การแสดงของ “ทารอน เอเจอร์ตัน” มีพลังมาก 
เปล่งประกายและพุ่งทะยานเหมือนเป็น #ร็อคเกตแมน จริงๆ

เมื่อเรานึกถึง “เอลตัน จอห์น” เชื่อว่าหลายคนโดยเฉพาะแฟนเพลงของเขาคงรู้จักดี แล้วประวัติหรือเรื่องราวของเขาล่ะ...มีใครรู้บ้างว่าเขาต้องผ่านอะไรมา? และซุป'ตาร์คนนี้มีชีวิตวัยเด็กแบบไหนถึงได้เป็นดาวค้างฟ้าอย่างทุกวันนี้?

“ร็อคเกตแมน” เป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวของ “เอลตัน จอห์น” (ทารอน เอเจอร์ตัน) ผ่านวิธีการของมิวสิคัล...โดยนำเพลง “ของเขา” ซึ่งส่วนมากเราก็รู้จักกันดีมาร้อยเรียงกับเรื่องราว “ของเขา” แต่ที่มันเทพก็คือเขาจับมันมาแมตช์กับช่วงชีวิต “ของเขา” ได้อย่างลงตัว

"เอลตัน จอห์น" ตัวจริงกับในจอ (ทารอน เอเจอร์ตัน)

...

จะเรียกว่าชีวิตของ “เอลตัน จอห์น” ถูกสะท้อนผ่านเพลงที่เขาร้องก็ได้ โดยมีเพื่อนรักเพื่อนตาย น้องชายร่วมสาบานอย่าง “เบอร์นี เทาปิน” (เจมี่ เบลล์) เป็นผู้เขียนแทบทุกเพลงที่เขาร้อง ซึ่งจุดนี้...นอกจากเราจะได้ฟังเพลงของเขาอีกครั้ง เรายังเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของเขาในเรื่องได้ดีขึ้นด้วย

"เอลตัน" (ซ้าย) กับ "เบอร์นี" (ขวา) คู่หูนักร้องและนักแต่งเพลง

เรียกว่าเป็นวิธีนำเสนอและเล่าเรื่องที่ไม่น่าเบื่อ และเหมาะกับลุคของเขาที่มีบุคลิก สไตล์และเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ เพราะจะว่าไปชีวิตวัยเด็กของเขาก็ไม่ค่อยน่าอภิรมย์เท่าไหร่ ออกแนวขม(ขื่น) ไม่น้อยเพราะพ่อแม่แยกทาง แถมไม่มีใคร “Appreciate” หรือชื่นชมสิ่งที่เขาเป็นหรือทำนัก การเล่าเรื่องด้วยเสียงเพลงก็ทำให้การรับชมรื่นรมย์ได้

วัยสาว...เอ๊ย...หนุ่มของ
วัยสาว...เอ๊ย...หนุ่มของ "เอลตัน จอห์น" (ทารอน เอเจอร์ตัน)

จะว่าไปแล้ว...ชีวิตซุป'ตาร์อย่าง “เอลตัน จอห์น” ก็เหมือนชีวิตซุปเปอร์ฮีโร่ไม่น้อย แม้จะไม่สูญเสียพ่อแม่ไปกับความตาย แต่ก็ขาดแคลนความรักความเอ็นดูจากพ่อแม่อย่างน่าสงสาร โชคดีที่เขามียายและ “ดนตรี” เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวพาเขาไปถึงเส้นทางสู่ดวงดาว...

ลีลาบนเวทีทัวร์คอนเสิร์ตที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน
ลีลาบนเวทีทัวร์คอนเสิร์ตที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน

...

แน่นอนว่าหนทางสู่ดวงดาวของ “เอลตัน จอห์น” นั้นไม่ได้มาง่ายๆ เขาต้องฝ่าฟันหลายอย่างกว่าจะถึงจุดสูงสุดของอาชีพ แต่นั่นก็ต้องแลกมาซึ่ง “ความรัก” และ “ตัวตน” ของเขา

(ขวา) เพื่อนรักและน้องชายร่วมสาบาน
(ขวา) เพื่อนรักและน้องชายร่วมสาบาน "เบอร์นี เทาปิน" (เจมี่ เบลล์)

ใครว่าซุป'ตาร์ไม่มีหัวใจขอเชิญมาดูทางนี้ “เอลตัน จอห์น” มีหัวใจที่อยากจะรักอย่างเต็มเปี่ยม แค่ว่าตลอดชีวิตแทบไม่มีใครที่เขาจะทุ่มเทให้ได้ และนั่นอาจเป็นสาเหตุหลักทำให้เขาโหยหาและอยากมี “ตัวตน” ด้วยการมีชื่อเสียง แต่ก็อย่างที่เรารู้กัน...ชื่อเสียงนั้นไม่จีรัง...ความรักในตัวเองและมิตรภาพที่แสนดีต่างหากที่คงอยู่

...

(กลาง)
(กลาง) "ชีลา" (ไบรซ์ ดัลลัส อาวเวิร์ด) แม่ของ "เอลตัน" (ทารอน เอเจอร์ตัน) (ซ้าย) และ (ขวา) "จอห์น รี้ด" (ริชาร์ด แมดเดน) แฟนหนุ่มและผู้จัดการคนแรกของเอลตัน

หนังไม่ได้เล่าเรื่องราวจนถึงปัจจุบัน แต่เล่าเรื่องวัยเด็กถึงจุดที่เขาตกอับถึงขีดสุด ต้องเข้าสถานบำบัดเพื่อรักษาตัว กระทั่งได้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งพร้อมความรักในตัวเองที่เปล่งประกายถึงคนอื่น นับเป็นเรื่องราวดีๆ ของคนที่ผิดพลาดแต่ก็กลับมามีที่ยืนในสังคมได้...ถ้ากลับใจ

...

อยากให้โฟกัสที่คอสตูม แบบว่าอัพทูเดตตั้งแต่ยุคนั้นแล้ว (ฮ่าๆ)
อยากให้โฟกัสที่คอสตูม แบบว่าอัพทูเดตตั้งแต่ยุคนั้นแล้ว (ฮ่าๆ)

เอาเป็นว่าหนังดีทีเดียวค่ะ ทารอนก็สวมบทบาทได้ดีมากๆ มีพลังและถือเป็นการพลิกบทบาทจากแมนๆ คุยกันมาเป็นซุป'ตาร์ใจสาวได้อย่างยอดเยี่ยม ที่สำคัญหนังเลือกจุดจบได้ดีค่ะ...เพราะชีวิตคือการเรียนรู้และเต็มไปด้วยบทเรียนใหม่ๆ เสมอ ชีวิตของ “เอลตัน จอห์น” ก็เช่นกันค่ะ ถ้าก้าวพลาดก็แค่ต้องก้าวใหม่ แค่อย่าโทษใครรอบตัวก็พอ!

จนกว่าจะพบกันใหม่

มาดามอองทัวร์
@MadamAutuer