'เราเป็นไอดอลที่มีไอดอล' เสียงสองสาว เจนนิษฐ์-มิวสิค BNK48 เล่าให้ Thairath Talk ฟัง ..ถึงการทำงานที่พวกเธอไม่เคยทำตัวเป็นนำ้ที่เต็มแก้ว พร้อมและพยายามที่จะปรับเปลี่ยนตัวเองอยู่เสมอ 

ถึงแม้ว่าวันนี้เธอทั้งสองคนจะดูเหนื่อยล้า แต่ในแววตายังฉายแววที่มั่นใจให้ทีม Thairath Talk ได้เห็น เจนนิษฐ์-มิวสิค เธอทั้งคู่กำลังมีผลงานภาพยนตร์ Where We Belong (ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า) ฉายอยู่ในโรงภาพยนตร์เฉพาะเครือ SF เท่านั้น ไปดูการแสดงของสองสาวกันได้

สำหรับ เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ และ มิวสิค แพรวา สุธรรมพงษ์ นักร้องสาวจากวงไอดอลชื่อดัง 'BNK48' วันนี้ Thairath Talk มีโอกาสได้พูดคุยกับเธอทั้งคู่ เธอเล่าความลับ 8 วินาที ในงานจับมือให้เราฟัง ที่เรียกว่าแค่ 8 วินาทีร้อยเรียงเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นมากมายนับไม่ถ้วน วิธีการรักษามาตรฐานการเป็น BNK48 ที่คนไม่รู้ และถ้าให้เธอเป็นนายกฯ ได้หนึ่งวัน เธอจะทำอะไรกับวงการเพลงบ้านเรา Thairath Talk มีคำตอบ...

1. Where We Belong (ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า)

Thairath Talk Fresh : บทบาทในภาพยนตร์

มิวสิค : รับบทเป็นเบลล์ค่ะ ในเรื่อง Where We Belong
เจนนิษฐ์ : รับบทซูค่ะในเรื่อง

Thairath Talk Fresh : เล่าเรื่องย่อภาพยนตร์ให้ฟังหน่อย

...

มิวสิค : ก็คือเป็นเรื่องของเพื่อนสนิท 2 คน ซูจะเดินทางไปต่างประเทศ เบลล์จะมาช่วยทำ Checklist ก่อนจะเดินทางไป
เจนนิษฐ์ : เล่าไคลแม็กซ์ไม่ได้ค่ะ

Thairath Talk Fresh : ภาพยนตร์เรื่องนี้จะปังไหม

เจนนิษฐ์ : เราสนุกเวลาแสดง แต่หนังมันไม่ใช่ตลกคอมเมดี้ เป็นหนังที่ต้องใช้ใจดูด้วย แล้วแต่ใครชอบแนวไหน แต่วันที่ 20 มิถุนายน โรงหนัง SF ทุกโรงทุกจังหวัด พบกันค่ะ

มิวสิค : ไม่ได้หวังว่าหนังจะทำรายได้ถึง 100 ล้านบาท เราเน้นล่ารางวัลแทน ถือเป็นความภาคภูมิใจของเรา

เจนนิษฐ์ : พี่คงเดชเขาไม่ได้ทำหนังสายมีชื่อเข้าชิงรางวัล เป็นหนึ่งในก้าวใหญ่ๆ ของเรา ถ้าเราได้รับรางวัลในฐานะนักแสดง ถ้าได้ 100 ล้านก็เป็นผลพลอยได้ของเรา อยากเติบโตในสายนักแสดง


Thairath Talk Fresh : บทบาทคล้ายตัวเองไหม?
มิวสิค : ส่วนตัวมีจุดเหมือนและต่าง ก็มีคาแรกเตอร์ที่สร้างจากตัวเราส่วนนึง ส่วนที่เหมือนคือ น่าจะเป็นเรื่องรักเพื่อนทุ่มให้เพื่อนเต็มร้อย เหมือนกับเบลล์

เจนนิษฐ์ : เป็นคนละคนก็มีจุดที่เหมือนและก็ต่าง ในส่วนของซูเป็นคนแสดงออกน้อย เป็นคนตรงๆ ก็ไม่ใช่ว่าตรง เป็นคนทื่อๆ แล้วกัน พูดจามะนาวไม่มีน้ำ ไม่หวาน เป็นคนที่คิดอะไรตลอดเวลา อยู่กับคนอื่นแต่ก็อยู่กับตัวเอง คิดเยอะตลอดเวลา แต่ส่วนหนูเป็นแบบคิดบ้างไม่คิดบ้าง แล้วแต่ช่วงว่านิสัยแบบไหน แล้วแต่อารมณ์ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

Thairath Talk Fresh : ร้องเพลงหรือเล่นภาพยนตร์ ชอบอะไรมากกว่ากัน

เจนนิษฐ์ : เปรียบเทียบไม่ได้ค่ะ ชอบพอๆกัน แต่ถ้ามีมาให้เลือกสองงาน ดูค่าตัวและชั่วโมงงานก่อนได้ไหมคะ (หัวเราะ) ต้องดูความคุ้มค่าก่อนนะคะว่าเราใช้ความสามารถคุ้มค่าหรือเปล่า
มิวสิค : คงเลือกเล่นหนังค่ะ ดูแบบเป็นงานใหญ่ได้ผลประโยชน์เยอะ แต่ถ้าไม่เลือกงานไม่ยากจน ถ้าเป็นไปได้ก็อยากทำทั้งหมดเลย (หัวเราะ)

Thairath Talk Fresh : แสดงว่าเราก็มองอนาคตของเราเป็นนักแสดงเหมือนกัน

เจนนิษฐ์ : สำหรับหนู ใช่ค่ะ
มิวสิค : ยังไม่รู้อนาคตของหนู หนูอยากเป็นไอดอลเฉยๆ แต่ว่าจะโตอีกตั้งนาน ถ้าที่ญี่ปุ่นเรียกว่าไอดอลเลยค่ะ พวกร้องเต้น Entertainer

Thairath Talk Fresh : แล้วมีอย่างอื่นที่ยังไม่ได้ทำอีกไหม

เจนนิษฐ์ : อยากเป็นสัตวแพทย์ แต่ว่าทำงานแบบนี้ตรงนี้ไม่ได้ทำแล้ว เรียนไปด้วยทำงานนี้ไปด้วย มันชนกันไปหน่อย อาจจะทำเป็นอาสาสมัครแทน ช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงง่ายๆ ส่วนความฝันสูงสุด อยากเป็นเศรษฐีค่ะ แต่อีกนานเลยค่ะ

2. 'ชีวิตส่วนตัว' เหมือนหรือแตกต่างจากภาพยนตร์ 

Thairath Talk Fresh : มิวสิคมองเจนนิษฐ์ว่าเป็นคนยังไง

มิวสิค : ถ้าเจนนิษฐ์สงสัยอะไรจะทำเดี๋ยวนั้นเลย อยากรู้ก็จะต้องรู้เดี๋ยวนั้น ไม่เก็บความสงสัยคาใจ รู้ลึกมาก หนูจะเลือกถามเจนนิษฐ์ก่อนคนแรก ถ้าเจนนิษฐ์ไม่รู้ ก็คงไม่อยากถามคนอื่นต่อแล้ว ส่วนใหญ่ข้อมูลจะอยู่ที่เจนนิษฐ์ ข้อมูลเป๊ะระดับหนึ่ง เลยทำให้เป็นคนที่หนูไม่อยากเถียงด้วยอันดับหนึ่งของวง ถ้าปรึกษามักจะปรึกษาเขา ตอบเคลียร์และให้คำแนะนำดีๆ ตลอด เวลาที่เจนนิษฐ์ตลก แต่ตลกแบบไม่รู้ตัว มันฮา เวลาหน้าขำเหมือนเหยาหมิง คิ้วมันจะแบบ... ไม่เชิงเป็นคนตลกแต่มีอารมณ์ขัน

เจนนิษฐ์ : ส่วนมิวสิคเป็นคนโลกส่วนตัวสูง ทำงานคือทำงาน แต่เวลาพักจะพบสิคตามมุมห้อง และเล่นมือถือ ทุกคนสงสัยทำไมไม่นั่งดีๆ แต่จะเตือนเขาว่าเดี๋ยวเป็นไส้เลื่อน น่องใหญ่ และเป็นคนขี้นอยด์และคิดมาก

มิวสิค : หนูว่าหนูกับเจนนิษฐ์เป็นสองคนที่บุคคลิกไม่เหมือนกันมาก เรื่องความคิดไม่ค่อยเหมือนกัน

...

Thairath Talk Fresh : เรียกแทน 'ข้ากับเอ็ง'

เจนนิษฐ์ : ทั้งวงใช้คำนี้ เพราะมันอยู่ในระดับที่ไม่หยาบ และไม่ดูห่างกันเกินไป ชั้นกับเธอมันดูไม่สนิท ชั้นกับแกก็ดูผู้หญิงเกินไป ติดปากไปแล้วใช้จนชิน

มิวสิค : มีคำหยาบใส่กันบ้าง แต่หลุดออกมา ไม่ได้ด่ากัน เป็นโจ๊กฮาๆ ถ้าหลุดออกมาก็จะห้ามปรามกัน ไม่ใช่เข้าร่วม

3. ความเป็น BNK คือความภูมิใจ

Thairath Talk Fresh : การเป็น BNK48 ทำให้เราภูมิใจในตัวเองไหม

เจนนิษฐ์ : จริงๆ การเป็นคนมีชื่อเสียงรู้สึกว่าภูมิใจในตัวเองในด้านนึง มีทั้งด้านดีและไม่ดี เราก็ต้องชอบถ้ามีคนมาชื่นชมเรา
มิวสิค : แต่ก็ไม่ได้มีแต่คนชอบ ไม่มีใครที่จะชอบเราทุกคน มีคนชอบก็มีคนเกลียด ความเป็นตัวเองก็หายไป แบ่งเวลาไปทำงาน แต่อย่างน้อยเราก็ทำงานหาเงินได้แล้วในอายุแค่นี้

Thairath Talk Fresh : ตอนอยู่บนเวที กดดันไหมเรื่องการแสดงต้องเต้นพร้อมกัน พลาดไม่ได้

มิวสิค : ยังเครียดอยู่บ้างกับบล็อกกิ้งใหม่บางที เพราะไม่ได้ไปซ้อมกับคนอื่นเขา มีเวลาจำน้อย เพราะเราต้องไปทำงานอื่นด้วย มันเป็นสติและประสบการณ์ที่สั่งสมมา

...

 

4. ความประทับใจ กับ 8 วินาที

 

Thairath Talk Fresh : เล่าเหตุการณ์ประทับใจของแฟนคลับ ที่มาจับมือภายใน 8 วินาที มีที่เราจดจำขึ้นใจไหม

เจนนิษฐ์ : มีตลกเรื่อยๆ เลยค่ะทำให้เราผ่อนคลาย มาชวนเล่นมุกเสี่ยว อะไรทั่วไป แต่จำไม่ค่อยได้เพราะจับมือทีหลายร้อยคน ตอนครั้งแรก ตื่นเต้นและอยากรู้ว่าจะมากันกี่คน

มิวสิค : ส่วนของหนู ชอบเข้ามาจะมาเต้นให้ดู มากันเป็นกลุ่ม บางทีใส่ชุดคอสตูม เป็นเรื่องเล็กๆ ที่ทำให้ชื่นใจ คนละเล็กคนละน้อย บางคนมาเล่าเรื่องราวให้ฟัง เช่นปีหน้าเขาจะไปต่างประเทศแล้วนะ ไม่ค่อยได้มาหาแล้วนะ ได้งานใหม่แล้ว หรือท้องน้องคนที่สองแล้วจ้า มาให้ตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงอะไรแบบนี้ หรือบางคนมาเล่าว่าเป็นมะเร็งกำลังรักษา

Thairath Talk Fresh : เราได้บอกอะไรกับเขาบ้าง

เจนนิษฐ์ : ส่วนใหญ่จะฟังซะมากกว่า ส่วนใหญ่เขาจะเตรียมมาพูด เราก็จะชมเขา รอเจอครั้งต่อไป ต้องหายนะ เรายังรอเขาอยู่นะ

Thairath Talk Fresh : เรารู้สึกอย่างไรกับการที่เขาป่วย เขามาขอกำลังใจ เราเป็นแรงบันดาลใจให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไป

มิวสิค : มันก็มีบางครั้งที่เราเข้มแข็ง ไม่อยากอ่อนแอให้เขารู้สึกอ่อนแอไปด้วยกัน แทนส่วนที่เขาท้อแท้อยู่
เจนนิษฐ์ : ก็ดีใจนะที่เราเป็นส่วนช่วยให้เขาแข็งแรงขึ้น

...

5. เจอกระทู้โจมตี มีวิธีรับมืออย่างไร

Thairath Talk Fresh : แฟนคลับบางส่วน เก็บภาพไม่ดีของเราไป ไปตั้งกระทู้ว่าเรา

มิวสิค : คิดว่าน่าจะเคยโดน ส่วนใหญ่หนูจะบอกแฟนคลับอยู่แล้วว่าเราเป็นแบบที่เราเป็น อยากให้เขารักที่เราเป็นมากกว่าที่เราไม่ได้เป็น เราพยายามทำให้เขาได้ครึ่งนึงแต่อีกครึ่งนึงเขาก็ต้องไม่บังคับเราด้วยเหมือนกัน อยากให้เขารักเราให้แบบที่เราเป็นมากกว่าที่เราต้องฝืนใจ สมมติ ถ้าเขาเดินเข้ามาแล้วหนูกำลังเหนื่อยมาก ก็จะบอกเลยว่าไม่ไหวแล้ว เขาจะรู้อยู่แล้วว่าเราเป็นคนแบบนี้

เจนนิษฐ์ : หนูคนไม่ค่อยอะไร หนูไม่ใช่คนตกคน อ้อนคน เขาไม่ได้อะไรอยู่แล้ว ถ้ามาบอกให้ตกหน่อย ก็บอกเลย ตกไม่เป็นค่ะ บอกไปตรงๆ เราเป็นตัวของตัวเอง เหมือนเขารู้จักเรามากขึ้น เลยไม่ค่อยมีกระทู้แบบนี้สักเท่าไหร่

Thairath Talk Fresh : น้อยใจไหมแฟนคลับของเราน้อยกว่าบางคน

มิวสิค : เรื่องปกตินะที่ต้องมีการเปรียบเทียบเกิดขึ้น แต่เรามีแฟนคลับทั้งวงขนาดนี้ก็ตะลึงแล้ว แต่ไม่ชอบให้เกิดการเปรียบเทียบสักเท่าไหร่ คนนั้นมันอย่างงั้นคนนี้อย่างนู้น มันจะหงุดหงิดมาก
เจนนิษฐ์ : เรามีตั้ง 50 กว่าคนนะนา ก็ต้องมีน้อยบ้าง ไม่ใช่ว่าแฟนคลับคนอื่นจะไม่ชอบเราเลย ส่วนใหญ่เขาเป็นโอชิคนนึง ก็สนับสนุนทั้งวงแล้ว

Thairath Talk Fresh : มีข้อดีข้อเสียของการมีแฟนคลับไม่มากแบบนี้ไหม

มิวสิค : เอาเป็นว่าเรารักแฟนคลับของเราไม่ว่าเขาจะมากหรือน้อย พอใจในสิ่งที่มีอยู่แล้ว เขาชอบเดินเข้ามา มาเทสต์เราว่าเราจะจำเขาได้ไหม ถ้าหนูจำไม่ได้ก็จะยอมรับว่าจำไม่ได้ ก็จะขอโทษเขาไปตรงๆ ก็อยากให้มาอีก เดี๋ยวจะจำได้แน่นอน อยากรู้ว่าเรารักเขามาก และดีใจที่เขารักเรา
เจนนิษฐ์ : ไม่ใช่ที่เราเห็นเป็นจำนวนแฟนคลับของเราจริง ยังมีคนอยู่ต่างจังหวัดต่างประเทศ เราไม่ซีเรียสกับจำนวนแฟนคลับ แต่ส่วนตัวไม่ได้นอยด์เรื่องจำนวนคน

Thairath Talk Fresh : วิธีแสดงออกกับแฟนคลับ 

เจนนิษฐ์ : ก็ขอบคุณอย่างเดียว 
มิวสิค : เมินอย่างเดียว มันเขินอะ ฮิ้ว ทำเป็นไม่มองๆ แล้วเขาจะเดินเข้ามาๆ แล้วก็เนี่ยสิคไม่มองเลย


Thairath Talk Fresh : 'โอตะ'ต้องมีเงิน มีความคิดเห็นยังไงกับคำนี้

เจนนิษฐ์ : ก็ส่วนหนึ่ง ถ้าสนับสนุนของเขา หมายถึงยอดก็คงใช่ แต่ถ้าสนับสนุนหมายถึงกดไลค์กดแชร์ผลงาน ไม่ต้องใช้ก็ได้ การสนับสนุนมีหลายแบบ

มิวสิค : แต่อย่างกฎของพวกเรามันมีบางงานที่ต้องใช้เงินเพื่อสนับสนุนพวกเรา แต่หนูไม่อยากบังคับให้แฟนคลับมาจ่ายเงินให้พวกเรา ถ้าเกิดเขาไม่สะดวกที่จะจ่ายก็ไม่เป็นไร เราต้องพอใจกับตำแหน่งที่เราได้ ไม่ว่ามันจะเท่าไหร่ก็ตาม เพราะมันคือสิ่งที่เขาตั้งใจทำให้เรามากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ จะมาพูดแบบเสียก็ไม่ได้ เพราะเขาตั้งใจทำให้เราแล้วนะ

เจนนิษฐ์ : ถ้าอยากสนับสนุนมันก็มีวิธี ไม่ได้ไดเร็กแบบนั้น คือไม่อยากโหวตเองหรือไม่ได้มีกำลังทรัพย์พอ เราก็กระจายข่าวให้แฟนคลับสามารถมาโหวตได้เป็นการซัพพอร์ตอีกแบบนึง ประสานงาน โดยที่ไม่ต้องเสียเงินได้ค่ะ


6. มิวสิค-เจนนิษฐ์ ชีวิตส่วนตัวที่หายไป 

เจนนิษฐ์ : นอนน้อยเยอะ
มิวสิค :  10 นาทีก็มี

เจนนิษฐ์ : เรารู้ว่าถ้าเรานอนแล้วตื่นไม่ไหว เราจะไม่นอนค่ะ ต่อยาวๆ ไปเลย บางทีนอนน้อยแล้วตื่นมายิ่งแย่ ยิ่งปวดหัวแล้วเราจะทำงานไม่ได้

มิวสิค : พวกเราส่วนใหญ่จะมีวิตามินกินอัดกันเข้าไป คนอื่นกินได้นะ ดีต่อสุขภาพ
เจนนิษฐ์ : สูงสุดที่นับมาแล้วก็ 26 ชั่วโมงค่ะ ที่ทำงานติดต่อกันเพราะว่านอนไม่ทัน
เหมือนมันจะหาจังหวะที่งีบได้ แต่พอจะงีบปุ๊บแล้วไม่ทันได้หลับก็ถูกเรียกไปต่อ มันก็ไม่ได้นอน

มิวสิค : ตารางคิวมันเปลี่ยนได้เสมอ


Thairath Talk Fresh : เข้ามาใน BNK รู้สึกว่าการทำงานของเรามากเกินไปสำหรับอายุ 19

เจนนิษฐ์ : หนูว่าอายุเท่านี้ทำอะดีแล้ว ถ้าแก่กว่านี้อาจจะน็อกไปแล้ว นอนไม่ครบ ช่วงนี้กำลังแข็งแรง ถ้าสัก 20 กว่า เราจะเริ่มอดนอนได้น้อยลง เราน่าจะร่างกายทรุดโทรม

Thairath Talk Fresh : เคยมีเหตุการณ์นอยด์เหนื่อย จนไม่อยากทำไหม

เจนนิษฐ์ : ช่วงที่ง่วงมากๆ ก็ฝืน ไม่ได้มาเฟรชอะไรขนาดนั้น ก็จำทำเท่าที่ทำได้ แต่อาจจะดูง่วงๆ

มิวสิค : ดูเลเวล เซฟพลังงานค่ะ

7. การอยู่ร่วมกันของสาวๆ มีเหตุให้ทะเลาะกัน?

Thairath Talk Fresh : อยู่กันเยอะมีไหม ทะเลาะกัน

เจนนิษฐ์ : น้อยมาก คนงอนกันยังน้อยเลย
มิวสิค : น้อยมากค่ะ

เจนนิษฐ์ : เราอยู่ด้วยกันเยอะจริง แต่เราไม่ได้อยู่กันตลอดเวลา จะมาเจอกันก็ทำงาน
มิวสิค : ถ้าในเรื่องของการทำงานแล้วเรามาทะเลาะกันมันคงไม่ค่อยดี

Thairath Talk Fresh : เหม็นขี้หน้ากันไหม 

เจนนิษฐ์ : มันต้องมีนิสัยบางคนที่เราไม่ชอบ 

มิวสิค : แต่ส่วนใหญ่มันจะดีขึ้น มันจะเป็นเฟิร์สอิมเพรสชั่น แต่สุดท้ายเรามาคุยกันจริงๆ มันไม่ใช่อะ
เจนนิษฐ์ : มันไม่ใช่ที่ฉันจะอยู่กับเธอไม่ได้ แล้วเราก็ไม่ได้แบบว่าฉันไม่ชอบนิสัยเธอ เธอต้องเปลี่ยนนะ เราเป็นเพื่อนร่วมงาน ไม่ใช่เพื่อนในโรงเรียน

8. ถ้าให้เป็นนายกฯหญิง 1 วัน


Thairath Talk Fresh : ถ้าให้เป็นนายกฯหญิงอยากพัฒนาไปในทิศทางไหน

เจนนิษฐ์ : ยากจัง
มิวสิค : หนูอะ เป็นผู้ตามที่ดี อยากค่อยๆ เสนอความคิดเห็นช่วยอยากช่วยซัพพอร์ต
เจนนิษฐ์ : เป็นคำถามเหมือนถ้ามีพลังวิเศษเปลี่ยนได้อย่างหนึ่ง เปลี่ยนให้รถติดน้อยลง เพราะว่าติดมาก
มิวสิค : เปลี่ยนให้ไม่มีมลพิษได้ไหม บ้านเรามีมลภาวะเยอะ หนูอยากให้ลดน้อยลง

Thairath Talk Fresh : อยากให้นายกฯ ช่วยอะไรในวงการเพลงของบ้านเรา

เจนนิษฐ์ : อยากให้วงการเพลงได้รับการสนับสนุนค่ะ แค่นั้นเอง เพราะว่าหลังจากเรามี BNK ก็มีหลายๆ คนที่อยากเป็นไอดอลเนอะ หรือว่าอยากทำงานในวงการเพลง อยากให้ทุกคนสนับสนุนวงการเพลง

มิวสิค : อยากให้สนับสนุนวงการเพลงที่หลากหลาย อาจจะไม่ใช่แนวเราอย่างเดียว ช่วงนี้ไอดอลอาจจะมาแรงก็จริง แต่หนูรู้สึกว่าหลายๆ คนมีมุมมองความคิดเห็นที่ต่างกัน มีแนวเพลงอีกหลายแนวที่ยังไม่มีโอกาสที่จะทำกัน หนูอยากให้เขาเอาโอกาสตรงนี้ออกมาใช้เสนอความคิดเห็นของตัวเอง ต้องกล้าที่จะแตกต่างถึงจะเกิดความแปลกใหม่

เจนนิษฐ์ : อาจจะอยากให้มีช่องทาง การแข่งขันในตลาดเพลงกันมากขึ้น อาจจะได้ครึกครื้นขึ้นมาหน่อย

มิวสิค : ตอนนี้พวกเราฟังกันก็ฟังกันอยู่อย่างเดียวใช่ไหม แต่มันไม่ได้มีการดันให้ถึงจุด ก็เลยคิดว่าถ้ามีสถานที่ที่เปิดโอกาสที่เอาความสามารถออกมาแสดงได้ เปิดความคิดเห็นได้ เริ่มที่จุดเล็กๆ

เจนนิษฐ์ : อนาคตเราอาจจะได้เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงเรื่องวงการเพลงก็ได้ ก็คงเป็นเรื่องดี

มิวสิค : หาเอกลักษณ์เป็นของเราเอง เอกลักษณ์ไม่มีใครเลียนแบบได้แน่นอน

9. จะอยู่อย่างไร หากวันหนึ่ง กระแส BNK ตก

เจนนิษฐ์ : กว่าจะถึงวันนั้นเราอาจจะออกก่อนแล้ว
มิวสิค : มันมีขึ้นมีลงค่ะ ยังไม่เรียกว่าถึงการอวสาน แต่ว่ามันจะเดินต่อไป มีเป๋ๆ ตกไปบ้าง แต่เราก็คงอยู่ได้ ทุกอย่างไม่ยั่งยืน
เจนนิษฐ์ : มันคงทรงๆ ขอให้รุ่นน้องสู้ๆ


Thairath Talk Fresh : การเข้ามาเป็นเมมเบอร์ กับการรักษาตำแหน่ง อันไหนยากกว่ากัน
เจนนิษฐ์-มิวสิค : รักษามาตรฐาน (ตอบพร้อมกัน)

เจนนิษฐ์ : เขาบอกว่าการได้มา มันง่ายกว่าการที่จะรักษาไม่ให้มันหลุดหายไปค่ะ
มิวสิค : อันนี้ยืนยัน

Thairath Talk Fresh : วิธีรักษามาตรฐาน 

เจนนิษฐ์ : หนูโชคดีที่ได้ทำงานเยอะ หนูว่าการที่เราจะพัฒนาตัวเอง คือการได้ลงสนาม มีงานเยอะก็เลยช่วยให้เราพัฒนาขึ้น เพราะว่าซ้อมอย่างเดียวมันไม่พอ

มิวสิค : หนูว่าทุกอย่างมันมีขึ้นมีลงอยู่แล้ว หนูไม่รู้จะบอกว่าหนูรักษายังไง เราเองต้องยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่มันจะเกิดขึ้นตลอดเวลา เราต้องเผื่อใจไว้ตลอด อย่าไปคาดหวังว่าจะเป็นอย่างนี้เสมอ ทุกคนไม่อยากผิดพลาด บางคนจับผิดความผิดพลาดมากกว่ามองที่ความสำเร็จ มีการคุยกันกับเมมเบอร์ด้วยกันตลอด เพราะไม่มีใครเข้าใจพวกเราเท่าพวกเราเข้าใจกันเอง อย่างอยู่กันมาตั้งแต่รุ่นหนึ่ง อยู่กันมาจะสามปีแล้ว เราก็เลยจะเข้าใจกันมากที่สุด เจอเรื่องบางทีไม่ต้องถามให้มากความ ก็รู้ว่าคิดยังไง

เจนนิษฐ์ : บางทีเราดูศิลปินมา เราก็คุยกันว่าเขาเก่งจังเลย น่าทำได้แบบนี้บ้าง เราก็เป็นไอดอลที่มีไอดอลเหมือนกัน อยากเก่งแบบเขา มีเขาเป็นแรงบันดาลใจ

Thairath Talk Fresh : ถ้าน้องๆ อยากเป็น BNK แบบเรา

มิวสิค : ชีวิตมันยาก
เจนนิษฐ์ : พ่อแม่ต้องสนับสนุนเต็มที่เลย มันใช้เวลาเยอะ เสียเวลาชีวิตส่วนตัวเยอะเลย ต้องบริหารเวลาเรียนดีๆ มากๆ

มิวสิค : อยู่ที่มุมมองของเขาเองด้วย ทำงานเป็นกลุ่มแล้วจะทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วไม่ได้ อันนี้เป็นสิ่งสำคัญ กับการที่เราอยู่ตรงนี้เราอย่าคิดว่าเรามีดีมากพอแล้ว มันคือความปิดกั้นพัฒนาการหรือความคิดตัวเอง หรือต่อคนอื่นที่จะมาทำงานร่วมกับเรา เพราะฉะนั้นการที่น้องๆ จะเข้ามาอยู่อยากให้น้องๆ ฝึกเรื่องความคิด เพราะว่าน้องต้องสตรอง และมีภูมิคุ้มกัน เข้าใจเพื่อน เริ่มต้นง่ายๆ สังเกตผู้อื่น เข้าใจคนอื่น มันไม่ใช่แค่เรื่องเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่ต้องมาใช้ ตอนแรกเราคิดว่าเราต้องร้องเต้น ร้องเก่งเต้นเก่ง แต่ในความเป็นจริงการอยู่ร่วมกันเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ

Thairath Talk Fresh : บอกอะไรสำหรับคนชอบ?

เจนนิษฐ์ : ก็บอกตลอดค่ะ ในงานจับมือเราจะลงท้ายกันตลอดว่าขอบคุณนะคะ มีอีเวนต์และโอกาสต่างๆ ได้บอกค่ะ

Thairath Talk Fresh : และสำหรับคนที่ไม่ชอบ

เจนนิษฐ์ : ขอบคุณที่ให้ความสนใจค่ะ ก็งานของเราขึ้นอยู่กับยอดวิว ที่เขามาช่วยดูก็ขอบคุณค่ะ

มิวสิค : อยากให้เขาเข้าใจใจเขาใจเรา บางคนไม่ชอบก็เก็บเงียบไว้ก็มี บางคนไม่ชอบก็แสดงความคิดเห็นออกมา เราก็รับฟัง แต่ว่าบางทีมันเป็นคอมเมนต์ที่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกดี เขาเป็นคนพิมพ์ เขารู้อยู่แล้วว่าเขาต้องการให้เรารู้สึกแบบไหน ก็คิดว่าใจเขาใจเราเนอะ ไม่มีใครที่ชอบที่จะถูกว่า หวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะเข้าใจ ก็เขาตั้งใจคอมเมนต์เพื่อทำลายความรู้สึกเรา ก็ขอบคุณค่ะ คุณทำสำเร็จ รู้สึกไม่ดีจริงๆ แต่ก็ขอโทษด้วยที่ไม่สามารถทำให้หนูเก็บมาคิดมากได้

เจนนิษฐ์ : เราต้องแยกแยะ กับอคติ กับติเพื่อก่อ ติเพื่อก่อเราก็รู้ตัวเองเราก็เอามาปรับปรุงอยู่แล้ว แต่ถ้าอคติก็แค่ปล่อยมันไปค่ะ.