แห่ร่วมแสดงความยินดีกันเกือบทั้งประเทศ สำหรับข่าวดีของคู่รัก อย่าง หลุยส์ สก๊อต และ นุ่น รมิดา หลังจากที่เขาทั้งคู่ออกมาประกาศข่าวดีว่าตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ 5 เดือน โดยทั้งคู่ได้ควงกันมาออกรายการ "คุยแซ่บ Show" ทางช่อง One31 พร้อมเล่าที่ไปที่มาว่าทำไมถึงเพิ่งมาประกาศว่าท้องตอนเข้าเดือนที่ 5 รวมไปถึงกระบวนการกว่าจะมีวันนี้ ต้องใช้เวลานานกว่า 6 ปี รวมไปถึงครั้งหนึ่งเคยท้อถึงขั้นยกเลิกการมีลูก
ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
นุ่น : ตอนนี้ก็ 5 เดือนแล้ว ถามว่ามีแพ้ท้องไหม เรียกว่าเฉียดดีกว่า คือตอน 5-6 วีค ความรู้สึกเหมือนคนไม่สบาย ลิ้นมันขม เวลาทานอะไร รู้สึกว่ามันไม่อร่อย อย่างอาหารไทยที่เราเคยกิน เรากินเข้าไปรู้สึกเลี่ยน อ้วก เราเลยรู้ว่า อาหารประเภทนี้ เรากินแล้วเราไม่สบายตัว เราเลยเลี่ยง มีวันนึงเราไม่หิวเลย แต่เราก็ต้องกิน ก็เลยบอกหลุยส์ว่า ให้เอาข้าวไปต้มกับเกลือ ต้มเละๆ แล้วเราก็กิน เหมือนว่าเราจะแพ้พวกเครื่องปรุง แต่แพ้อยู่แค่ช่วงนั้น แต่ตอนนี้เอ็นจอยในการกินมาก
...
แล้วมีแบบแพ้ เหม็นหน้าสามีไหม?
นุ่น : ก็ภาวนาว่าอย่าเป็นเลย (ยิ้ม)
หลุยส์ : คือผมก็แพ้แทนประมาณนึง ก็จะมีหลับทั้งวัน ของหวานปกติผมไม่กิน แต่นี่คือกินทั้งวัน ตรงกันข้ามกับนุ่น คือไม่กินเลย แต่ปกติเค้าจะชวนเรากิน มันเหมือนเราต้องกินแทนเขา แล้วก็มีคลื่นไส้เวียนหัวแทน
นุ่น : แล้วตอนนี้นุ่นก็บอกคุณหมอไปว่าอย่าเพิ่งบอกเพศ เราก็เลยบอกพี่หมอไปว่า บอกแค่โครโมโซมที่มันปลอดภัย ส่วนเรื่องเพศยังไม่ต้องบอก แต่หลายๆ คนก็ทาย ว่าผู้ชายแน่นอน และสิ่งหนึ่งที่เหมือนหลุยส์มาก คือหัวทุย หัวลูกฝรั่ง
หลุยส์ : ซึ่งถามว่าผมอยากได้เพศไหน ผมอยากให้เขาสุขภาพดี เพราะเราไม่ได้กำหนดตั้งแต่ตอนแรก เราแฮปปี้ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ขอให้แข็งแรงที่สุด
ย้อนกลับไปถามตอนที่เราไปยืนเฝ้าดูผลอัลตราซาวนด์?
หลุยส์ : มันเหมือนการอัดอั้น ใช้เวลากว่า 6 ปี กว่าจะมาถึงจุดนี้ มันไม่ใช่ 6 ปีที่เรารอคอย แต่มันเป็นเวลาที่เราต้องแสวงหาความรู้ แก้ไขปัญหา สร้างคลินิก เป็นระยะเวลาที่เราไม่ได้หยุดนิ่งในเรื่องนี้เลย มันต้องเดินทางตลอด
นุ่น : คือที่เราเปิดคลินิก เราอยู่กับเคสต่างๆ และการเข้าไปอัลตราซาวนด์ครั้งนี้ เราก็ภาวนาว่าอย่าให้มันเกิดกับเรา เหมือนบางคนเค้าอาจจะไม่สมหวัง
หลุยส์ : ตอนนั้นในหัวมันมีหลายเรื่องมาก ดีใจ ได้ปลดปล่อย มันพูดไม่ถูก มันไม่เหมือนในละคร
นุ่น : คือสัญชาตญาณของนุ่น นุ่นนอนไปสองเดือน ชีวิตกินข้าวอยู่บนเตียง แต่ด้วยความของนุ่นมันยาก เราก็พยายามทำให้มันเซฟที่สุด หมอแนะนำให้นอน เราก็นอน แต่นุ่นค่อนข้างมั่นใจ เพราะเวลาเราเข้าห้องน้ำ เราเช็กตลอด ทวารนุ่นไม่มีเลือดออก ซึ่งมั่นใจว่าสิ่งที่อยู่ในท้อง เค้าไปต่อแน่ๆ แต่มันก็มีความนอยด์ เรานอนนาน เรายังคิดว่าเค้ายังอยู่ไหม ถึงขั้นเราคุยกับแชท gpt ถึงขั้นตั้งชื่อ คุยกันทุกเช้า อยากรู้อะไรก็ถามเขา
แล้วคุยกันยัง สำหรับชื่อลูก?
หลุยส์ : จริงๆ ก็คุยกันแล้ว สำหรับผมก็ลิสต์มาแล้ว ตั้งชื่อผู้ชายและชื่อผู้หญิง คือเราก็จะตั้งชื่อไปในโซนๆ อังกฤษ ซึ่งเราก็จะลิสต์ชื่อผู้ชายมากกว่าชื่อผู้หญิง แต่ถ้าเป็นชื่อผู้หญิง เราก็อยากให้ชื่อเท่
แล้วฤกษ์คลอดล่ะ?
นุ่น : ตามผลอัลตราซาวนด์ คือวันที่ 1 กุมภาพันธ์ แต่ใดๆ ครบ 37 วีค มันอาจจะมีก่อน หรือปลายๆ ม.ค. ลุ้นอย่างเดียวว่าอย่าคลอดก่อนกำหนด
เห็นว่าตอนนี้นุ่นใช้อภิสิทธิ์คนท้อง หลุยส์เค้าดูแลเราประดุจเจ้าหญิง?
นุ่น : ก็มีแต่คนบอกว่า ถ้าเราท้อง จะมีคนประคับประคองเราเยอะมาก เพราะเมื่อก่อนเรายืนตรงไหนก็ได้ แต่ความรู้สึก เราคิดว่าเราเป็นเหมือนเดิม แต่คนรอบข้างเค้าจะช่วยเหลือดูแลเรา เค้าเป็นห่วงเรา และมันมีเรื่องคือหลุยส์อุ้มลงมาจากบนบ้าน คือเรานอนไปสองเดือน มันเริ่มเกิดความเครียด แต่นุ่นมั่นใจว่าเราใช้ชีวิตได้แล้ว เดินอยู่ในบ้าน เราก็บอกหลุยส์ว่า นุ่นอยากเดินลงไปข้างล่าง หมอก็บอกว่าเดินได้ แต่หมอบอกว่าเดินลงอันตราย มันเป็นการบีบมดลูก เราปรึกษาก่อนลงมา และสุดท้ายเราก็เลยเดินขึ้นเอง จากนั้นหนึ่งอาทิตย์กว่าก็อยู่ยาวบนเตียงเหมือนเดิม จากนั้นถ้าลงบันไดอีก เราก็ใช้หมอนรองก้น กระเถิบลงทีละขั้น
...
เห็นว่าคุณพ่อกลัวว่าภรรยาจะได้สารอาหารไม่ครบถ้วน เราก็เลยจัดเมนูอะไรให้?
หลุยส์ : คือเรามีบัญชีกลางอยู่แล้ว ช่วงหลังผมต้องไปถ่ายละคร และเราก็ไม่รู้ว่าอาหารที่สั่งมา สารอาหารจะครบถ้วนไหม ซึ่งปกตินุ่นเค้าก็จะทำกินเอง แต่ด้วยความที่เค้าท้อง เค้าก็อยากกินนู่นกินนี่
นุ่น : คือเค้าก็ให้เราสั่ง เค้าก็เติมเงินให้เราบ่อยขึ้น จนบางทีนุ่นเองก็ไม่กล้าบอกหลุยส์ว่าเราใช้ไปเท่าไหร่ เพราะเราก็กดสั่งตลอด
แต่กว่าจะมี ตลอด 6 ปีที่ต้องทำหลายวิธี ต้องยอมเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ยังไงบ้าง?
นุ่น : คือเราแต่งงานเลทด้วย แต่งตอน 37 ตอนนั้นเราก็ไม่มีความรู้เรื่องท้อง เราเป็นผู้หญิง ถ้าเราปล่อย มันก็ท้องเลยนิ มันไม่น่ายาก เพราะปล่อยเสร็จมันก็ไม่เวิร์ค เราก็เริ่มหาคุณหมอ พอเราเข้ากระบวนการ เราก็พยายามมาตลอด แต่เราก็มีพักถ่ายละคร แล้วคุณหมอที่เค้าทำให้นุ่น เค้ามีซินแสส่วนตัว เค้ายังบอกเลยว่านุ่นจะมีลูกตอนอายุ 42 เรายังคิดเลยว่าแก่ไปไหม ซึ่งเราก็พยายามทำมาตลอด แต่มันก็ไม่ได้จริงๆ เราเก็บไข่มาตลอด แต่เกรดมันยังไม่แฮปปี้ เราก็เปลี่ยนการใช้ชีวิต ศึกษาการเลือกกินอาหาร ถ้าออกกำลังกายแล้วมันไม่ใช่ทางเรา เราก็กินคลีน ลดน้ำตาล อัดวิตามิน งดปาร์ตี้ และมันก็มาจริงๆ ได้ไข่ที่สมบูรณ์
...
ทำไมเราไม่บอกข่าวดีนี้ให้กับทุกคนในเดือนแรก ถึงเพิ่งมาบอกตอน 5 เดือน?
นุ่น : เราผ่านกระบวนการต่างๆ มามากมาย ความตื่นเต้นของนุ่น มันไม่ได้สิ้นสุด แค่การมีลูกแล้ว มันเป็นความรอคอยมานาน มันผ่านอารมณ์มาเยอะ รู้สึกว่าการที่ประกาศว่าเราท้องแล้ว มันไม่ทำให้เรามีความสุขที่สุด เราไม่อยากมาแบกความรู้สึกว่า เราท้องแล้วนะ แต่ไม่รู้ว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน แล้วถ้าวันนึงมันไปไม่ได้ หนูจะต้องแบกความรู้สึกนี้ แล้วไปบอกทุกคนว่ายังไงต่อ เราก็ไม่อยากเล่าแล้ว
นุ่นจะเล่าให้ฟังว่า ตอนที่เห็นน้ำตาของหลุยส์ ตอนที่เราไปอัลตร้าซาวนด์ คือตอนนั้นเรารู้แหละว่าคุณหมอคงเครียด และดูรู้เลยว่าหลุยส์เครียด แล้วพอเราสำเร็จครบสามเดือน คุณหมอเค้ามาเล่าให้ฟังว่าคุณหมอทุกคนระดมความคิดกันหมดเลย แล้วคือย้อนกลับไปตอนที่เราแต่งงานเสร็จ เราปล่อย แล้วมันไม่ติด นุ่นก็ไปเช็กสุขภาพ แจ็กพอตเลยจ้ะ นึกว่าท้อง สรุปเจอเนื้องอกในกล้ามเนื้อมดลูก
ความโชคดีที่มันยังไม่ได้อยู่ในมดลูก อยู่ข้างๆ อยู่ในกล้ามเนื้อมดลูก หมอก็บอกว่าต้องเอาออก เพราะว่าถ้านุ่นมีลูก สารอาหารก็จะไม่ให้ลูกได้เต็มที่ และแม้จะผ่าไป มันก็จะเกิดขึ้นได้ใหม่ แต่เราก็ต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก เพราะถ้าเราปล่อยไว้ อาจจะต้องถึงขั้นตัดทิ้งเลยก็ได้
หลุยส์ : เราเครียด แต่ในใจก็คิดว่ายังไงมันก็ต้องมีวิธีที่เอาออกที่ดีที่สุด ซึ่งมันต้องใจเย็น เราต้องฟังหมอ เพราะนุ่นเขาสติแตก เราเลยบอกหมอว่ามีอะไรให้บอกเราก่อน แล้วเราจะได้กลั่นกรองข้อมูลเพื่อไปอธิบายให้เค้าฟัง
นุ่น : ตอนนี้เค้าก็ยังอยู่ อย่างในภาพอัลตราซาวนด์ ของคนอื่นอาจจะใสๆ หน่อย ของเราอาจจะขุ่นๆ แล้วหมอเค้าก็เก่ง เค้าก็มีเนื้องอกเหมือนกัน เค้าก็จะรู้ว่าอาการมันเป็นยังไง แล้วพอผ่าตัดเสร็จมันก็มีผลกระทบ ซึ่งอย่างที่นุ่นบอกว่า นุ่นกังวล ก็กังวลเรื่องพวกนี้ เพราะมันอยู่ข้างใน แต่ในกระบวนการท้อง เด็กโตแล้วเค้าก็จะขยายมดลูกออกไป แต่เท่าที่ดูแล้ว เด็กก็จะเจริญเติบโตตามวัยของเขา แต่มันก็จะมีปัญหาตอนคลอด ว่าจะคลอดเองหรือว่าผ่า
...
เห็นว่าหลุยส์เครียดมาก จนมีผลกระทบต่องาน?
หลุยส์ : ตอนนั้นไปถ่ายละคร บทลืมไปหมดเลย ลืมกระเป๋าแต่งหน้า บทไว้ที่บ้าน ซึ่งมันเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ พอเราขับรถออกจากบ้านไปปุ๊บ หามือถือไม่เจอ เพราะจะเสิร์ชหาโลเกชั่น พอกลับถึงบ้าน ทุกอย่างวางอยู่บนโต๊ะเหมือนเดิม ไปแต่ตัวจริงๆ
คือเรารู้ว่าทั้งคู่รักกันมาก เราเลยอยากถามว่ามีอะไรความในใจที่ยังไม่เคยบอกกันไหม?
นุ่น : เราเป็นคนเขิน เราไม่ค่อยหวานกัน
หลุยส์ : ตั้งแต่ต้นเค้ารู้อยู่แล้วว่าหลุยส์เป็นคนไม่ค่อยโรแมนติก ตั้งแต่เริ่มคบกัน เพราะว่าเราเริ่มจากการชอบเขา ลึกซึ้งกว่านั้นก็เกิดเป็นความรัก ความรู้สึกมันก็ขยับไปตามสเตปชีวิต ตอนนี้ความรักของผมมันสุดเพดาน ที่ผมจะรักใครคนหนึ่งได้ขนาดนี้ ความประทับใจผมอยากให้เค้ารู้ว่าสิ่งที่เขาผ่านมาแต่ละเรื่อง ผมอยู่ด้วยตลอด แล้วมันมีผลกระทบต่อจิตใจเขา ซึ่งเขาเข้มแข็ง และเขาสู้มาโดยตลอด อยากจะขอบคุณเขา มันเป็นการสู้เพื่อเราสองคน
นุ่น : จริงๆ อ่ะหนูก็รู้สึกแบบเขา จะแตกต่างในความเป็นผู้หญิงผู้ชาย การที่เราเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อที่จะมาดูแลเพื่อให้เรามีน้อง คือเค้าแต่งงาน คือเค้าอยากมีลูก แล้วมันมาถึงจุด เกิดกับสิ่งที่ไม่คาดฝันกับเรา นุ่นก็จะพยายามเพื่อเขา เขาก็จะเห็นมาโดยตลอด เพราะในแต่ละกระบวนการมันก็ต้องมีความเจ็บ แต่เราก็ไม่เคยบอกเขาว่า ไม่เอาแล้ว ไม่อยากมีลูกแล้ว แต่เขาก็รู้ว่าเราต้องอดทน
มันก็มีครั้งหนึ่งที่เค้าเคยบอกว่าขอให้เราหยุด เค้าเห็นเราเหนื่อย เค้าเห็นเรากดดัน เพราะเวลาออกไปข้างนอกก็มีแต่คนถามว่าเมื่อไหร่จะมีลูก หรือแซวหลุยส์ถามว่าไม่มีน้ำยาเหรอ เราเข้าใจว่าทุกคนที่ถาม เค้าหวังดีกับเรา แต่มันเป็นสิ่งที่กระทบเราเยอะมาก แต่เราก็ตอบแบบยิ้มๆ แต่เรารู้สึกว่าเราสองคนแข็งแกร่ง พอสำเร็จแล้ว ขอบคุณทุกคน ที่แสดงความยินดีกับการที่เราตั้งครรภ์ เรายังตกใจเลยว่าทุกคนคาดหวังกับเราขนาดนี้เลยเหรอ (ยิ้ม) ยืนยันว่าเราไม่ได้โกรธที่เราโดนคำถามแบบนั้น เพราะจริงๆ แล้วมีแต่คนรักเรา อยากให้เรามีความสุข เค้ายินดีกับเรา (หลุยส์หอมแก้มนุ่น)
คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม