ต้องกล้าแค่ไหนจะรักกับกระสือ...หนังมีความกราฟขึ้นเรื่อยๆ ครึ่งแรกเหมือนจะเนิบๆ แต่ครึ่งหลังนี่เอาใจไปเลย #ไม่น่าพลาด

ต้องบอกว่าเกินความคาดหมายมากสำหรับ “แสงกระสือ” ภาพยนตร์ไทยผีๆ ที่ไม่ได้เน้น “ผี” แต่เน้นเรื่อง “รัก” ระหว่างคนกับ “กระสือ” ที่แทบไม่มีทางเป็นไปได้ แถมเป็นทางเลือกที่กล้าหาญชาญชัยเป็นอย่างมากสำหรับคนทำหนังที่เลือกจะฉีกมาแนวผีปนดราม่าปนไซไฟขนาดนี้

ครึ่งแรกของหนังเหมือนจะเป็น Encyclopedia ของกระสือ (ฮาๆ) เป็น Folktale หรือนิทานพื้นบ้านทั่วๆ ไป เล่าเรื่องกระสือและตำนานที่ผู้คนเล่าต่อๆ กันเป็นเวลานาน ปูให้คนดูอย่างเรารู้จัก “กระสือ” มากขึ้น จริงๆ ก็ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์แต่หนังก็เล่าออกมาได้ดี ไม่หวือหวาแต่ก็ติดตามได้เรื่อยๆไม่น่าเบื่อ แต่ครึ่งหลังนี่สิที่น่าทึ่ง...เพราะเดาอะไรไม่ได้เลย!

สามคนเพื่อนซี้ ตะลุยมาด้วยกันแต่เด็ก ตั้งแต่ทุ่งนายันบ้านผีสิง
สามคนเพื่อนซี้ ตะลุยมาด้วยกันแต่เด็ก ตั้งแต่ทุ่งนายันบ้านผีสิง

...

เอาความรู้สึกแรกก่อน (ตามธรรมเนียม) เราเป็นคนไม่ชอบดูหนังผี แต่เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้เรากลัวหรือขวัญผวา กลับเอาใจช่วย “กระสือ” (เป็นครั้งแรก) ด้วยซ้ำว่าชะตากรรมของเธอจะไปจบลงตรงไหน...และแบบไหน เรียกว่าหนังพาเราไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เกี่ยวกับ “กระสือ” ว่าไม่ได้มีแค่ไส้กับหัวลอยไปลอยมา ชอบกินรกเด็กและเครื่องในของสัตว์ แต่ “กระสือ” ก็มีหัวใจและ...แค่อยากจะมีชีวิต (รอด)

"มินนี่ ภัณฑิรา" รับบท "สาย" กระสือสาวของเรื่อง

"โอบ โอบนิธิ" รับบท "น้อย" นักศึกษาแพทย์ที่หนีตายมาจากพระนคร

"เกรท สพล" รับบท "เจิด" หนุ่มชาวบ้านที่หลงรักสาย (มินนี่) มานาน

เอาเป็นว่าเนื้อเรื่องดีทีเดียว ถ้าให้เทียบเป็นกราฟก็พุ่งทะยานเรื่อยๆ เมื่อผ่านครึ่งหลังจะได้เจอกับเรื่องแปลกใหม่คอยหักมุมและบีบหัวใจเราตลอดเวลา เรียกได้ว่าทีมสร้างทั้งงานภาพ งานเสียง งานกราฟิก งานตัดต่อ รวมทั้งฝีไม้ลายมือของเหล่านักแสดงดาวรุ่งทั้งสาม โดยเฉพาะ “มินนี่ ภัณฑิรา พิพิธยากร” ที่ว่าเป็นหน้าใหม่แกะกล่องก็สวมบทเป็น “กระสือ” ได้ดีทีเดียว เช่นเดียวกับ “โอบ โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์” และ “เกรท สพล อัศวมั่นคง” ก็สวมบทของตัวเองได้อย่างน่าชื่นชม...อย่างน้อยๆ ก็ทำให้เราตาติดกับจอไม่วอกแวกไหน

...

"เอ็ม สุรศักดิ์ วงษ์ไทย" รับบทมือปราบกระสือจากต่างถิ่น

ส่วนตัวชอบมากที่สุดคือหนังพาเราไปสุดทางของเรื่องรักๆ ระหว่างคนกับผี เราคงคุ้นเคยกับเรื่องรักๆ แนวๆ ภูตพิศวาสที่ลงเอยด้วยการข้ามภพข้ามชาติมาเจอกันใหม่ แต่เรื่องนี้กลับกล้าทำอะไรที่ “Beyond” หรือข้ามขนบเดิมๆ ไปถึงจุดที่เราต้องตบอกผ่างเป็นระยะๆ (โดยเฉพาะครั้งหลัง) #แบบนี้ก็ได้เหรอ (ฮาๆ)

"โอบ โอบนิธิ" รับบท "น้อย" เพื่อนสมัยเด็กของ "สาย" (มินนี่ ภัณฑิรา)

...

เอาเป็นว่าเราจะไม่สปอยล์ แค่อยากบอกว่า #ไม่น่าพลาด สำหรับภาพยนตร์ไทยแนวไม่แปลกแต่เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ฉีกภาพ “กระสือ” หัวขาดไส้ไหลให้น่าเอ็นดูขึ้นเยอะ แต่ที่แน่ไปกว่านั้นคือ “ความกล้า” ของทีมสร้างที่เลือกจะออกแบบทุกสิ่งทุกอย่างในเรื่องนี้ไม่ให้เหมือนในหนังผีเรื่องไหนที่คุณๆ เคยเจอ...เอ๊ะ...หรือมันจะไม่ใช่หนังผีแต่เป็นหนังรัก...อุ๊บส์!

พิสูจน์รักแท้ระหว่าง “คน” กับ “สัตว์ประหลาด” ได้ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคมเป็นต้นไป ทุกโรงภาพยนตร์

มาดามอองทัวร์
@MadamAutuer