“จูเลีย โรเบิร์ต” และ ลูคัส เฮดจส์” ดีงามมาก เต็มไปด้วยพลังและเคมีที่ลงตัว

ดูจากหน้าหนังก็เดาว่าจะดราม่ามาก...ซึ่งก็ไม่ผิดคาด หนังดราม่ามากแถมมีเนื้อหาหนักหน่วง เพราะหลักๆ เป็นเรื่องสะท้อนปัญหายาเสพติดและผลกระทบที่ผู้ติดยามีต่อครอบครัว

แค่พล็อตคร่าวๆ ก็ซีเรียสแล้ว...ซึ่งมันก็ควรซีเรียสเพราะปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกที่ไม่ใช่เรื่องจัดการได้ง่ายๆ แม้แต่ในประเทศเจริญแล้วอย่างเคสของตัวละครในเรื่องนี้ เหยื่อของยาเสพติดก็แทบเอาชีวิตไม่รอด และวิธีการแก้ไขก็ไม่ใช่แค่การบำบัดแต่ต้องอาศัยความเข้าใจของคนในครอบครัว


เอาความรู้สึกแรกก่อน...เราชอบนะเรื่องนี้ เพราะวิธีการเล่าไม่ได้บีบเค้นอารมณ์จนดูแล้วหดหู่ แต่เรากลับเต็มไปด้วยความรู้สึกอยากเอาใจช่วยตัวละครเอกทั้งสองคือ “เบน เบิร์นส์” (ลูคัส เฮดจส์) และ “ฮอลลี่ เบิร์นส์” (จูเลีย โรเบิร์ต) สองแม่ลูกที่ต้องรับมือกันและกันกับปัญหายาเสพติด

"จูเลีย โรเบิร์ต" (ฮอลลี่ เบิร์นส์) กับ "ลูคัส เฮดจส์" (เบน เบิร์นส์) สองแม่ลูกตัวละครเอกของเรื่อง

...

หลักๆ ของเรื่องคือการรับมือผู้เสพยาที่กำลังบำบัดโดยคนในครอบครัว ส่วนตัวถือว่าเป็นเรื่องใหม่เพราะแทบไม่มีหนังเรื่องไหนเล่าถึงช่วงเวลานี้ ส่วนมากจะพูดถึงความทุกข์ทรมานช่วงติดยาอย่างหนักหรือช่วงเวลาที่หายขาด แต่ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ยังไม่เคยเห็น และเรื่องนี้ก็ลงรายละเอียดได้ดีโดยร้อยเรียงข้อมูลต่างๆ ที่ผู้บำบัดการเสพยาและผู้ดูแลต้องทำผ่านเหตุการณ์ “วุ่นวาย” ในเรื่อง...เรียกว่าเป็นยี่สิบสี่ชั่วโมงสุดระทึกที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลและเรื่องราวสุดสะเทือนใจ

การรับมือกับโลกแห่งความเป็นจริงหลังออกจากสถานบำบัดไม่ใช่เรื่องง่ายเลย...
การรับมือกับโลกแห่งความเป็นจริงหลังออกจากสถานบำบัดไม่ใช่เรื่องง่ายเลย...

จุดแข็งของเรื่อง...นอกจากเนื้อเรื่องแปลกใหม่ซึ่งมีวิธีเล่าน่าติดตาม การแสดงของสองนักแสดงหลักอย่าง “ลูคัส เฮดจส์” (Manchester by the Sea, 2016) และ “จูเลีย โรเบิร์ต” (Erin Brockovick, 2000) ก็น่าทึ่งมาก ส่วนตัวคิดว่าเป็นเคมีลงตัว สวมบทแม่ลูกได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ให้เสียชื่อนักแสดงคุณภาพที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงบนเวทีออสการ์มาแล้ว

ไม่ว่าลูกมีปัญหาหนักหนาแค่ไหน
ไม่ว่าลูกมีปัญหาหนักหนาแค่ไหน "แม่" (จูเลีย) ก็พร้อมจะสู้ไปกับลูกเสมอ

สิ่งที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้ คือการพยายามรับมือปัญหาผู้บำบัดการติดยาของคนในครอบครัว แน่นอนว่าในครอบครัวที่มีสมาชิกมากกว่าสองคนย่อมมีความคิดเห็นหรือปฏิกิริยาที่แตกต่าง ในกรณีของ “เบน” กับ “ฮอลลี่” ก็เช่นกัน ตัวแม่ (จูเลีย) นั้นรักลูกชาย (ลูคัส) มากอย่างไม่ต้องสงสัย แต่รักพอที่จะสู้รบตบมือกับปัญหา (ไม่รู้จบ) ของผู้บำบัดการติดยาหรือไม่นั้นเป็นประเด็นของเรื่องนี้...

เมื่อ
เมื่อ "เบน" (ลูคัส เฮดจส์) กลับมาจากสถานบำบัดผู้ติดยา...

...

ชื่อเรื่องเป็นสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่าง ถ้าใครได้ดูตัวอย่างหนังคงเห็นแล้วคร่าวๆ ว่าเรื่องเริ่มต้นเมื่อ “เบน” (ลูคัส) กลับมาจากสถานบำบัดของผู้ติดยา เราจะไม่สปอยล์ว่าการกลับมาของเขาทำให้เกิดเรื่องอะไรบ้าง แต่ขอบอกว่าไม่ใช่แค่การกลับมาของเบนที่เป็นประเด็น แต่ใครหรืออะไรจะช่วยดึงเขากลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงด้วยต่างหากที่เป็นประเด็นที่หนังต้องการพูดถึง

"ลูคัส เฮดจส์" ผู้รับบท "เบน เบิร์นส์" ชายหนุ่มผู้ออกจากสถานบำบัดผู้ติดยามาที่บ้าน...

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจเบือนหน้าหนีว่าหนังหนักไป แต่ส่วนตัวขอแนะนำค่ะ เพราะหนังไม่ใช่แค่บอกเล่าเรื่องราวปัญหาของผู้ติดยาและผู้รับผลกระทบอย่างคนในครอบครัว แต่สะท้อนถึงสภาพความเป็นจริงด้วยว่า “ยาเสพติด” เป็นภัยใกล้ตัวมากกว่าที่คิด...ที่สำคัญหนังไม่ได้เน้นหรือฟันธงด้วยซ้ำว่า เหตุผลที่คนเลือกจะเสพยาจริงๆ เป็นเพราะอะไร แต่การรับมือกับสิ่งแวดล้อมและสิ่งเร้ารอบตัวต่างหากที่สำคัญ...จะเรียกว่าโลกนี้อยู่ยากก็ได้...แต่เราก็ต้องสู้ (ฝุ่น) กันต่อไป

...

จนกว่าจะพบกันใหม่

มาดามอองทัวร์
@MadamAutuer