ช่วงนี้จะมีหนังเกี่ยวกับหมาถี่หน่อย แต่ทางเราไม่ติด เพราะแทบทุกครั้งหนังที่มีตัวละครหมาเป็นตัวละครเอกมักทำให้เรายิ้ม (และร้องไห้) ได้เสมอ
เรื่องนี้ก็ไม่ได้เข้าข่ายยกเว้น (ฮ่าๆ) มีอาการน้ำตาซึมเป็นระยะๆ เพราะซึ้งกับความรักและความผูกพันระหว่างคนกับหมา ราวกับว่าทั้งคู่เกิดมาเพื่อกันและกันจริงๆ
เอาล่ะ...ถ้ามันเป็นแค่หนังหมารักคนก็คงไม่ต่างจากเรื่องที่ผ่านมา แต่ที่หนังเรื่องนี้มีมากกว่าคงเป็นการบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมนุษย์ การใช้ชีวิต ผ่านมุมมองของหมาอย่าง “เอ็นโซ” (ให้เสียงโดย เควิน คอสท์เนอร์)
...
จะเรียกว่าเป็น Coming of Age ของการเป็นมนุษย์ก็ไม่ผิดนัก เพราะตัวเอกอย่าง “เอ็นโซ” ก็ค่อยๆ เรียนรู้การเป็นมนุษย์ผ่านการเฝ้ามองชีวิตของเจ้านายและเพื่อนรักที่สุดอย่าง “เดนนี” (ไมโล เวนทิมีเกลีย)
เรียกว่าเป็น Coming of Age ที่ให้อารมณ์อีกแบบ ไม่หนักหน่วงหรือดราม่าเหมือนกรณีที่เล่าผ่านมุมมองของคน แต่มุมมองของหมาจะอินโนเซนต์อย่างน่าเหลือเชื่อ เต็มไปด้วยความซื่อสัตย์และจริงใจจนคนอย่างเราๆ ยังอดอายไม่ได้
จะว่าไป “เอ็นโซ” ก็เหมือนตัวแทนเด็กที่เรียนรู้ผ่านการมองวิธีใช้ชีวิตของผู้ใหญ่อย่าง “เดนนี” ชายหนุ่มนักแข่งรถฟอร์มูล่าที่ไม่เคยยอมแพ้กับอุปสรรคง่ายๆ
ตลอดชีวิตเดนนีกำหนดผลลัพธ์ทุกอย่างผ่านจิตใจที่มุ่งมั่น แม้บนถนนรถแข่งจะเสี่ยง แต่เขาก็ไม่กลัวที่จะกำหนดชะตาชีวิตตัวเอง
แต่ในชีวิตจริงบางอย่างก็ละเอียดอ่อนกว่ามาก บางครั้งความมุ่งมั่นอย่างเดียวก็ไม่การันตีผลลัพธ์ที่ต้องการ แต่ถึงอย่างนั้นเดนนีก็พร้อมเสี่ยงเพื่อให้ครอบครัวได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง
...
แน่นอนว่าทางเลือกของเดนนีอาจไม่ใช่ทางเลือกดีที่สุด เพราะเต็มไปด้วยความเสี่ยง (และเสียเปรียบ) แต่ก็เป็นทางเลือกที่เขาต้องการที่สุด เพราะมันมีเดิมพันเป็น “โซอี้” ลูกสาวของเขา...สมบัติอย่างเดียวที่ “อีฟ” (อแมนดา เซฟรีด) ภรรยาสุดที่รักของเขาเหลือไว้ให้
รวมๆ เราว่าหนังไม่ได้มีธีมแปลกใหม่ เข้าใจไม่ยาก แต่ที่น่าสนใจคือการนำเรื่องการดำเนินชีวิตไปเปรียบกับการแข่งรถ (อาชีพของเดนนี) รวมทั้งการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของ “เอ็นโซ” หมาที่มีปรารถนาแรงกล้าอยากเป็นคนเหลือเกิน
...
ว่าแต่ความฝันของเอ็นโซจะเป็นจริงหรือไม่...คุณๆ ต้องลองไปชมกันด้วยตัวเองนะคะ
มาดามอองทัวร์
@MadamAutuer