หนังแนวเชิดชูสตรีสู้ชีวิตผงาด เวทีประกาศผล “ลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 75” โดยหนัง “ทรี บิลบอร์ดส เอาต์ ไซด์ เอ็บบิง มิสซูรี” กวาดไปถึง 4 รางวัลยอดเยี่ยม ภาพยนตร์ประเภทดราม่า ได้แก่ หนังยอดเยี่ยม

บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักแสดงนำหญิงและนักแสดง สมทบชาย ขณะที่ “แกรี โอลด์แมน” ได้รางวัลดารานำชายยอดเยี่ยม หนังประเภทดราม่า ส่วน “เจมส์ ฟรังโก” ได้นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ภาพยนตร์ประเภทตลกหรือเพลง ส่วนงานละครทีวีที่คว้ารางวัลไปมากสุด 4 รางวัล ได้แก่ “บิ๊ก ลิตเติล ลายส์” ที่ส่งให้ “นิโคล คิดแมน-ลอรา เดิร์นส์” คว้ารางวัลนักแสดงนำสมทบหญิงด้วย

บันเทิงต่างประเทศคึกคักรับปีใหม่กับงานประกาศผลรางวัลภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ รางวัล “ลูกโลกทองคำ” ครั้งที่ 75 ที่โรงแรมเบเวอร์ลี ฮิลตัน นครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อเช้าวันที่ 8 ม.ค. ตามเวลาในไทย ซึ่งงานในปีนี้ มุ่งเน้นการเชิดชูสิทธิสตรี และจัดเป็นธีมชุดสีดำ เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศในวงการมายาฮอลลีวูด จากกรณี “ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน” ผู้อำนวยการสร้างหนัง ถูกเปิดโปงพฤติกรรมหื่นกระหาย บีบบังคับดาราสาวหลายคนร่วมหลับนอนด้วย จนกลายเป็นคดีโด่งดังไปทั่วโลก

สำหรับภาพยนตร์ที่คว้ารางวัลในปีนี้ น่าสังเกตว่า ต่างเข้าข่ายเป็นหนังเชิดชูสตรีเกือบทั้งสิ้น โดยหนังเรื่อง “ทรี บิลบอร์ดส เอาต์ไซด์ เอ็บบิ้ง, มิสซูรี่” เรื่องราวของมารดาที่กระตุ้นตำรวจให้เร่งสืบคดีลูกสาวที่ถูกฆ่าข่มขืน ด้วยการขึ้นป้ายโฆษณาริมทางหลวงแขวะเจ้าหน้าที่รัฐ คว้ารางวัลภาพยนตร์ประเภทดราม่าไปถึง 4 รางวัล ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ได้แก่ “ฟรานเชส แม็คดอร์มานด์” นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ได้แก่ “แซม ร็อคเวลล์” และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ขณะที่ภาพยนตร์ประเภทเพลงหรือตลก ปรากฏว่า หนังเรื่อง “เลดี้ เบิร์ด” เรื่องราวปัญหาชีวิตแม่ลูก คว้ามาได้ 2 รางวัล ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ได้แก่ “เซอร์ชา โรแนน” ขณะที่ “แอลิสัน แจนนีย์” คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม จากเรื่อง “ไอ, ทอนยา”

...

รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ภาพยนตร์ประเภทดราม่าตกเป็นของดารารุ่นเก๋า “แกรี โอลด์แมน” จากบทอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ วินสตัน เชอร์ชิล ในภาพยนตร์เรื่อง “ดาร์คเกส อาวร์” ขณะที่ “เจมส์ ฟรังโก” คว้านักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ภาพยนตร์ประเภทตลกหรือเพลง จากบทนักแสดงหลุดโลก ในเรื่อง “เดอะ ดิสซาสเตอร์ อาร์ติส” ส่วน “กีเยร์โม เดล เทโร” ซิวรางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเรื่อง “เดอะ เชป ออฟ วอเตอร์” ที่ยังได้รับรางวัลดนตรีประกอบยอดเยี่ยมด้วย

ขณะที่รางวัลละครโทรทัศน์ ปรากฏว่า ละครชุด หรือซีรีส์ “เดอะ แฮนเมดส์ เทล” นิยายที่นำเสนอภาพสังคมที่บิดเบี้ยวของเหล่าหญิงสาวที่ถูกบังคับให้เป็นนางบำเรอของผู้มีอำนาจ คว้า 2 รางวัล ละครโทรทัศน์ประเภทดราม่ายอดเยี่ยม พร้อมส่งให้ “เอลิซาเบธ มอสส์” คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ละครโทรทัศน์ประเภทดราม่าไปด้วย ขณะที่สาขาละครเพลงหรือตลก ปรากฏว่า ละครชุด “เดอะ มาร์เวลัส มิสซิส.ไมเซล” ชีวิตตลกของแม่บ้านในยุคปี 1950 ก็คว้า 2 รางวัล คือ ละครยอดเยี่ยม พร้อมกับที่ “ราเชล บรอสนาฮาน” ก็คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมด้วย

นอกจากนี้ งานลูกโลกทองคำปีนี้ยังแตกสาขารางวัลสำหรับละครซีรีส์เพิ่มขึ้น โดยใช้ชื่อว่า “รางวัลละครซีรีส์แบบจำกัดจำนวนตอน หรือภาพยนตร์สำหรับฉายทางโทรทัศน์” ซึ่งปรากฏว่า ละครเรื่อง “บิ๊ก ลิตเติล ลายส์” เรื่องราวของกลุ่มแม่บ้านที่ชีวิตในครอบครัวมิได้สวยหรูดังภาพที่ออกมา ประเดิมคว้ารางวัลในสาขาใหม่นี้ถึง 4 รางวัล ได้แก่ รางวัลละครซีรีส์ยอดเยี่ยม รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ได้แก่ นิโคล คิดแมน นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ได้แก่ ลอว์รา เดิร์น และนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ได้แก่ อเล็กซานเดอร์ สคาร์สการ์ด

ส่วนรางวัลภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม ตกเป็นของค่ายดิสนีย์พิกซาร์ จากผลงานเรื่อง“โคโค” ขณะที่สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม ได้แก่ เรื่อง “อิน เดอะ เฟด” จากเยอรมนี เรื่องราวของหญิงที่สูญเสียสามีชาวตุรกีและลูกชายในเหตุการณ์ก่อการร้าย

ทั้งนี้ บรรยากาศภายในงานลูกโลกทองคำครั้งที่ 75 ยังย้ำถึงธีมของงานอย่างต่อเนื่อง โดย เซ็ธ ไมเออร์ส พิธีกรตลกจากสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี ซึ่งทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายงาน กล่าวเปิดงานอย่างเหน็บแนมว่า สวัสดีปีใหม่ฮอลลีวูด กัญชาได้กลายเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว แต่การล่วงละเมิดทางเพศไม่ใช่อีกต่อไป พร้อมกล่าวยกย่องโอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรเซเลปผิวสีชื่อดัง ที่ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติลูกโลกทองคำ “ซีซิล บี.เดอมิลล์” ซึ่งโอปราห์ ที่ถือเป็นผู้หญิงผิวสีคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ ก็ได้กล่าวขอบคุณที่ได้รับเกียรตินี้ พร้อมย้ำผู้หญิงถูกเมินเฉย ถูกปิดปาก ด้วยอิทธิพลของผู้ชายมานาน แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว และวันใหม่กำลังจะมาถึง