เป็นนักแสดงมากความสามารถที่ได้รับการยอมรับทั้งในแวดวงคนบันเทิงและแฟนหนังแฟนละครอย่างล้นหลาม สำหรับนางเอกสาวดาวค้างฟ้า แหม่ม จินตหรา สุขพัฒน์ ซึ่งก่อนหน้านี้หายไปจากหน้าจออยู่นานนับปี ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด
ในวันนี้เจ้าตัวได้หวนสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง โดยได้เปิดใจถึงเรื่องราวชีวิตในช่วงที่ผ่านมาว่า “ก่อนหน้านี้ที่ไม่ค่อยได้เห็นหน้ากัน ยอมรับว่าโควิดทำให้ชีวิตเปลี่ยน มีผลกระทบกับชีวิตค่อนเยอะ เราต้องปรับเปลี่ยนชีวิตความเป็นอยู่หลายอย่าง ทำให้มีเวลาอยู่กับตัวเอง ดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้น ส่วนมากก็ไปออกกำลังกาย พักผ่อน เพราะละครที่เคยติดต่อไว้ ก็ทำให้มีปัญหาเรื่องการถ่ายทำ บางชิ้นงานก็ต้องยกเลิกกันไป เพราะถ่ายทำไม่ได้

จนมาถึงปีที่ผ่านมาวงการบันเทิงก็ค่อยๆ ฟื้นตัว แหม่มมีโอกาสกลับมาเล่นละครอีกครั้ง อย่างเช่นของ นก จริยา เรื่อง "บัลลังก์มาร" ซึ่งผลิตให้กับทางโมโนแม็กซ์ โดยจะเริ่มการถ่ายทำเร็วๆ นี้ มีการอ่านบทกับทีมผู้จัด ผู้กำกับกันไปแล้ว นอกจากนั้นก็ยังมีผลงานละครกับทางช่องวัน 31 เรื่อง "ชะตาหงส์" และมีผลงานในด้านภาพยนตร์ที่กำลังถ่ายทำอีกด้วย
...
โดยส่วนตัวแล้วนอกจากที่หายหน้าไปจากหน้าจอ ก็ยังมีเรื่องธุรกิจส่วนตัวที่ทำให้ชีวิตสะดุดไปอยู่พักหนึ่ง ซึ่งแหม่มเอง ได้ไปเปิดใจในรายการไลฟ์สดช่อง VLOG OFFILCIAL กับปู โลกเบี้ยว ซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทกัน คบหากันมานานมาก เพราะปกติแหม่มไม่ได้มีเพื่อนเยอะ ช่วงนี้จะเห็นแหม่มตามช่องทางออนไลน์เยอะขึ้น ได้ออกมาทำไลฟ์กับปู โลกเบี้ยว ก็ทำให้เรากล้าที่จะออกมาพูด
มันเป็นเรื่องของจังหวะชีวิต ที่จะต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ เหตุการณ์เกิดมาได้ 1-2 ปีแล้ว แหม่มโดนโกงเงิน จากการทำธุรกิจไปนับสิบล้าน ซึ่งเป็นเงินก้อนโต ทำให้เราใจหายอยู่เหมือนกัน โดยมีคนมาแนะนำให้แหม่มทำธุรกิจ ให้เราลงทุนเรื่องสินค้า ผลิตภัณฑ์ นำเสนอแฟลตฟอร์มขายออนไลน์ ช่องทางการจัดจำหน่าย สามารถนำสินค้าของเราไปขายที่ประเทศจีน มีดาราหลายคนในเมืองไทยก็ทำแบบนี้ เป็นบริษัทคนไทยที่อ้างว่ามีความชำนาญในตลาดจีน พูดภาษาจีนได้ เราดู profile น่าเชื่อถือ มีความรู้ความสามารถ แหม่มก็หลงเชื่อ

พอตอนหลังแหม่มมารู้ว่าเขาเอาชื่อเราไปอ้างกับคนอื่น บอกต่อๆ กันไป ว่าแหม่มทำธุรกิจนี้ เลยทำให้มีดาราอีกหลายคนที่โดนเหมือนกับเรา ตอนนี้เรื่องกำลังอยู่ในช่วงขึ้นโรงขึ้นศาล เป็นคดีความกันอยู่ ทั้งในประเทศจีน แล้วก็ในประเทศไทย แล้วก็มีคนที่โดนหนักกว่าแหม่มด้วยซ้ำ บทเรียนจากตรงนี้ทำให้เราต้องระมัดระวังตัวเองมาก ถ้าเราจะทำธุรกิจอะไร ยิ่งในต่างประเทศ คือเราต้องศึกษา ต้องมีความรู้ ว่าจริงเท็จแค่ไหน มีข้อจำกัดอะไรบ้าง
แต่ถามว่าเข็ดไหม ชีวิตแหม่ม ก็ยังต้องเดินหน้าต่อไป ล่าสุดแหม่มก็กลับมาทำอาหารเสริม เพราะแหม่มเองก็เคยอ้วน กินมาหลายอย่าง ทำทุกวิถีทาง แต่ก็ไม่เห็นผลแบบยั่งยืน จนแหม่มได้มีเวลาออกกำลังกาย ควบคุมเรื่องอาหารอย่างเข้มงวด มีวินัยเรื่องอาหารการกิน ตอนนี้แหม่มน้ำหนักลดไปนับ 10 กก. แล้วค่ะ แหม่มอยากให้ทุกคนหันมาดูแลตัวเอง เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพที่ดีไปพร้อมกันค่ะ”
คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม