ชื่นมื่นตามสไตล์ เบนซ์ ปุณยาพร พูลพิพัฒน์ ที่ทำให้ทุกอย่างไปพร้อมๆ กับรอยยิ้ม โดยเฉพาะงานแต่งสุดอลังกับนักธุรกิจหนุ่ม ทายาทเจ้าของโรงแรม 6 ดาว ที่พัทยา อย่าง แก๊ป วิทนาถ วรรธนะกุล ที่จัดกันไปเลย 2 วัน 2 คืน พร้อมค่าจัดงานสูงถึง 8 หลัก โดยเจ้าตัวขับรถมาจากพัทยา เพื่อมาเล่าโมเมนต์สุดประทับใจ ผ่านรายการ "คุยแซ่บ Show" ทางช่อง One31 ที่มี เอส กันตพงศ์ และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร พร้อมย้อนกลับไปวันแรกที่เริ่มรู้จักกัน จนมีวันนี้ และเคล็ดไม่ลับ สามีคนนี้ “พระแม่ลักษมี” เป็นคนประทานให้…

รีวิวการมีสามี เป็นของตัวเองได้ 3 วันแล้ว?
“รู้สึกว่าการแต่งงานมันก็เป็นสิ่งที่ดีนะคะ  มันคือการเริ่มต้นของชีวิตจริงๆ ทุกคนอาจจะเข้าใจว่า การแต่งงานเหมือนในละครใช่ไหม เบนซ์ไม่เคยคิดแบบนั้นเลย คือตื่นเต้นแหละ การใช้ชีวิตคู่กับพี่แก๊ป ก็เลยมีความรู้สึกว่า เราก็ช่วยกันปรับ ประคับประคองกัน เราไม่รู้หรอกว่าชีวิตในอนาคตจะเป็นไง แต่เราจะทำปัจจุบันวันนี้ให้ดีที่สุด”

...

และอีกหนึ่งตำแหน่ง ก็คือคุณนายเจ้าของโรงแรม?
“อันนี้ไม่เกี่ยวเลยค่ะ ขอเถียงแบบเสียงสูง โรงแรมมันคือธุรกิจของครอบครัวเขา ส่วนเราก็มีธุรกิจที่เราทำอยู่แล้ว เกี่ยวกับเครื่องสำอาง ตกลงตั้งแต่ตอนเป็นแฟน ว่างานของใครของมัน ไม่มีการมาทำร่วมกัน เรารู้สึกสบายใจที่เป็นแบบนี้ อย่าคิดกันเลยว่า พอเป็นสะใภ้โรงแรม จะไม่ทำงาน หนูยังทำงานเหมือนเดิมค่ะ

เพราะสุดท้ายแล้วเบนซ์คิดว่า ผู้หญิงต้องมีคุณค่าในตัวเอง นี่คือคุณค่าของผู้หญิงในสมัยนี้ คนอื่นอาจจะมองว่า นักแสดงต้องคบกับคนที่มีฐานะ แต่เราคิดว่ามันเป็นช่วงจังหวะชีวิตที่เรามาเจอกันมากกว่า เค้าก็คือส่วนเติมเต็ม ที่ทำให้เรามีแรงทำงาน เค้าเป็นคุณค่าทางใจ เพราะมันเป็นทางใจปุ๊บ เราก็มีกำลังใจในการทำงาน ในการหาเงินแต่ละวัน”

คบกันมา 5 ปี แหวนได้ 5 กะรัตใช่ไหม?
“พี่แก๊ปเค้าเป็นคนที่มีดีเทล โดยในวันนั้นก็เหมือนมีการเซอร์ไพรส์ เราไปเดินห้างด้วยกัน พี่เขาถามว่า เราไปดูแหวนกันไหม เราก็สงสัยว่าแหวนอะไร ตอนนั้นก็แค่คิดว่า เค้าคงไปซื้อแหวนให้ตัวเอง เพราะเค้าก็เป็นคนชอบแต่งตัว พอไปถึง เค้าก็บอกว่าไปเลือกเลย ถือว่าเป็นของขวัญในวันแต่งงานของเรา

เราก็ช็อก พูดจริงหรือเปล่า หนูก็เลยบอกว่า คบกันมา 5 ปี ก็ 5 กะรัต หนูฉลาดไหม (หัวเราะ) แต่ผู้ชายก็บอกว่า ไม่มีให้อีกแล้วนะ วงนี้รวมทุกอย่างในวันพิเศษไว้แล้ว อยู่ในทุกเหลี่ยมเพชร แต่จริงๆ แล้วแหวนวงนี้ มันมีคุณค่าทางใจ แล้วแหวนวงนี้มันใส่ได้สองแบบ และมีสลักข้างในชื่อเราสองคน"

แล้วงานแต่งล่ะ อลังการสุดๆ?
”เบนซ์เป็นคนชอบอะไรเขียวๆ เป็นธรรมชาติ เราก็บอกทีมตกแต่ง จัดเป็นเหมือนป่านาร์เนียหน่อยๆ หิมะตกด้วยอย่างเงี้ยต้อนรับคริสต์มาส ก็ต้องขอขอบคุณแม่ที่ปิดสระว่ายน้ำให้ เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่คุณแม่รักที่สุด เค้าอนุญาตปิด แล้วตกแต่งให้เป็นของขวัญวันแต่งงานของเราสองคน และเค้กแต่งงานก็ลอยลงมา ต้องขอบคุณทีมงานมากๆ ในส่วนของงบงานแต่ง และที่หลายคนบอกว่าถึง 8 หลักเลยเหรอ คือแต่งจริงๆ 2 วัน เป็นงบโดยรวม มีทั้งงานพุทธ งานคริสต์ และก็งานตรงสระว่ายน้ำ แต่เราก็ต่อราคาสุดๆ เหมือนกัน"

ก่อนแต่งงาน หลายคนบอกต้องมีวัดใจ คู่เราเป็นยังไงบ้าง?
“ตอนเดือนพฤศจิกายน  ที่โรงแรมเขาจะมีการแข่งเทนนิส แล้วเขาเองก็ต้องลงแข่งด้วย เราเลยบอกพี่เขาว่าต้องหยุดก่อนนะ เพราะเราไม่รู้เลยว่าการแต่งงานดีเทลค่อนข้างเยอะ ก็เลยบอกพี่แก๊ปว่าพี่ต้องหยุดแข่งก่อน ตอนแรกเขาไม่เชื่อเลย สุดท้ายก็เดินมาบอกเราว่า พี่ไม่ไหวแล้ว พี่ต้องหยุดซ้อมก่อน ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่ อย่าเรียกว่าทะเลาะกันดีกว่า เรียกว่ามีปากเสียงกันเล็กน้อย ถึงกับพูดว่า เชิญพี่ไปนอนที่สนามเทนนิสเลย สุดท้ายเขาก็เลือกจัดงานแต่งก่อน”

...

ย้อนกลับถึงไปเส้นทางความรัก?
“ก็ไปเจอกันที่งานหนึ่ง เป็นงานเครื่องสำอาง แล้วพี่เขามีหุ้นอยู่ ตอนแรกเราก็เอ๊ะ ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงเข้ามาคุยกับเรา แต่เราก็พยามออกห่าง เราก็กลัว คนนี้ยังไงนะ คิดไปไกลเนอะ เขายังไม่จีบเลย (ยิ้ม) แต่พอเขาเข้ามาคุย ก็คุยได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร แล้วก็ไปกินข้าวกัน แล้วจังหวะแรกที่เรารู้สึกว่าผู้ชายคนนี้แปลกๆ เขาเหมือนไม่ธรรมชาติ ประมาณว่า สวัสดีครับ พูดเป็นทางการ มีสาระ แล้วตัวเราล่ะ เป็นแบบที่ทุกคนเห็นตอนนี้เลย

แล้ววันแรกที่ไปกินข้าวด้วยกัน สภาพเราคือเพิ่งไปฟิตเนสมา ไม่ได้อาบน้ำมา แล้วเราก็ไปสืบ ก็ไปรู้ว่า เหมือนเขาคุยกับใคร แต่พอผ่านมาแล้วสักระยะหนึ่ง เราก็รู้ว่า เค้าไม่ได้คุยกับใครในฐานะอะไร แต่ก่อนหน้านั้นที่เรารู้ บล็อกไปแล้วนะ 3 ปี สายข่าวเราไม่เคลียร์ (หัวเราะ) เขาก็ตามง้อ ใช้เบอร์คุณแม่ ส่งข้อความมา ซึ่งมันยาวมาก ถามว่าได้อ่านไหม ก็อ่านนะ จะถามว่าทำไมเชิดขนาดนั้น สวยไงแม่ (ยิ้ม)

ก็คือบล็อกไป 3 ปี ห่างกันอีก 2 ปี เกือบ 5 ปี แล้วตอนนั้นเราทำธุรกิจ เราก็ไปเรียนหลักสูตรที่ ม.เกษตร แล้วไม่คิดว่าจะได้มาเจอพี่เขาอีกครั้งนึง พอเราใกล้จะเรียนจบ เราเจอเขา เขาพูดว่า 'สวัสดีครับ' แต่ดีขึ้นกว่าเก่า เขาบอกว่า หลักสูตรนี้มันช่วยเกี่ยวกับธุรกิจของเราได้มากแค่ไหน มีอะไรปรึกษาพี่ได้นะ แล้วเค้าก็แซวว่า "ไอ้ที่บล็อก เปิดได้แล้วนะ"

แต่เราก็ไม่ได้เหมือนว่ากลับมาคุยนะ แต่พี่เขาให้ความรู้ ให้คำปรึกษา มันรู้สึกว่าเราประทับใจในตัวเขา ตอนนั้นเรา 35 เราโตขึ้น เราอยากทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เราก็คิดว่า คุยกับเขาไปก่อนก็ได้เนอะ เขาดูเป็นคนฉลาด เราต้องพึ่งเขาแล้วล่ะ เพราะเราไม่ค่อยฉลาดมาก มีความคิดแค่นี้จริงๆ แล้วพอเราจะทำเครื่องสำอางแบรนด์เราเอง เค้าส่งข้อมูล มาเป็นพารากราฟ ว่าต้องทำยังไง ข้อดีข้อเสียคืออะไร วางแผนการตลาดให้ด้วย ผู้ชายคนนี้มันใช้ได้เว้ย ก็เลยลองเปิดใจดู"

...

ดูเหมือนผู้ชายเขาจะล็อกเป้ารอตั้งแต่แรก ว่าเขาจะจีบผู้หญิงคนนี้ให้ได้?
”เหมือนเขาพยายามอยากจะกลับมาคุยกับเราอีกรอบหนึ่ง"

ทำไมตอนที่คบกัน ถึงยังไม่ค่อยเปิดตัว?
"พูดจริงๆ คือเรากลัว ด้วยความที่พี่เขาสมบูรณ์แบบทุกอย่าง เราก็กลัวว่า เขาอาจจะไม่จริงใจกับเรา เราก็บอกพี่เขาไปว่า ถ้าเราจะเปิดตัว พี่ก็ต้องให้ความมั่นใจให้กับตัวเราหน่อย จนผ่านไปปีที่ 3 เขาก็เดินมาบอกหนูว่า เราทั้งสองคนมีชีวิตครอบครัวกันได้แล้วเนอะ เราก็บอกกับไปว่า อันนี้พูดเล่นหรือพูดจริง ข้อดีของพี่แก๊ปคือ เป็นคนพูดแล้วทำ เขาไม่ใช่คนที่พูดไปเรื่อยๆ เขาทำทุกครั้ง

พอย้อนกลับ ตอนที่เริ่มเป็นแฟน เราก็บอกพี่เขาไปว่า 'อย่ามาคบเล่นๆ นะ' เพราะว่าถ้าไม่ชอบ ก็บอกเลยว่าไม่ชอบ แต่มันก็โชคดี ตอนคบกันแรกๆ เราก็เป็นเวอร์ชั่นที่เป็นตัวเองแบบเต็มๆ ให้เขาได้เห็นไปเลย ว่าพี่รับหนูได้ไหม ถ้ารับไม่ได้ เราจะได้ถอยห่างออกมา ถ้ารับได้ก็เดินหน้าต่อไปพร้อมกัน สุดท้ายแล้ว การที่เราจะเป็นครอบครัว ความเป็นตัวตนต้องออกมาให้หมด โอเคแหละมันก็ต้องมีการปรับกันบ้างแหละ มันก็ต้องจูนกันเพื่อตรงกลาง"

...

ได้คู่ดีแบบนี้ ขอพรที่ไหน?
"พระแม่ลักษมี ที่เกษร คือไปไหว้วันนั้น เราจะเปิดตัวสินค้าอีกตัวนึง งั้นลองมูเรื่องคู่นิดนึง ถ้าสมมติว่า ขอให้หนูได้เจอเนื้อคู่ ที่มาช่วยทำงานในธุรกิจที่เรากำลังทำ ขอให้เขาเป็นผู้สนับสนุน ผู้ซัพพอร์ต และขอให้คนนี้เป็นทั้งคู่ชีวิต เป็นทั้งเพื่อน เป็นทุกอย่างในชีวิตของหนู ขอให้ได้ขอให้เจอด้วยเถอะ แต่กว่าจะเห็นผล ก็หลายปีอยู่"

ชมคลิป

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม