เชื่อว่าหลายๆ คน ไม่อาจปฏิเสธว่าดวงตากลมโตของสาวน้อยอลิตา ที่ร่างกายของเธอเป็นไซบอร์ก มีเสน่ห์อย่างประหลาดที่ทำให้รู้สึกอยากดู Alita: Battle Angle ขึ้นมา โดยไม่เกี่ยวกับว่าเคยอ่านการ์ตูนต้นฉบับของยุกิโตะ คิชิโระ เรื่อง Gunnm: Battle Angel Alita เมื่อปี 1990 หรือไม่
ยิ่งมีชื่อของผู้กำกับ โรเบิร์ต โรดริเกซ ที่มีเครดิตงามๆ อย่าง Sin City บวกเข้ากับ "King of the World" เจมส์ คาเมรอน ที่แบ่งเวลาจาก Avatar มาทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างร่วมกับคู่หู จอน แลนเดา ทำให้หนังเรื่องนี้ยิ่งน่าดูมากขึ้นไปอีกหลายเท่า

Alita: Battle Angel - อลิตา แบทเทิล แองเจิ้ล เปิดเรื่องในศตวรรษที่ 26 ไซบอร์กสาว อลิตา (โรซา ซาลาซาร์) ถูกค้นพบโดย ดร.ไดสัน อิโดะ (คริสตอฟ วอลท์ซ) ศัลยแพทย์ไซบอร์กเก็บมาจากกองขยะแล้วช่วยซ่อมร่างของเธอ เธอฟื้นขึ้นมาในสภาพสาวน้อยปริศนาไร้ความทรงจำ แต่สถานการณ์บีบคั้นทำให้เธองัด "Panzer Kunst" ทักษะการต่อสู้รูปแบบเฉพาะที่หายสาบสูญไปกว่า 300 ปี นั่นทำให้เธอถูกตามล่าจากนักล่าทั้งหลาย
...
ในขณะที่หนังก็ค่อยๆ เผยภาพใหญ่ว่าโลกปัจจุบันถูกบงการโดยผู้มีอำนาจที่กุมชะตากรรมของทุกคนไว้ กลายเป็นการต่อสู้ระหว่างชนชั้นปกครองและผู้ต่อต้าน เมื่อความทรงจำเมื่อครั้งอดีตของอลิตาค่อยๆ กลับมา...

นี่คือหนังแอ็กชั่นแนว Cyberpunk ที่แม้ต้นฉบับจะเป็นงานยุคเก่า แต่จะสังเกตว่าหนังแนวนี้เริ่มกลับมาให้เราได้ดูกันอีกครั้ง ในยุคที่ AI เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตคนมากขึ้น
แม้ส่วนตัวจะไม่เคยได้อ่านงานต้นฉบับมาก่อน แต่ก็รับรู้ได้ถึงความลึกและซับซ้อนของงานต้นฉบับ ผ่านการพยายามสร้างโลก Alita: Battle Angle ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดมากมาย ทั้งเรื่องราวของ ซาเล็ม นครลอยฟ้าแห่งสุดท้าย ที่เป็นที่อยู่ของกลุ่มคนชนชั้นสูงที่ดูน่าจะศิวิไลซ์กว่าโลกด้านล่างมากมายนัก การต่อสู้ระหว่างดวงดาว ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และไซบอร์ก นี่ยังไม่นับรวมความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร และปมส่วนตัวของแต่ละคน

ที่ทั้งหมดพยายามบีบอัดเข้าไปในหนังความยาว 2 ชั่วโมง ซึ่งมันไม่ใช่เวลาที่มากพอในการบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด ทำให้หลายๆ ส่วน จะเป็นการเปิดปมทิ้งไว้ ไม่คลี่คลาย อาจให้เข้าใจว่าประเด็นเหล่านี้คือการปูไปสู่การสร้างภาคต่อ (ถ้ามี) แต่เมื่อมอง Alita: Battle Angle ในแง่ของความเป็นหนังเดี่ยว มันเลยออกจะขาดความลงตัวที่ควรมีไปพอสมควร และนี่คือจุดอ่อนสำคัญของหนังเรื่องนี้

แต่หากมองไปที่การออกแบบงานสร้าง กำกับศิลป์ งานเทคนิคพิเศษ ไปจนถึงงานภาพ 3 มิติ หนังทำออกมาได้สุดยอดมาก ดูเนียนตา เป็นงานเทคนิคที่เหนือจริง (ในมุมมองของปัจจุบัน) แต่มันก็ดูสมจริงมาก
...
โดยเฉพาะกับการเนรมิตอลิตาขึ้นมาด้วยเทคนิคที่ตั้งชื่อเก๋ๆ ว่า Performance Capture ของทีม Weta Digital ที่เคยผ่านงานยักษ์ๆ อย่าง Avatar มาแล้ว นี่เป็นอีกครั้งที่เราได้เห็น "อนาคต" ความก้าวหน้าของการสร้างภาพยนตร์ คงไม่เกินเลยว่าอลิตาเป็นอีกหนึ่งในตัวละครดิจิทัลที่น่าประทับใจมาก ในระดับเดียวกับ กอลลัม ใน The Lord of the Rings

จุดขายอีกอย่าง คือ ฉากแอ็กชั่น ดุเดือด สนุกเด็ดขาดมาก ทั้ง Motorball และการต่อสู้ระหว่างไซบอร์กที่เต็มไปด้วยความรุนแรง ถ้าไม่คิดว่าที่เห็นคือไซบอร์ก ภาพรวมหนังคือโหดร้ายมาก (โหดรุนแรงในระดับที่ไม่แนะนำให้พาเด็กเล็กๆ ไปดู) Motorball ที่ดูจะเป็นไฮไลต์ที่แฟนการ์ตูนเขารอคอยกัน ต้องยอมรับว่าการแข่งขัน Motorball คือสนุกมากจริงๆ เข้าใจเลยว่าแฟนการ์ตูนจะฟินกับฉากเหล่านี้มากแค่ไหน เมื่อภาพจินตนาการถูกเติมเต็มด้วยภาพที่สมจริง

...
คงไม่ใช่การอวย แต่หากมองในแง่คุณภาพและความบันเทิง Alita: Battle Angel - อลิตา แบทเทิล แองเจิ้ล คือหนึ่งในหนังเด่นของปี 2019 อย่างไม่อาจปฏิเสธ เป็นอีกหมุดหมายของภาพยนตร์ประจำปีนี้ ที่ไม่ว่าจะเป็นแฟนการ์ตูนหรือไม่ แต่หากบอกว่าเป็นคนชอบดูหนัง นี่คือหนังที่ไม่ควรพลาด "ตีตั๋ว" ดูในโรงภาพยนตร์ และหากงบประมาณไหว แนะนำให้ดูแบบ IMAX เพื่อความสมบูรณ์ที่สุด

ชา ตีตั๋วชนโรง
Twitter: @Chamanz13
Facebook: ตีตั๋วชนโรง