เป็นหนังที่ต้องใช้ความพยายามมากทั้งคนทำและคนดู

ปีนี้คงเป็นปีทองของ “กระสือ” เพราะมีหนังเกี่ยวกับกระสือถึงสองเรื่องในเวลาไล่เลี่ยกัน เรื่องแรกเขียนถึงเมื่อสองสัปดาห์ก่อน เป็นการตีความก้าวผ่าน “ความน่าเกลียดน่ากลัว” ของกระสือให้เป็น “ความแตกต่าง” ที่ต้องการความอยู่รอดบนโลกใบนี้

เรื่องต่อมาคือเรื่องที่จะเขียนถึงวันนี้คือ “กระสือสยาม” ก็เรียกว่าเป็นการตีความใหม่เหมือนกันโดยเลือกจะไม่พูดถึง “กระสือ” ในฐานะครึ่งผีครึ่งคนที่ต้องมีชีวิตหลบๆ ซ่อนๆ เพราะชอบกินของสกปรก แต่กระสือใน “กระสือสยาม” กลับมีวงวารและเครือข่ายใหญ่โตกว่าที่เราคิด...แถมยกสถานะตัวเองเป็น “ผู้ล่า” จองล้างจองผลาญทุกคนที่คิดทำลายเผ่าพันธุ์ของตน

...


เรียกว่าเป็นการตีความที่น่าสนใจ ยิ่งถ้าใครเคยดูหนังตัวอย่างก็น่าจะนึกภาพออก แต่เมื่อได้ดูหนังจริงๆ แล้วกลับไม่ได้เป็นอย่างคาดหวัง...จะเรียกว่าหนังไม่ตรงกับปกก็ได้ เพราะการตีความ “กระสือ” ค่อนข้างจะไม่แข็งแรงและเต็มไปด้วยความสับสน

ต้องบอกว่าตัวอย่าง “กระสือสยาม” ทำให้เราคาดหวังว่าจะเห็นหนังผีแอ็กชั่น ทั้งคำพูดโปรยที่ว่ามีกระสือที่เป็น “ผู้ล่า” และ “ผู้ฆ่า” ทำให้เราคาดหวังว่าจะเจอหนังแอ็กชั่นแบบไทยๆ นั่นน่าจะเป็นความคาดหวังอย่างเดียวที่เรามี แต่ก็น่าผิดหวังเพราะหนังไม่ได้มีฉากบู๊มากมายอย่างที่เราคิด

ตัวละครน่าจะเป็นอีกอย่างที่ช่วยดึงดูดคนดูได้ อย่างน้อยๆ ก็เอาใจช่วยให้ภารกิจตามล่าตามล้างสำเร็จลุล่วง แต่ก็...เอาใจช่วยไม่ถูกเพราะเราไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วตัวละครแต่ละตัวมีที่มาที่ไปหรือต้องการอะไรกันแน่...

กระนั้นเราก็มองเห็นความพยายามของผู้สร้างจะฉีกแนวหนังผีแบบเดิมๆ ทั้งความพยายามจะลบภาพผีน่ากลัวที่ทำร้ายมนุษย์ตามสัญชาตญาณหรือเพราะความแค้นเก่าเก็บ และความพยายามจะตีความกระสือใหม่ ไม่ให้น่าเกลียดน่ากลัวเหมือน “ภาพจำ” ในนิทานพื้นบ้านหรือนิทานปรัมปรา

...

แต่ถึงจะมีความพยายามแค่ไหนก็ยังไม่เห็นภาพชัด เรียกว่าคนดูอย่างเราๆ ก็ต้องใช้ความพยายามมากเช่นกันจะ “สนุก” หรือ “มีส่วนร่วม” กับเรื่องนี้ด้วย แต่มันก็ขาดช่วงเป็นห้วงๆ เพราะเหตุการณ์บางจุดไม่ปะติดปะต่อ หรือบางทีตัวละครก็ทำอะไรที่เราไม่เข้าใจหรือเข้าไม่ถึง

อีกอย่างที่ทำให้ค้างคาใจคือการทิ้งปมปริศนาเล็กๆ น้อยๆ ตามจุดต่างๆ ของเรื่องแต่ไม่ได้ตามเก็บ จุดนี้เราเห็นความพยายามจะ “หักมุม” หรือสร้าง “เซอร์ไพรส์” ให้คนดูแต่กลับไม่ WOW เท่าที่คิด น่าจะเป็นเพราะคนดูยังไม่ค่อยเข้าใจตัวละครหรือเส้นหลักของเรื่องมากนัก แถมยังไม่ตามสรุปเลยทำให้จุดนี้ไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไร

อย่างไรก็ดี...แม้หนังจะมีบาดแผลแต่เนื้อเรื่องไม่ได้เข้าใจยาก มีตัวเอกและผู้ร้าย แบ่งพรรคแบ่งฝ่ายกันตามขนบปกติ จุดจบแม้จะไม่ชัดเจนแต่ก็เปิดให้ตีความกันต่อไปได้ ถ้าไม่คิดมากและอยากอุดหนุนหนังไทยก็ลองไปชมกันได้ แต่ส่วนตัวแค่อยากติเพื่อก่อเท่านั้น...จะได้มีคนสร้างหนังไทยให้เราดูไปนานๆ

...

จนกว่าจะพบกันใหม่

มาดามอองทัวร์
@MadamAutuer