เรียกว่าเป็นข่าวร้ายที่ทำให้แฟนเพลงเฮฟวี่เมทัลเสียใจและใจหายมากๆ เลยทีเดียว เมื่อ ออสซี่ ออสบอร์น (Ozzy Osbourne) ศิลปินหนุ่มชาวอังกฤษ นักร้องนำวง Black Sabbath วงดนตรีเฮฟวี่เมทัลชื่อดังระดับโลก เป็นที่รู้จักในฐานะ “เจ้าพ่อแห่งเพลงเฮฟวี่เมทัล” และ “เจ้าชายแห่งความมืดหม่น” เสียชีวิตแล้วในวัย 76 ปี เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2025 ไทยรัฐบันเทิงขอย้อนประวัติของ ออสซี่ ออสบอร์น มาฝากกัน

สำหรับประวัติของ ออสซี่ ออสบอร์น มีชื่อจริงว่า จอห์น ไมเคิล "ออสซี่" ออสบอร์น เกิดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 1948 ที่เมืองแอสตัน เบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ เป็นลูกชายของ จอห์น โทมัส "แจ็ก" ออสบอร์น และ ลิเลียน ออสบอร์น โดยออสซี่เป็นลูกคนที่ 4 ในบรรดาพี่น้อง 6 คน โดยมีพี่สาว 3 คน และน้องชาย 2 คน ออสบอร์นได้รับชื่อเล่นว่า "ออสซี่" ตั้งแต่ยังเรียนอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษา

จุดเริ่มต้นของความฝันในการเป็นศิลปิน ออสซี่ ออสบอร์น เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เมื่อตอนอายุ 14 ปี เขาได้ยินเพลง She Loves You ของวงเดอะบีเทิลส์ในวิทยุ ทำให้เขามีความคิดอยากที่จะเป็นร็อกสตาร์เพื่อเติมเต็มชีวิตที่เหลือของเขา

...

แต่หลังจากนั้นเขาออกจากโรงเรียนกลางคันตั้งแต่อายุ 15 ปี ทำงานทุกอย่างเพื่อแลกกับเงิน อาทิ คนงานก่อสร้าง ช่างประปาฝึกหัด และคนงานโรงฆ่าสัตว์ อีกทั้งเคยขโมยของต่างๆ อาทิ ทีวี เสื้อผ้าเด็ก ผ้ากันเปื้อนเด็ก เสื้อยืด แต่เมื่อถูกจับได้ก็ไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ ซึ่งคุณพ่อของเจ้าตัวปฏิเสธที่จะจ่าย และบอกว่าให้เป็นบทเรียนของลูกชายตัวเอง

หลังจากนั้นในปี 1967 ออสบอร์นได้รับเลือกให้เป็นนักร้องวง Rare Breed ที่ กีเซอร์ บัตเลอร์ (Geezer Butler) ตั้งวงขึ้นมา แต่มีการแสดงเพียง 2 โชว์และแตกหักกันไปในเวลาต่อมา จากนั้นออสบอร์นและบัตเลอร์รวมตัวกันอีกครั้งในนามวง Polka Tulk Blues พร้อมทั้งมือกีตาร์ โทนี อิออมมี (Tony Iommi) และมือกลอง บิล วอร์ด (Bill Ward) แต่ท้ายสุดวงก็ต้องยุบตัวลงในภายหลัง 

จากนั้นพวกเขาเปลี่ยนชื่อวงเป็น Earth แต่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เมื่อพวกเขามีรายชื่อขึ้นโชว์คอนเสิร์ต แต่กลับมีวงดนตรีหนึ่งที่ใช้ชื่อเหมือนพวกเขา พวกเขาจึงเปลี่ยนชื่อวงอีกครั้งเป็น Black Sabbath ในเดือนสิงหาคม 1969 โดยนำชื่อมาจากชื่อภาพยนตร์ Black Sabbath 

แต่ด้วยดนตรีของพวกเขาทำให้ผู้ฟังเกิดความตื่นตระหนกเพราะยังไม่ได้รับความนิยมในขณะนั้น นำไปสู่แรงบันดาลใจที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจเล่นแนวเพลง เฮฟวี่ บลูส์ ที่มาด้วยดนตรีและเนื้อร้องที่มืดหม่น โดยสตูดิโออัลบั้มชุดแรก Black Sabbath ถูกวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 1970 ในอังกฤษ และ 1 มิถุนายน 1970 ในอเมริกา

ซึ่งอัลบั้มดังกล่าวติดลำดับที่ 8 ในชาร์ตอัลบั้มของอังกฤษ UK Albums Chart และติดอันดับที่ 23 ในบิลบอร์ดชาร์ต ถึงแม้ว่าจะมีการวิจารณ์ที่ค่อนข้างติดลบจากเหล่านักวิจารณ์ต่างๆ แต่อัลบั้มชุดนี้เป็นตัวแปรสำคัญสำหรับแนวเพลงเฮฟวี่ เมทัลให้เป็นที่รู้จักในเวลาต่อมา

หลังจากนั้นพวกเขาก็มีผลงานสตูดิโออัลบั้มต่างๆ ตามมาต่อเนื่อง อาทิ Paranoid (1970), Master of Reality (1971), Vol. 4 (1972), Sabbath Bloody Sabbath (1973), Sabotage (1975), Technical Ecstasy (1976), Never Say Die! (1978), Heaven and Hell (1980), Mob Rules (1981), Born Again (1983), Seventh Star (1986), The Eternal Idol (1987), Headless Cross (1989), Tyr (1990), Dehumanizer (1992), Cross Purposes (1994), Forbidden (1995), 13 (2013)

...

ในส่วนผลงานอัลบั้มเดี่ยวของออสบอร์นมีหลายอัลบั้ม อาทิ Blizzard of Ozz (1980), Diary of a Madman (1981), Bark at the Moon (1983), The Ultimate Sin (1986), No Rest for the Wicked (1988), No More Tears (1991), Ozzmosis (1995), Down to Earth (2001), Under Cover (2005), Black Rain (2007), Scream (2010), Ordinary Man (2020), Patient Number 9 (2022)

ส่วนผลงานเพลงดังที่เป็นที่รู้จักมีมากมาย อาทิ Paranoid, No More Tears, Mama, I’m Coming Home, Crazy Train, Iron Man, Dreamer, War Pigs, Children of the Grave, Mr. Crowley, N.I.B., Ordinary Man, Close My Eyes Forever, Under the Graveyard, Into the Void ฯลฯ

ด้านชีวิตส่วนตัว ออสบอร์นเจอกับ เทลมา ไรลีย์ (Thelma Riley) ภรรยาคนแรก ที่ไนต์คลับในเบอร์มิงแฮม ก่อนจะแต่งงานกันในปี 1971 และมีลูกด้วยกัน 2 คนคือ เจสสิก้า และ หลุยส์ ออสบอร์นยังรับเลี้ยง เอลเลียต ลูกชายวัย 5 ขวบของไรลีย์ในเวลานั้นที่มาจากความสัมพันธ์ก่อนหน้านั้น จากนั้นออสบอร์นแต่งงานกับ ชารอน อาร์เดน (Sharon Arden) ผู้จัดการส่วนตัว เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 1982 และมีลูกด้วยกัน 3 คน คือ เอมี่, เคลลี่, แจ็ค

...

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม