ถือว่าเกินความคาดหมายมาก
เรื่องกอล์ฟๆ ก็ทำเราเสียน้ำตาได้
ต้องเรียกว่าหนังมาเหนือความคาดหมายมาก สำหรับภาพยนตร์ “โปรเม อัจฉริยะ/ต้อง/สร้าง” ครั้งแรกที่ได้รับหมาย บอกตามตรงว่าแอบกลัวนิดๆ เพราะความรู้เกี่ยวกับกีฬากอล์ฟที่เรามีเท่ากับศูนย์ เราจะรอดไหมหากไปดูหนังเรื่องนี้?
เราไม่ได้ตามข่าวของ “โปรเม เอรียา จุฑานุกาล” มากนัก นอกจากเธอเป็นนักกอล์ฟหญิงชาวไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ระดับโลกได้แล้วเราก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเธออีกเลย ฉะนั้น...ส่วนตัวแล้วเรื่องนี้นอกจากชีวประวัติของเธอเรายังได้รู้ Timeline ความสำเร็จของเธอด้วย
...
เชื่อว่าประวัติคร่าวๆ ของโปรเม แฟนกอล์ฟ หรือ FC ของเธอน่าจะรู้เรื่องดีอยู่แล้ว หนังไม่ได้เน้นเรื่องเซอร์ไพรส์หรือหักมุมอะไรมาก แต่รายละเอียดเบื้องหลังความสำเร็จของโปรเมต่างหากที่น่าทึ่ง...กว่าจะมาถึงจุดสูงสุดอย่างวันนี้เธอต้องผ่านอะไรมาบ้าง?
จะเรียกว่า “ป๋าดันตัวจริง” คงไม่ผิดนัก ทั้ง “โปรเม” (คริสซี่ กฤษณ์สิรี สุขสวัสดิ์) และ “โปรโม” (ปริม อัจฉรียา โพธิพิพิธธนากร) มีโค้ชคนแรกในชีวิตคือ “พ่อ” (ธเนศ วรากุลนุเคราะห์) สองพี่น้องไม่ได้ใช้ชีวิตวัยเด็กเหมือนเพื่อนร่วมรุ่นคนอื่นแต่ต้องฝึกฝนอย่างหนักเพื่อเป้าหมาย(ของพ่อ) คือ การเป็นนักกอล์ฟอาชีพระดับโลก
...
ถ้าแค่ฝึกฝนหนักก็คงไม่น่าทึ่ง เพราะนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จแทบทุกคนบนโลกนี้ล้วนต้องฝึกฝนตนอย่างหนักแทบทั้งสิ้น และหนังก็มาถูกทางที่เลือกขุดคุ้ยดราม่าของสองพี่น้องที่กว่าจะผ่านบทเรียนสุดทรหด (และทรมานจิตใจคนดู) มาได้ทั้งคู่ต้องอึดแค่ไหน
เรียกง่ายๆ ว่าหนังพาเราไปรู้จัก “โปรเม” ในมุมที่เป็นมุนษย์มากขึ้น ไม่ใช่แค่นักกีฬาที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ต้องก้าวผ่านความล้มเหลวของตัวเองไปให้ได้ และบทเรียนหนักหนาตลอดชีวิตของเธอทำให้เราอดลุ้น และเอาใจช่วยเธอจนถึงที่สุดไม่ได้
...
และในที่สุดเราก็มาถึงจุดนี้...จุดที่น้ำตาไหลช้าๆ กับความสำเร็จของ “โปรเม” วินาทีที่เธอพัตต์ลูกลงหลุม 18 กลายเป็นแชมป์โลกชาวไทยคนแรก
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าหนังจะพาเรามาถึงจุดนี้ มาดามยังไม่เชื่อตัวเองเลยว่าจะร้องไห้กับเรื่องกอล์ฟๆ ได้ หลายคนที่ติดตามข่าวน่าจะรู้เรื่องการได้แชมป์ของโปรเมแล้ว เรื่องมันไม่น่าจะสะเทือนใจได้ แต่อารมณ์บีบคั้นและดราม่าที่ส่งต่อๆ กันมาตั้งแต่ต้นเรื่อง ทำให้เรามาถึงจุดนี้
รวมๆ เราว่าหนังดูสนุกเกินคาดทีเดียว เนื้อเรื่องอาจไม่มีอะไรแปลกใหม่ (เพราะเป็นเรื่องจริงซะส่วนใหญ่) แต่วิธีการขยี้ปมดราม่าของสองพี่น้องโปรระดับโลกต่างหากที่ทำให้เรื่องมีสีสันขึ้น
...
แฟนกอล์ฟน่าจะชอบเรื่องนี้ แต่ถึงไม่ใช่แฟนกอล์ฟอย่างมาดามก็ดูได้ค่ะ ที่สำคัญนอกเหนือจากการทำความรู้สึก “โปรเม” เรายังน่าจะได้ดูกอล์ฟเป็นและสนุกขึ้นด้วย จากการดูหนังเรื่องนี้
มาดามอองทัวร์
@MadamAutuer