รายการ “คนแปลงร่าง” โดยมี บอย พิษณุ รับหน้าที่เป็นพิธีกร ในสัปดาห์นี้ พบกับ แต๊งค์ พงศกร อดีตดาราชื่อดัง ที่เคยปาร์ตี้หนักจนลงพุง หนักถึง 80 กก. หมดออร่าความหล่อ แม้แต่เพื่อนในวงการยังจำหน้าไม่ได้! ไร้คนจ้างงาน สุขภาพย่ำแย่ สู่การตัดสินใจแปลงร่างพลิกชีวิต มุ่งมั่นลดน้ำหนักได้ถึงเดือนละ 10 กก. จนทวงคืนร่างทองภายใน 4 เดือนได้สำเร็จ!

น้ำหนักที่พุ่งไปถึงเกือบ 80 ส่วนใหญ่มันจะไปอยู่ตรงไหนของร่างกาย?

แต๊งค์ : อยู่ตรงห่วงยางเลยครับผม ที่หน้าท้องข้างๆ แล้วก็ตรงหน้าอก

มีระบบบกพร่องของร่างกายหรือเปล่า?

แต๊งค์ : จริงๆ แล้วต้องพูดแบบนี้ ผมเป็นรูปทรงตัวเล็กอยู่แล้วครับ ขาไม่ใหญ่ แขนไม่ใหญ่ แรงยกเวทไม่เยอะ แต่ว่าพอปล่อยตัวให้อ้วนเนี่ยมันจะไปจับอยู่ที่พุงกับหน้าอกซะส่วนใหญ่

แสดงว่าเป็นปัญหาเรื่องของฮอร์โมนด้วย?

แต๊งค์ : ทรงร่างกายก็จะเขินๆ นิดนึง คือเรากลายเป็นผู้ชายหน้าอกย้วย

...

เมื่อก่อนคุณหุ่นดี หล่อ แล้วทำไมอยู่ดีๆ พุ่งขึ้นมา 80 กก.?

แต๊งค์ : 20 ปีที่แล้วนะพี่ ผมอยู่ในวงการ พอผ่านมาเรื่อย ๆ ก็อยู่ในวงจรของการออกงานปาร์ตี้ เจอเพื่อนฝูง กลางวันทำงาน กลางคืนไม่นอน ร่างกายก็ทรุดโทรม

แสดงว่าคุณลุกขึ้นมาแปลงร่างหลายรอบเหมือนกันนะ?

แต๊งค์ : ด้วยความสูงของผมแล้วก็น้ำหนักของผม ตอนนั้นลงไปอยู่ที่ประมาณ 53-54 คือเป็นซี่โครง เป็นกระดูกเลย อาจจะเรียกว่าเป็นการแปลงร่าง 2 ครั้ง จุดเปลี่ยนก็คือการที่ผมเริ่มมีครอบครัวครับ พอมีภรรยา มีลูก เราก็ตัดสินใจว่าเราจะเลิกปาร์ตี้ทุกอย่าง อยู่บ้าน เลี้ยงลูก ทำงาน แล้วก็กิน ทีนี้พอปล่อยเวลาแป๊บเดียว ลูกสามขวบปุ๊บเนี่ย น้ำหนักพ่อเพิ่มมาเยอะมาก ตอนนั้นน้ำหนักจาก 53 ขึ้นไปเกือบถึง 80 กก.

เป็นคนออกกำลังกายไหมจริงๆ แล้ว?

แต๊งค์ : เป็นคนที่ไม่ออกกำลังกายเลย ถ้านับการออกกำลังกายครั้งสุดท้าย คือสมัย High School

คนจำคุณไม่ได้เลยเหรอตอนที่คุณอ้วนขึ้นมา 80?

แต๊งค์ : ใช่เกือบ 80 ไม่แปลกครับ ช่วงที่ผมตัวหนักจริงๆ เนี่ย คนทั่วไปจำไม่ได้เลย จากที่เราเคยเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง เดินไปตลาดยิ้มให้แม่ค้า กลายเป็นว่าเราเป็นคนที่ยิ้มให้ เขางง เป็นใคร

แล้วจุดเปลี่ยนที่มาแปลงร่างตัวเองเพราะอะไร?

แต๊งค์ : หนึ่งก็อย่างที่บอกไปว่าความมั่นใจมันลดลง งานในวงการลดลง ซึ่งเราอยู่วงการมา เราเคยทำงานแสดงละคร พิธีกร งานหายก็หมายถึงรายได้ก็หาย ความมั่นใจลดลง งานลดลง ที่หนักที่สุดคือสุขภาพ พอเราปล่อยตัวเองให้อ้วนมากๆ เนี่ย แล้วอายุ 40 กว่า สุขภาพจะเริ่มแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด แล้วเรามีลูก ลูกเรา 3 ขวบอย่างนี้ เราไม่มีแรงที่จะออกไปวิ่งเตะฟุตบอลกับลูก ไม่มีแรงที่จะไปเล่นสวนสนุกกับลูก เราว่ามันไม่ได้แล้ว

ใช้วิธียังไงในการลดน้ำหนัก?

แต๊งค์ : สำหรับผมนะที่เวิร์คที่สุด แล้วทำได้ภายใน 4 เดือน คือเดือนแรกผมงดอาหารก่อน ต้องใช้คำว่าปรับ junk food กินดึก แคลอรี่เท่าไหร่ไม่นับเลย ตื่นมาหิว ก็กิน หิวอีกก็กินอีก เราปรับจากเรื่องของการลดพวกของทอดของมัน เดือนแรกเราปรับอาหารก่อน ซึ่งมันยากแค่วันสองวันแรกนะพี่ เริ่มจากการงดน้ำตาลก่อนเลย ของหวาน ขนมจุกจิก ขนมขบเคี้ยว เดือนแรกลดไป 10 กก.

...

ผมอยากจะรู้เคล็ดลับ เพราะส่วนตัวคุณเป็นคนไม่กินผัก?

แต๊งค์ : ไปศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำ IF ผมทำ 16/8 เดือนแรกงดอาหารเย็น ตื่นมากินมื้อแรกสิบโมงเช้า มื้อสองคือบ่ายสี่ ไม่ออกกำลังกายเลย ปรับอาหารอย่างเดียว เห็นความสำคัญของอาหารไหม ปรับอาหารอย่างเดียวเท่านั้นแหละ แต่คุณต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง กินไก่ต้ม ไก่ผัดกับน้ำ ข้าว สเต็กบ้าง เป็นครั้งคราว แต่หลังๆ ก็คือยังไงผักก็สำคัญ

ช่วงแรกที่เราลด เราปรับอาหารอย่างเดียวมันไม่พอ เพราะน้ำหนักเราลงจริง แต่หุ่นมันไม่ได้ มันเหลวๆ แล้วตรงนี้มันก็เหมือนเดิม มันยังเกาะอยู่ที่เดิม เราแค่ดูโปร่ง แต่ว่ามันยังห้อยอยู่ เราก็เลยออกกำลังกาย ซึ่งก็คือยกเวท คาร์ดิโอ ลองปรับหาจุดที่มันเหมาะกับเรา เดือนที่สองเริ่มออกกำลังกาย 3 วันต่อสัปดาห์ เดือนที่ 3-4 ออก 6 วันแล้วครับ ทุกวันนี้

คุณใช้เวลากี่เดือน?

แต๊งค์ : 4 เดือน มีความมั่นใจมากขึ้น คนในครอบครัวเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของเราแล้ว มั่นใจในตัวเรามากขึ้น ฝากความหวังไว้ได้ ทั้งภรรยาหรือพ่อแม่ของผมอะไรอย่างนี้ จะพัฒนาไปเรื่อยๆ แต่ผมไม่รีบ ผมอยากจะปรับ Mindset ของผมในการดูแลตัวเองให้เป็นไลฟ์สไตล์ไปเลย กินดี 6 วัน ตามใจตัวเอง 1 วัน ออกกำลังกาย ไปเที่ยว จะได้มีความสุขกับลูกไปนานๆ ครับ

ชมคลิป

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม