูอย่างเราให้ผิดคาดเสมอๆ และแม้ว่าเนื้อเรื่องโดยรวมจะไม่หวือหวา แต่หนังก็เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากเราได้เป็นระยะๆ ที่สำคัญตอนจบของเรื่องค่อนข้างดีทีเดียว ตัวละครมี closure ที่ไม่น้ำเน่า ไม่ได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่ก็มีพัฒนาการขึ้นอย่างสมเหตุสมผล ทำให้เรื่องที่น่าจะดราม่าน้ำตาซึมกลายเป็นหนังรักที่ทำให้หัวใจอุ่นได้ไม่ยาก
...
จัดว่าเป็นหนังต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสและส่งท้ายปีได้ดีทีเดียว คอหนังประเภทนี้ต้องไม่พลาด ส่วนใครที่ลังเลก็ขอให้ลองเปิดใจ รับรองว่าการตามหา “หัวใจ” ครั้งนี้จะทำให้คุณๆ หุบยิ้มไม่ลง
มาดามอองทัวร์
@MadamAutuer