แม้จะเห็นคะแนนและคำวิจารณ์ที่เมืองนอกของหนัง Baby Driver หรือในชื่อไทย เบบี้ ไดรฟเวอร์ จี้ (เบ)บี้ ปล้น จะดีขนาดไหน ส่วนตัวแล้วก็ยังรู้สึกเฉยๆ เพราะสิ่งที่ดึงดูดใจที่สุด ก็มีแค่ชื่อผู้กำกับ เอ็ดการ์ ไรท์ และนางเอกแสนสวยตาหวานฉ่ำอย่าง ลิลลี่ เจมส์ เท่านั้น ..จนกระทั่งได้ดูจนจบ จึงได้พบว่านี่คือ “หนังที่ต้องรู้สึกเสียใจมากแน่ๆ หากไม่ได้ดูในโรงภาพยนตร์”
Baby Driver เล่าเรื่องราวของ เบบี้ หนุ่มวัยรุ่นขาซิ่งผู้มีดนตรีในหัวใจ ที่มีจ๊อบขับรถพาอาชญากรหลบหนีการไล่ล่าของตำรวจหลังจากปล้นสำเร็จ ซึ่งเบื้องหลังคือทีมปล้นระดับมืออาชีพที่ทุกอย่างถูกคำนวณเพื่อให้การปล้นเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด ซึ่งลึกๆ ในใจแล้วเบบี้ไม่ได้ชอบงานแบบนี้และต้องการจะเลิก! จนกระทั่งเขาได้ตกหลุมรักกับ เดโบล่า สาวเสิร์ฟผู้รักเสียงเพลงเช่นเดียวกัน เขาจึงมีกำลังใจที่จะวางมือ แต่วงการมิจฉาชีพแบบนี้มีหรือจะถอนตัวได้ง่ายๆ เบบี้จึงต้องเผชิญศัตรูรอบด้านทั้งอาชญากรและตำรวจ เพื่อปกป้องคนที่เขารักและหนีออกจากวงจรชีวิตอันเลวร้ายนี้
...
หนังเรื่องนี้ขับเคลื่อนด้วย “ความเร็ว”
หากเปรียบหนัง Baby Driver เป็นรถยนต์สักคัน เชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนของหนังเรื่องนี้ ก็คือ “ความเร็ว” และหากพูดถึงความเร็ว หนังสายซิ่งในยุคนี้ดีๆ ก็เห็นจะมีหนัง Fast and Furious ที่ยืนอยู่อันดับหนึ่งมานานหลายปี และไม่มีทีท่าว่าจะมีหนังซิ่งใดมาโค่นหรือทำได้ใกล้เคียง
จนกระทั่งการมาของ Baby Driver นี่คือหนังซิ่งดูเอามัน ที่ไม่ได้เป็นรองหนังแฟรนไชส์เรื่องดังเลย หนังนำเสนอฉากซิ่งไล่ล่าที่สนุกและโคตรมันได้ โดยไม่ต้องไปซิ่งแข่งกับเครื่องบินหรือเรือดำน้ำแต่อย่างใด แถมยังมีไอเดียสดใหม่ ที่ทำให้ฉากขับรถไล่ล่าในเรื่องนี้เกือบทุกฉากเป็นฉากที่น่าจดจำ
หนังเรื่องนี้ขับเคลื่อนด้วย “เสียงเพลง”
เพลงเป็นอีกองค์ประกอบสำคัญ และช่วยเสริมให้ Baby Driver เป็นหนังที่มีลักษณะเฉพาะโดดเด่นขึ้นมา ด้วยเพลงจากวงระดับตำนานมากมาย ที่เปรียบได้กับอีกตัวละครหนึ่งในเรื่องเลยก็ว่าได้ นอกจากใช้ประกอบฉากซิ่งไล่ล่าแล้ว ยังถูกจับใส่ลงบทสนทนา ไปจนกระทั่งชื่อตัวละคร!
แม้ส่วนตัวจะไม่ใช่คนสายเพลง แต่ก็รู้สึกได้เลยว่าเพลงที่ถูกหยิบนำมาใช้ในเรื่องเป็นของศิลปินระดับตำนาน อาทิ Queen, T. Rex, Jon Spencer Blues Explosion, BOB & Earl, Carla Thomas และอีกมากมาย ถูกเลือกมาอย่างดี และรู้ว่าจะใส่เพลงลงช่วงไหนของเรื่อง ซึ่งหนังเรื่องนี้มีเพลงเจ๋งๆ รวมแล้วกว่า 30 เพลง และเชื่อเลยว่าหลายคนที่ดูหนังเรื่องนี้จนจบ จะต้องไปควานหา Soundtrack ของหนังเรื่องนี้มาฟังต่อแน่นอน
...
หนังเรื่องนี้ขับเคลื่อนด้วย “ความรัก”
ชีวิตวัยรุ่นที่มีพรสวรรค์ด้านการขับรถ แต่หลงเดินทางผิดและอยากกลับตัว จนได้พบกับความรักที่เข้ามาเติมชีวิตชีวา ให้มีพลังในการเปลี่ยนแปลง… จะว่าไปแล้วพล็อตเรื่อง Baby Driver นั้น ง่ายๆ ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน แต่เพราะความง่ายๆ ของมันนี่เอง ที่ทำให้เข้าถึงง่าย สนุก และอินไปกับเรื่องราวได้ไม่ยาก
แอนเซล เอลกอร์ท มาในบทที่ทำให้เชื่อได้จริงๆ ว่าไอ้หมอนี่มันขับรถเก่งและเป็นเนิร์ดด้านเสียงเพลงจริงๆ แถมเคมียังไปด้วยกันกับ ลิลลี่ เจมส์ ที่แสดงเข้าคู่กันได้น่ารักสุดๆ ใครที่ชอบเธอจากหนัง Cinderella และต้องรักเธอมากยิ่งขึ้นจากหนังเรื่องนี้
ในส่วนของรุ่นใหญ่ที่เข้ามาสมทบทั้ง เควิน สเปซีย์, จอน แฮมม์ และ เจมี่ ฟ็อกซ์ ต่างก็มีซีนเด่นๆ ของตัวเอง การมีรุ่นใหญ่ในเรื่องช่วยยกระดับเรื่องของการแสดงหนังเรื่องนี้ให้ดียิ่งขึ้น
...
เอ็ดการ์ ไรท์ กับผลงานเรื่องล่าสุดนี้ถือเป็นการกลับมากำกับควบเขียนบทอีกครั้ง (หลังจากเรื่องล่าสุด The World's End เมื่อปี 2013) สำหรับ Baby Driver ดูจะเป็นงานที่เอาใจตลาดวงกว้างมากขึ้น แต่ก็ยังคงความเกรียนและแซ่บของบทอันเป็นจุดขายของเขาอยู่ (แต่ก็แอบขัดใจเล็กๆ กับการให้ทางออกกับเรื่องนี้ที่ดูโลกสวยไปนิด)
Baby Driver นับเป็นหนังเพื่อความบันเทิงที่ครบรสมากๆ จะหาหนังอะไรที่มีทั้ง เพลงมันๆ ฉากซิ่งเท่ๆ บทสนทนากวนๆ ตัวละครเกรียนๆ และบทดีๆ ที่ทั้งหมดรวมอยู่ในหนังเรื่องเดียว บอกเลยว่า “อย่าได้พลาดที่จะดูในโรงภาพยนตร์”
- คะแนนความมันจัดไปเลย 4 ดาว (เต็ม 5) -
ป.ล. Baby Driver เปิดรอบพิเศษตั้งแต่วันนี้ถึง 13 กันยายน รอบ 2 ทุ่มเป็นต้นไป ฉายจริง 14 กันยายน
อ่านบทความ ตีตั๋วชนโรง เรื่องอื่นๆ
...
--- ชาแมน ---