คิวบู๊ดุมาก ดุดันและหนักแน่นขัดกับอายุพี่เขามากจริงๆ
เดินทางมาถึงภาคสองอีกเรื่องสำหรับ “The Equalizer 2” หรือชื่อไทย “มัจจุราชไร้เงา 2” พร้อมนักแสดงนำคนเดิม “เดนเซล วอชิงตัน” ที่มารับบท “โรเบิร์ต แมคคอลล์” นักฆ่าไร้เงาและไร้ตัวตนที่ภาคนี้เราจะได้เห็นเงาของเขามากขึ้น
จริงๆ ดูแยกจากภาคแรกได้ ต้องยกความดีให้ทีมสร้างที่ทำคาแรกเตอร์ “โรเบิร์ต แมคคอลล์” (เดนเซล) ได้แข็งแรงพอจะขยี้ขยายต่อได้ถึงภาคสอง
ภาคแรกเราอยู่กับปัจจุบัน สิ่งที่เขา (โรเบิร์ต) ทำรวมไปถึงอุดมการณ์อันแรงกล้าจะทวงความยุติธรรมให้แก่ผู้ถูกเอารัดเอาเปรียบ ภาคนี้เขาก็ยังทำเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเราจะได้รู้จักเขาเพิ่มอีกหน่อยว่าเพราะอะไรเขาถึงมายืนที่จุดนี้...จุดที่ต้องเป็น “มัจจุราชไร้เงา”
...
ส่วนตัวเราว่าภาคนี้ดราม่ากว่าภาคแรกเล็กน้อย เราจะได้เห็นอารมณ์พี่เขามากขึ้น (เห็นเขายิ้มมากขึ้นด้วย) ที่สำคัญ...เราจะได้เห็นเพื่อน (ในอดีต) ของเขาด้วยว่าเป็นใครมาจากไหน...
ขนาดไม่ใช่เพื่อนใช่ญาติพี่เขายังตามทวงจนแทบลุกไม่ขึ้น คิดสภาพถ้าเพื่อนรักของเขาถูกฆ่า...พี่เขาจะอยู่เฉยๆ ได้หรือ?
และนั่นเป็นที่มาของภาคนี้ค่ะ เมื่ออดีตกลับมาหา...เขาก็ไม่ลังเลจะเผชิญหน้าและจัดการทุกคนเพื่อมอบความยุติธรรมเช่นเคย...นั่นเป็นอุดมการณ์ของเรื่อง จะว่าไปเราก็เข้าถึงไม่มาก (สงสัยจะบาปหนา) แต่คิวบู๊ภาคนี้ดีงามมากค่ะ มีความโหดและดุดันขัดกับวัยของพี่เขาจริงๆ
เอารวมๆ เราว่าดี ไม่เลวเลยสำหรับหนังภาคต่อ อาจมีช่วงเนือยๆ บ้างช่วงกลางเรื่องแต่รวมๆ เราว่าดูสนุกดี ตัวเอกของเรื่องอย่างเดนเซลก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เชื่อแล้วจริงๆ ว่าอายุไม่ใช่อุปสรรคของความเก๋า...คิวบู๊พี่เขายังใช้ได้เหมือนเดิม
ขึ้นชื่อว่าหนังแอ็กชั่นบทพูดคงไม่สำคัญ (มาก) เท่าภาษากายหรือคิวบู๊ เรื่องนี้คิวบู๊โผล่มาหน่วงๆ เป็นระยะๆ แต่มาแนวพูดน้อยแต่ต่อยหนัก (มาก) และต้องถือว่าเป็นความโหดเหี้ยมที่ไม่เชยเลยทีเดียว โดยเฉพาะวิธีฆ่า...จัดว่าเลือดเย็นมาก!
...
เอาเป็นว่า...ถือเป็นหนังภาคต่อที่ไม่เลว ดูแยกได้ไม่ต้องแคร์ภาคแรก เนื้อเรื่องอาจยาวย้วยไปบ้างแต่คิวบู๊คุณภาพคับแก้วเลือดสาดช่วยกลบเกลื่อนได้ คอหนังบู๊ต้องไม่พลาดนะคะ ส่วนถ้าไม่คอมากแต่อยากลองก็เชิญกันมา
จนกว่าจะพบกันใหม่
มาดามอองทัวร์
@MadamAutuer