เรื่องราวของ แบม ไพลิน และแม่ซี คู่กรณี ดูแล้วเหมือนจะไม่จบง่ายๆ เพราะแค่ 2 วัน ต่างฝ่ายต่างโพสต์ข้อความตอบโตกันอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน ไทยรัฐบันเทิงออนไลน์ จะมาสรุปไทม์ไลน์ร้อนนี้ให้ทุกคนได้เข้าใจกันแบบง่ายๆ
แบม ไพลิน ลุกขึ้นมาโพสต์เรื่องราวกับอดีตสามีแบบหมดเปลือก
- แบม ไพลิน ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของตัวเอง เล่าเรื่องราวตั้งแต่คุยกับอดีตสามีจนถึงวันที่เลิกรากันไป
- แบมเล่าว่า เป็นแฟนที่คบหากันปกติ รับรู้ว่าอีกฝ่ายมีลูกแล้ว เพราะผู้ชายบอกตั้งแต่แรกก่อนจะมาคุยและคบหากันอย่างจริงจัง
- ตอนแรกแบมไม่ได้เปิดใจ ก่อนคบระหว่างคุย ถามผู้ชายว่าไม่มีแฟนจริงๆ เหรอ เป็นคุณพ่อลูกติดเหรอ
- ซึ่งฝ่ายชายบอกว่าจบความสัมพันธ์ตั้งแต่มีลูกแล้ว แค่รับผิดชอบลูก เพราะลูกอยู่กับเขา
- ตอนแรกแบมบอกไม่เชื่อขนาดนั้น จนลองคุยไปเรื่อยๆ มีโอกาสไปเจอที่บ้านผู้ชาย พ่อแม่พี่น้องต่างบอกว่า เขาเลิกกันแล้วจริงๆ และทำหน้าที่พ่อแม่ดูแลลูกเท่านั้น
- แบมเลยลองเปิดใจ มีไปทานข้าว ดูหนัง เจอกับครอบครัวฝ่ายชายแบบจริงจัง
- จนถึงวันเกิดในวันที่ 25 ตุลาคม ฝ่ายชายขอแบมเป็นแฟน ซึ่งเธอตกลงและคบกันมาเรื่อยๆ
- ในระหว่างที่คบกันไม่มีปัญหาอะไรเลย ไม่มีใครมาวุ่นวาย มันเลยทำให้แบมเชื่อสนิทใจว่าฝ่ายชายไม่ได้มีใคร
- แบมได้ไปร่วมงานแต่งของน้องชาย ไปเจอกลุ่มเพื่อนๆ ของฝ่ายชาย ทำกิจกรรมกับครอบครัวฝ่ายชายมากขึ้น
- แต่มีสิ่งหนึ่งคือ ฝ่ายชายต้องไปดูแลลูกทุกอาทิตย์ที่บ้าน ไปกลับไม่ได้ค้าง พร้อมบอกว่าที่บ้านมีพี่เลี้ยง ซึ่งแบมไม่ได้ก้าวก่ายตรงนี้ ถือว่าอีกฝ่ายรับผิดชอบในฐานะพ่อ
- จนรู้ว่าแบมท้อง ก็แก้ปัญหาที่มันเกิดขึ้นระหว่างประกวดมิสแกรนด์ระนอง 2024 พูดคุยหลังบ้าน ปิดจบทั้งหมดได้ด้วยดี
...
- หลังจากเคลียร์เรื่องท้อง แบมโดนแฉว่าเป็นมือที่ 3 ซึ่งเรื่องนี้ทำเอาแบมช็อก มีคำถามมากมายเกิดขึ้น ที่บ้านของฝ่ายชายโกหกแบมทำไม
- มีคนยืนยันว่าฝ่ายชายเลิกกับ ก. แล้วแต่อีกฝ่ายไม่ยอม นี่คือคำพูดที่ออกมาจากปากครอบครัวฝ่ายชาย
- ที่ ก. ไม่ยอม เพราะถ้าฝ่ายชายไปจริงจังกับใคร ฝ่ายชายก็จะกลับไปหา ก. ยาก
- จากนั้นได้ออกมาไลฟ์เพื่อชี้แจง และมันก็เป็นเหมือนบทเรียน จากนั้นแบมก็หายไปจากโซเชียล
- แบมยอมรับว่าในช่วงที่เงียบไป เคยคิดว่า ถ้าลูกไม่อยู่ เรื่องทุกอย่างคงดีขึ้น ทุกคนน่าจะรู้สึกดี แต่สุดท้ายลูกน้อยก็แข็งแรงดี
- ฝ่ายชายยังคงแก้ปัญหาที่ก่อไปเรื่อยๆ และแบมก็ยังโดน ก. ทักมาด่า หรือเล่าเรื่องราวของแบมให้ฝ่ายชายฟังว่าอดีตเธอนั้นเป็นอย่างไร
- บางครั้งทักมาว่าไม่อยากปล่อยให้ลูกมาหาเพราะว่ากลัวแบมจะวางยาหรือเอาอะไรไม่ดีให้ลูกตัวเองกิน บอกว่าจริงๆ แบมไม่ได้รักเด็ก กลัวลูกจะเป็นอะไร ไม่ไว้ใจผู้หญิงคนนี้ที่สุด และมีหลายเรื่องมากซึ่งยกมาก็ไม่หมด
- จนแบมจับได้ว่าถูกฝ่ายชายนอกใจนอกกาย ก็เลยทำให้อยากยุติสถานะ ซึ่งทั้งคู่เลิกกันตอนลูกได้ 4 เดือนกว่าๆ
- แบมเล่าว่า ฝ่ายชายชอบไปดื่ม และชอบไปเที่ยวผู้หญิง และทะเลาะกันเริ่มรุนแรง มีการทำลายข้าวของลูก
- มีเหตุการณ์หนึ่งที่ฝ่ายชายไปทำงานที่ต่างจังหวัด และบอกว่าพาพนักงานไปพัก ติดต่อกันตลอด แต่ไม่ยอมกลับบ้านทั้งๆ ที่บอกว่าจะกลับแน่นอน แต่สุดท้ายไปเที่ยวต่อ พอกลับบ้านก็มีรอยดูดที่คอ แต่จำไม่ได้เพราะเมามาก และฝ่ายชายยังยืนยันว่าไม่ได้มีอะไรกันแต่แบมดันเห็นคราบที่กางเกงของฝ่ายชาย
- เหตุการณ์นี้ทำให้แบมบอกลาทุกคนในบ้านว่าขอจบทุกอย่างเท่านี้ รับไม่ได้จริงๆ แต่ฝ่ายชายและครอบครัวขอโอกาสอีกครั้ง ซึ่งมีผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายมานั่งพูดคุยกัน
- หลังจากที่ให้โอกาสอีกฝ่าย แบมเริ่มเช็กโทรศัพท์ของฝ่ายชาย แต่เห็นว่ามีการลบแชตที่คุยกับ ก. ทั้งๆ ที่ต้องคุยกันเรื่องลูก และพอค้นการโทรก็เจอว่ามีการโทรคุยกัน แต่อีกฝ่ายบอกว่าทะเลาะกันเรื่องลูก เลยโมโหและลบแชตทิ้ง
- ในช่วงนั้น ฝ่ายชายจะซื้อดอกไม้ให้ทุกวัน แพลนแต่งงาน ชวนไปเที่ยวต่างประเทศ แต่แบมอยู่ในบ้านกลับรู้สึกเต็มไปด้วยความขุ่นหมองตลอด
- ผ่านไป 19 วัน เลยคิดว่าถอยดีกว่า ความรู้สึกดีๆ มันไม่กลับมาเลย เลยตัดสินใจวางแผนกลับบ้าน หอบกระเป๋า 1 ใบออกมากับลูก บินกลับบ้านบอกว่ามีงานถ่ายเพลงแต่ขอเอาลูกไปด้วย ผ่านไป 2 วันเลยตัดสินใจบอกเลิกให้เด็ดขาดแล้วกลับมาอยู่บ้าน
- หลังจากเลิกกัน เวลาที่ฝ่ายชายเมาจะพูดเรื่องเดิมๆ ส่งรูปเก่าๆ มาถามว่าเรื่องของเรามันเกิดอะไรขึ้น
- แบมบอกว่าชีวิตหลังจากนี้ ก็มีแค่ลูกที่เธอต้องดูแล ส่วนฝ่ายชายจะดูแลหรือไม่ เงินจะให้หรือไม่ให้ ก็แล้วแต่เลย เรื่องลูกก็รอไปจบที่ศาล ไม่เรียกร้อง แต่จะทำทุกอย่างให้ลงตัวที่สุด
...
- แบมเลือกที่จะออกมาสร้างชีวิตใหม่กับลูกดีกว่า และปัจจุบันมีความสุขขึ้นมาก
- พร้อมกับบอกว่ารักตัวเองไม่เจ็บเลยสักวัน ขอโทษที่ต้องพูดมันออกมา ขอให้ความผิดทั้งหมดจบอยู่ที่แบม แบมและลูกรับมันไว้เอง ให้ทุกการตราหน้าจบอยู่ที่แบม ขอบคุณ และจะขอชดใช้กรรมทุกอย่างต่อ
- หลังจากที่แบมโพสต์ข้อความดังกล่าวไป ก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจแบมและลูก แต่บางคนก็เข้ามาคอมเมนต์ถามว่า เรื่องผ่านมาแล้ว ทำไมเพิ่งมาโพสต์เอาตอนนี้
แม่ซี คู่กรณีของแบมโพสต์ตอบโต้ผ่านเฟซบุ๊ก
- และหลังจากนั้นทางด้านคู่กรณีของแบม ก็ได้เคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊กของตัวเอง บอกว่า เธอก็มีหลักฐานเป็นภาพประกอบ ไม่ใช่เก่งแต่พิมพ์แค่ลมปาก แล้วไม่มีหลักฐานอะไร ไม่ใช่แต่งเรื่องมาลงให้ดูน่าสงสาร ถูกกระทำ
- และถ้าจะกล่าวถึง ก็พูดชื่อ C ไปเลย ไม่ต้องมาใช้คำว่า คนเก่า ก ข ค อย่าแสดง EQ ต่ำ ก่อนจะพาดพิงใคร ขอข้อมูลที่ชัดเจน ไม่ใช่อยากจะพิมพ์
- จากนั้น คู่กรณีของแบม ได้แคปข้อความที่แบมโพสต์ แล้วเขียนอธิบายไทม์ไลน์ ของแบมและฝ่ายชายว่า คุณรู้จักกันเดือนกันยายน ลูกเพิ่งคลอดได้ 3 เดือน
- เธอออกจากบ้านมาเองพร้อมลูก 2 คน เมื่อเดือนพฤศจิกายน ระหว่าง 3 เดือน คุณไม่รู้เลยเหรอว่าเมียเขายังอยู่บ้านกับลูก พร้อมกับบอกว่า **คุณไม่ต้องไปโทษผู้ใหญ่ โทษใครทั้งนั้น** รู้อยู่แล้วว่าเขาต้องกลับบ้านมาหาลูก ลูกเพิ่งคลอดต้องทานนมแม่ เมียต้องอยู่บ้าน
- อีกฝ่ายโพสต์ต่อว่า แบมเป็นคนเริ่มทักหาฝ่ายชายก่อน เริ่มแท็กรูป หลังจากนั้นก็คุยสานต่อมาเรื่อยๆ รู้ทุกอย่าง แต่ยังดิ้นรนจะเอา แค่รอเวลาเมียเขาออกจากบ้านกับลูก
- พอออกจากบ้านคนที่เงียบมาตลอดคือเมียหลวง ถ้าจะทำให้เป็นข่าวคงแฉไปนานแล้วกับสิ่งที่คุณทำ ไม่ตัองรอให้ถึงวันที่ออกมาไลฟ์ ไม่ได้จดทะเบียนไม่ใช่ผัวไม่ใช่เมีย ไม่ใช้สามีภรรยา มั่นไม่หยุดกับสิ่งที่พูดออกมา .. นี่รู้อยู่แล้ววันนึงจะกลับมาเป็นแบบไหนเลยเฉยๆ ปล่อยให้เวรกรรมตามสนองเอง
...
- ส่วนเรื่องงานแต่งน้องชาย หรือ งานไหนๆ ที่เอาคุณออกนอกหน้าก็ไม่ผิดสำหรับบ้านเขา เพราะทางนี้ได้ออกจากบ้านมาแล้วเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พวกเขามีงานกันเดือนธันวาจะพาคุณไปไหนทำไร ก็เป็นสิทธิ์ของเขา ไม่ต้องมาบอกหรอกว่าที่บ้านเลือกคุณ เพราะทางนี้ถือว่าเลิกกันขาดตั้งแต่ออกจากบ้าน ระหว่างที่คุณรู้มาทั้งหมด แต่ตั้งใจจะเอา ไม่ถอย ย้ายมาอยู่คอนโดฝ่ายชายถาวร อยู่ระหว่างที่ลูกเมียเขายังอยู่บ้าน
- ไม่โทษใครนะ คนเรามีความคิดทางเลือกของตัวเอง ถ้าผู้หญิงดีๆ มีทัศนคติที่ดีจะไม่ทำร้ายผู้หญิงด้วยกันและเด็กแรกเกิดที่ยังไม่รับรู้อะไร
- คุณควรจะถอยออกมา แล้วปล่อยให้ครอบครัวเขาจัดการให้เรียบร้อยก่อน แล้วจะคบใคร จะทำอะไร คุณก็ทำไป ไม่ใช่รู้ว่ายังไม่จบ ก็ยังดิ้นรนเอาต่อ
- ฝ่ายคู่กรณี ชี้แจงเรื่องที่แบมบอกว่าไปด่าแบม พร้อมกับบอกว่าย้ำกับพ่อเด็กตลอดจะพาลูกไปไหนก็พาไป แต่อย่าพาไปเจอแบมเพราะลูกยังเล็กมาก ใครจะไปไว้ใจ ทำครอบครัวเด็กคนนี้พัง เด็กจะไปรู้อะไรว่าใครเป็นใคร ใครดีใครร้าย ใครยื่นอะไรก็กินหมด ตอนนี้คุณก็มีลูก คนแปลกหน้าแบบคุณ ถ้ารักเด็กจริงจะไม่คิดทำร้ายเด็ก?
...
- คุณโดนคนรอบข้างคุณแฉกันเอง และพวกเขาโพสต์ด่าคุณเอง แต่มาโทษทางนี้ว่าใส่ร้าย หลักฐานคุณก็เห็นอยู่แล้วจากคนใกล้ตัวคุณที่เขาโพสต์ด่าคุณ แต่พอเจอคนใหม่รีบมีลูกทันที ทำตัวรักเด็กขึ้นมาเลย
- ส่วนปลาคราฟ 2 ตัวที่คุณซื้อมาที่บ้านใหม่ยังทวง คุณยังหวงปลา
- คู่กรณียังโพสต์ต่ออีกว่า ทำเหมือนจะจบกับผู้ชาย แต่มาขอนอนคอนโดเขา มากรุงเทพ วันที่ 16/3/68 มาพร้อมกับกระเป๋าลาก Rimowa ใบละ 4-5 หมื่น ของลูกชายตน กระเป๋าลูกตนยังยึด ใครกันแน่ที่ไม่จบ
แบมไม่อยากให้ลูกถูกตราหน้าว่าเป็น 'ลูกเมียน้อย'
- แบมไม่ได้บอกว่าเขาเลือกเรา แต่แบมดันเชื่อสนิทใจ ไม่โทษผู้ใหญ่ แต่มีคำถามเยอะมากกับวันเวลาที่ผ่านมาว่าตอนนั้นมันคืออะไร จะต้องสร้างเรื่องแบบนี้โกหกทำไม?
- หลายคนบอกว่ามาพูดอะไรตอนนี้ เพราะหลายคนไม่จบ ยังคงตามด่า ในหลายๆ ช่องทาง แบมเคยบอกกับหลายๆ คนว่าเมื่อถึงเวลา จะขอพูดทั้งหมด
- ไม่มีใครอยากโดนตราหน้า ไม่มีใครอยากให้ลูก ถูกเรียกว่าลูกเมียน้อย ขอเลือกที่จะปกป้องตัวเอง ปกป้องลูก ตอนนี้เหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก หลังจากนี้ก็ใช้กรรมกันต่อแตกต่างออกไป
- แบมโพสต์ข้อความต่ออีกว่า คนขี้ขลาดเขามักจะมุดใต้กระโปรงผู้หญิงเสมอ
- จากนั้นก็โพสต์ชี้แจงเรื่องกระเป๋า ว่าเธอก็เพิ่งทราบว่าเป็นของลูกชาย เพราะตนคิดมาตลอดว่าเป็นของฝ่ายชายเพราะใช้ด้วยกัน แต่คืนแน่นอน ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องบอกว่าราคากี่หมื่น เป็นแสนแบมก็ซื้อเองได้เพราะไม่ได้อยากได้ของใคร
- แต่ของลูกสาวแบมที่ทวงไป รอมา 3-4 เดือนยังไม่ส่งมาคืนเลย ตั้งใจว่าส่งของลูกมาก่อนของถึงจะส่งให้ เพราะเรื่องปลาของลูกในบ่อก็ต้องทวง ทวงผ่านทนายไปแล้วด้วยแต่ก็ยังเงียบ ปลาซื้อมารับขวัญลูก ไม่ได้ให้คนอื่น ราคาไม่ใช่ถูกๆ
คู่กรณีแบมโพสต์ถูกคนส่งข้อความข่มขู่ลูกๆ
- แคปข้อความ SMS ที่มีคนส่งมา มีข้อความว่า "มึงไม่ต้องกลัวนะ... ดูแลธุรกิจ ครอบครัว เมียและลูกเต้ามึงให้ดี แล้วเจอกันนะคะ"
- คู่กรณีถามว่า ข้อความที่ส่งมาเหมือนขู่หรือเปล่า พร้อมฝากข้อความนี้ไว้บนโลกออนไลน์ เผื่อลูกเกิดอะไรขึ้น เด็กๆ เกี่ยวอะไร ตัวคุณเองยังห้ามใครมาแตะลูกคุณ
- ถ้ายังไม่หยุดพาดพิงความริษยาของคุณจะเผาตัวคุณ พูดอะไรว่าใครพาดพิงใครเข้าตัวเองหมด กรรมมันตามสนองขึ้นทุกวัน
- เลิกทำตัวเหมือนเป็นผู้ถูกกระทำ น่าสงสาร มั่นตั้งแต่แรกจนตอนนี้ก็มั่นไม่หยุด เรื่องราวของคุณมันมีอีก กรรมพวกนี้จะกัดกินตัวคุณเองเพราะเกิดจากการกระทำคุณเอง * ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย *
- คู่กรณียังบอกว่า แบมเอาตัวเองมาประจาน อยากได้สามีเขาจนตัวสั่นไปหมด เดือนนิดๆ ท้อง เขาเรียกว่าอะไรเหรอ? "หล่อนมาทีหลัง อย่าลืมกำพืดตัวเอง"
- อีกฝ่ายเอาข้อความของแบมที่โพสต์ มาแปะในเฟซบุ๊กของตัวเอง พร้อมเขียนแคปชั่นว่า แม่ไม่ได้กลัว แม่ไม่ได้ดูหนังเลยช่วงนี้ เพิ่งดูเรื่องของหนูเนี่ยแหละ หนูหรือเปล่าที่พาล หนูยอมรับความจริงแล้วเหรอ ส่ง SMS มาขู่เหมือน ... ?
แบมโต้กลับ ใครกันที่จิกกันไม่เลิก ปาแชตหลักฐาน
- หลังจากที่คู่กรณีโพสต์ข้อความ SMS ไป แบมก็โพสต์ข้อความในแชตที่มีคนส่งมาให้เช่นกันว่า "**อ่ออ.. อย่าห่างอีแบมนะ ตัวติดกันให้ตลอด ถ้าห่างเมื่อไหร่ มึงคงได้นอนกับกุอีก*"
- พร้อมกับบอกว่า ใครกันนะที่จิกกัดอยู่ไม่เลิก สร้างข่าวอยู่ไม่หยุด อย่าบอกว่าเป็นคนนิ่ง คนเงียบเลย ข้อความที่ส่งไปเพราะอยู่เงียบๆ มาตลอด แล้ววันนึงมีหมายส่งมา
- แบมย้ำว่า ไม่ต้องกลัวนะแม่ ไม่ทำอะไรลูกแม่หรอก อย่าดูหนังเยอะเกินไป
- และยังบอกว่า ตอนนี้เข้าใจและเล็งเห็นว่า ผู้ชายคนนี้ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองรอดทุกสถานการณ์ เขาทำมาแล้วหลายครั้ง พูดเรื่องของอีกฝ่ายแบบพีกๆ ก็เยอะ วันนี้เลยเข้าใจว่า กะเทย ยังแมนกว่า
- พร้อมกับโพสต์ข้อความและแท็กฝ่ายชายว่า "ใส่กระโปรงเล่นน้ำอยู่ข้างบ้านแน่ๆ ลูกแงตลอดไป ไม่ผิดหวังจริงๆ"
- จากนั้น แบม โพสต์ต่ออีกว่า คำก็บอกว่าเธอบีบให้ฝ่ายหญิงออกจากบ้าน เรื่องราวที่แบมกำลังบอกคือ แบมไม่รู้ว่าอีกฝ่ายยังอยู่ที่บ้าน
- แบมบอกว่ารู้แค่ว่ามีพี่เลี้ยงดูแลลูกที่บ้าน ฝ่ายชายไปหาลูกปกติ ฝ่ายหญิงก็มาหาลูกปกติ เขาเป็นคนรับผิดชอบลูกทั้งหมด และต่างคนต่างอยู่
- และล่าสุด แบมก็โพสต์ข้อความว่า set zero และลงรูปกับลูกน้อย
เรื่องราวต่างๆ ไม่รู้ว่าจะจบลงอย่างไร คงต้องรอติดตามกันต่อ เพราะดูแล้วทั้งแบมและคู่กรณีดูเหมือนจะไม่ยอมกันง่ายๆ
คลิกเพื่ออ่าน “ข่าวบันเทิงวันนี้”