เรียกว่าเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย สำหรับ โอปอล สุชาตา ช่วงศรี มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2024 ที่ล่าสุดคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 มาครอง หลังไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2024 ครั้งที่ 73 ที่ประเทศเม็กซิโก
หลังเสร็จสิ้นการประกวด ล่าสุด โอปอล สุชาตา เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา และเจ้าตัวสวมชุดสิริพัสตรา ศิวาลัย ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากฉลองพระองค์ไทยศิวาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงริเริ่มผลักดันฟื้นฟูรูปแบบชุดไทยตามขนบธรรมเนียมให้เกิดเป็นชุดไทยพระราชนิยม เพื่อสวมใส่ในวโรกาสต่างๆ
สำหรับบรรยากาศเต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม มีแฟนๆ นางงามมารอต้อนรับเป็นจำนวนมาก รวมไปถึง ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหารกลุ่มเดอะมอลล์, แอนโทเนีย โพซิ้ว มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 และรองชนะเลิศอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023, ณิชา พูลโภคะ รองชนะเลิศอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023, กานต์ ชนิกานต์ สุพิทยาพร นางสาวไทย 2566 และรองชนะเลิศอันดับ 2 มิสโกลบอล 2023 พร้อมผู้เข้าประกวดจากเวที Next Universe มารอต้อนรับโอปอลกลับบ้าน ก่อนที่เจ้าตัวจะให้สัมภาษณ์เปิดใจหลังมาถึงเมืองไทย
...
ณ ตอนนี้ความรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?
“ดีใจที่ได้กลับบ้าน หิวอาหารไทยมาก ไม่ไหวแล้ว นอกจากนี้ก็รู้สึกดีใจกับผลลัพธ์ ดีใจกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น รู้สึกภูมิใจมากๆ ทั้งกับตัวเองและพลังแห่งชาวไทยด้วย รู้สึกซาบซึ้งมากๆ ประกวดเสร็จก็มองย้อนกลับไปว่า ตั้งแต่ประกวดครั้งแรก ประกวดครั้งที่ 2 บินออกจากประเทศไทย จนถึงวันสุดท้ายของการประกวดมิสยูนิเวิร์ส เราได้รับความรักและกำลังใจจากคนไทยเยอะมากๆ มันเกินกว่าที่เราคิดเอาไว้ สิ่งที่ยิ่งกว่าความภาคภูมิใจในผลลัพธ์ของผลงานตัวเอง คือความภาคภูมิใจในความรักที่เราได้รับจากคนอื่น
ย้อนกลับไปวันที่ประกาศว่าเราได้รองอันดับ 3?
“ก็มีแอบตกใจนิดนึง เพราะว่ารอบแรกไม่ได้ใส่หูฟัง แต่รอบสอบใส่หูฟัง แต่เราก็ค่อนข้างมั่นใจในคำตอบเราพอสมควร ดูจากรีแอ็กชั่นกรรมการ เสียงเชียร์ ตอนแรกคิดว่าคงมีโอกาสเข้าไปได้จับมือ แต่ว่าเมื่อประกาศผลแล้วก็ไม่เป็นไร เราก็เคารพการตัดสินใจของคณะกรรมการค่ะ”
สิ่งหนึ่งที่ไม่เห็นเลยคือน้ำตาของโอปอล?
“เคยน้ำตาคลอครั้งหนึ่งตอนกลับมาที่โรงแรม เพราะว่าเราไม่ได้เป็นผู้ชนะ แต่เราไม่คิดว่าจะได้แรงซัพพอร์ตจากทีมไทยที่ไปรออยู่ ที่สำคัญแฟนคลับชาวต่างชาติเยอะขนาดนั้น มีหลายคนมากๆ ที่เข้ามาบอกเราว่า คำตอบของเราทำให้เขามีความหวัง เราเลยมีความรู้สึกร่วมกับตรงนี้ แต่แค่น้ำตาคลอ ไม่ได้ร้องไห้เพราะโอปอลไม่ได้รู้สึกเสียใจ ไม่ได้รู้สึกว่าต้องร้องไห้กับอะไรเลย เรารู้สึกแฮปปี้กับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เราอาจจะไม่ได้ตำแหน่ง แต่ว่าหลังจากนั้นคือสิ่งที่โอปอลได้รับนั้น มันมีคุณค่ามากๆ จริงๆ
หลังตอบคำถามไป 2 รอบ ความมั่นใจเรามาเต็มร้อยไหม?
“ก็มั่นอยู่ (หัวเราะ) ก็มั่นใจ คือสุดท้ายแล้วปอลคิดว่าการตอบคำถามบนเวทีนางงามมันเป็นคำถามปลายเปิด มันไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิดแน่นอน เพียงแค่ปอลรู้สึกว่าสิ่งที่เราตอบไปคือสิ่งที่เราอยากบอกกับโลก อันนี้คือปอลพอใจแล้ว คือสิ่งที่อยากให้คนได้ยินว่าเราเชื่อในอะไร หรืออยากให้คนได้ยินอะไรจากเรา โอปอลติ๊กถูกแฮปปี้ไปแล้ว แล้วเราเห็นมีคนที่เขาซาบซึ้งดีใจที่ได้ฟังคำตอบของเรา เราจึงค่อนข้างมั่นใจว่าเรามีโอกาส แต่สุดท้ายแล้วเราไม่ได้รู้ว่าเพื่อนตอบอะไรในรอบสองหรือว่าคนอื่นคิดยังไงกับคำตอบ เพราะฉะนั้นเราแฮปปี้ เราหวังว่าเราได้”
คนชื่นชมในคำตอบของเราทั้ง 2 รอบว่าทำได้ดี?
“ก็ดีใจค่ะเพราะว่ามันไม่ใช่คำตอบที่เป็นแพทเทิร์น เป็นวิชาการ หรือเป็นอะไรที่ผิดหรือถูก เราแค่รู้สึกว่านึกอะไรออกก็พูด มันเป็นสิ่งที่โอปอลสั่งสมมาตลอด มันเป็นสิ่งที่ปอลเชื่อในสิ่งที่โอปอลคิด เวลามันมีน้อยมาก ยอมรับว่าตื่นเต้นมาก แต่โอปอลเป็นแค่คนที่เก็บอาการได้ดีเฉยๆ ดีใจที่คนชื่นชอบคำตอบเรา ยิ่งไปกว่านั้นคือดีใจที่คำตอบเราส่งต่อไปยังหลายๆ คนที่ต้องการกำลังใจ ณ ตอนนั้น”
...
คิดว่าตัวเองพลาดตรงไหน?
“ไม่นะคะ เราเต็มที่ที่สุดแล้ว ถ้าเป็นอีก 10 ปีข้างหน้า แน่นอนว่าต้องมีพัฒนาการ แต่ ณ ปัจจุบันโอปอลเต็มที่ในเวอร์ชั่นนี้ของตัวเองที่สุดแล้ว ถ้าให้ย้อนเวลากลับไปไม่อยากแก้ไขอะไรเลย ไม่ได้อยากเดินใหม่ หรือตอบคำถามใหม่ โอปอลจะทำเหมือนเดิมทุกอย่าง เพราโอปอลแฮปปี้กับทุกความรู้สึกที่ทำไปวันนั้น”
เสียใจไหม?
“ก็คงเสียใจลึกๆ เพราะว่ามันเป็นความฝันที่เราอยากให้มันเป็นจริง แล้วเราพุ่งเป้ามาที่สิ่งนี้สิ่งเดียว เราอยากได้นะคะ แน่นอนไปอยู่ตรงนั้นทุกคนหวังว่าจะชนะ ที่ไม่ชนะต้องเสียใจกันบ้างอยู่แล้ว แต่โอปอลไม่เสียดายเลยสักอย่างเดียว”
คิดว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเราทำได้ดี แต่ผลไม่เป็นอย่างที่ทุกคนคาดหวัง?
“มันไม่ใช่เราคนเดียวที่ตัดสิน เราอาจจะคิดว่าเราทำดีที่สุดแล้ว แต่มันอาจจะไม่ตรงกับบริบทบางอย่างที่เขามองหาอยู่ก็ได้ อันนี้โอปอลไม่สามารถตอบได้เพราะไม่ใช่คณะกรรมการ แต่สิ่งเดียวที่เราทำได้คือเคารพการตัดสินใจของเขา ผลลัพธ์ที่ออกมา แล้วเราเดินหน้าต่อ โอปอลเชื่อว่าต่อไปมันมีอะไรให้ทำเยอะมากที่สร้างอิมแพ็กให้กับสังคม ฉะนั้นมาถึงตรงนี้ได้แฮปปี้แล้ว”
รอบไฟนอลอะไรคือสิ่งที่ยากที่สุด?
“ตอบคำถาม เพราะว่าตื่นเต้น เรารู้สึกว่ามีความกดดันค่อนข้างเยอะ ความจริงก็ตื่นเต้นทุกรอบ ยืนตัวสั่นอยู่หลังเวที ก้าวขาเกือบไม่ออก แต่รอบตอบคำถามมันเป็นอะไรที่ต้องใช้ไหวพริบ ความกดดันภายใต้เวลาอันน้อยมากๆ รู้สึกว่าท้าทายสุดๆ”
สื่อใหญ่อังกฤษพาดหัวข่าวว่าโอปอลโดนปล้นมง รู้สึกยังไง?
“คือเราแสดงความยินดีกับคนที่ได้ โอปอลรู้สึกว่า วิกตอเรีย มิสยูนิเวิร์สคนใหม่ เขามีเรื่องราว ความสามารถ ความสวยทั้งภายในภายนอก อย่างที่โอปอลบอกว่าเราเคารพในการตัดสินใจของคณะกรรมการและองค์กร เพราะเราไม่สามารถจะย้อนกลับไปทำอะไรได้ เราทำเต็มที่ โอปอลมองว่าพอแล้ว สุดท้ายผลมันจะออกมาเป็นยังไง มันไม่ใช่สิ่งที่เราจะควบคุมได้ และเราก็แสดงความยินดีกับคนมง เพราะฉะนั้นแล้วแต่คนจะคิดจะพูด แต่ส่วนตัวเราแฮปปี้แล้ว”
...
ย้อนกลับไปรอบห้องดำ เราโดนถามอะไรบ้าง?
“ห้องดำไม่ได้มีความตึงเครียดเลย อันนี้เซอร์ไพรส์มาก โอปอลเข้าเป็นประเทศท้ายๆ ก็แอบถามเพื่อนนิดนึงว่าเข้าไปแล้วเป็นยังไงบ้าง น่ากลัวไหม แต่กลายเป็นว่าทุกคนชิลมาก เพราะถามเกี่ยวกับตัวเราเอง เรื่องราวของเรา ภูมิหลังของเรา เราเชื่อในอะไร มีเป้าหมายอะไรในชีวิต ซึ่งเรามีคำตอบของเราอยู่แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยาก คนถามคือคุณราอูล ส่วนคุณแอนไม่ได้อยู่ในห้องดำค่ะ จะมีคณะกรรมการบางคนก็เป็นเซตเดียวกับหน้าเวทีค่ะ”
ได้แสดงความยินดีกับมิสเดนมาร์กไหม?
“มีค่ะ ความจริงก็พยายามหาวิธีคุยกับเขาตั้งแต่วันไฟนอล เราได้คุยกับเขาเยอะมากๆ ช่วงก่อนจะประกาศผล เพราะได้เดินรอบชุดราตรีลำดับใกล้กัน เข้าท็อป 5 ด้วยกัน ช่วงซ้อมมีนั่งทานข้าวกับเขา เราได้ส่งต่อพลังบวกซึ่งกันและกันมาเยอะ เราก็ได้แสดงความยินดีกับเขา ก็ดีใจ”
คิดว่าอะไรที่ทำให้เขาได้ตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส?
...
“สตอรี่ของเขาก็มีพลัง และสร้างแรงบันดาลใจมาก อย่างที่โอปอลบอกว่าเป็นบริบทที่เวทีและองค์กรต้องการมากกว่า แต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่โอปอลรู้แค่ว่าเขาเป็นคนที่จิตใจดี สวยงามทั้งภายนอกและภายในจริงๆ อายุเท่ากันด้วย”
โอปอลอยากจะสื่อสารอะไรกับคนทั้งโลกผ่านเวที?
“ความตั้งใจทั้งได้รับตำแหน่งและไม่ได้รับตำแหน่ง ซึ่งโอปอลทำมาตลอด นั่นก็คือโครงการของโอปอลเอง Opal For Her เรื่องของมะเร็งเต้านม เราพูดมาเสมอ บนเวทีเรารู้สึกดีใจมากที่เรามีโอกาสได้พูด และเรายังคงพูดเรื่องนี้และทำสิ่งนี้ต่อไป ความจริงเราอยากส่งต่ออะไรเยอะมากๆ แต่แค่พูดมันไม่พอ อยากให้ทุกคนที่ดูเวทีนี้แล้วเห็นเราอยากให้เขามีความหวังในการใช้ชีวิต การเรียน หรือการรักษา เรื่องอะไรก็แล้วแต่ หรือเห็นเราเป็นแรงบันดาลใจอะไรสักอย่างในชีวิตเขา ซึ่งมันไม่ใช่แค่เรื่องมะเร็งเต้านมอย่างเดียว ทุกอย่างที่เราพูดได้ เราก็อยากพูด”
ความภูมิใจสูงสุดคืออะไร?
“คือตอนที่ลงจากเวทีแล้วกำลังขึ้นรถบัสกลับโรงแรม มีแฟนคลับเป็นผู้ชายเดินมาหาที่รถบัส เขาเดินน้ำตาคลอมาเลย เขาบอกว่าคุณแม่เขาเป็นมะเร็งเต้านม เพิ่งผ่าตัดไป 2 รอบ ซึ่งหนักมากกับชีวิตเขา เขาฟังคำตอบเราแล้วรู้สึกมีความหวัง มีแรงสู้ โอปอลดีใจมากเลยเพราะสุดท้ายแล้วถึงเราจะไม่มง แต่คำพูดของเราส่งถึงคนอื่น โอปอลก็คุยกับเขาและบอกกับเขาว่า สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญนอกจากแม่ของคุณก็คือคุณที่ต้องมีความหวังเหมือนกัน เราทำงานกับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม เรารู้ว่ากำลังใจที่สำคัญที่สุดคือครอบครัว และอีกคนที่ผ่านเรื่องราวหนักๆ ไม่แพ้กับผู้ป่วยคือครอบครัว เพราะฉะนั้นคุณต้องเข้มแข็ง ซึ่งโอปอลก็รู้สึกว่าทำสำเร็จแล้วค่ะ”
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชื่นชมการทำหน้าที่ของเรา อยากจะให้ภาครัฐสนับสนุนรุ่นต่อไปยังไง?
“อย่างแรกขอขอบคุณที่นายกฯ และผู้ใหญ่หลายๆ ท่านเอ็นดู แสดงความยินดี แสดงความชื่มชมมาหาโอปอล โอปอลเชื่อว่านางงามในประเทศของเรามีเรื่องราวที่อยากส่งต่อ และมีคอร์สที่เขาอยากทำในการช่วยเหลือสังคม โอปอลอยากจะให้ภาครัฐและภาคเอกชนช่วยกันสนับสนุนเหมือนที่เราได้รับ และโอปอลรู้สึกดีใจมากๆ ใครที่อยากช่วยเหลือสังคมก็ขอความกรุณาสนับสนุนพวกเขาเช่นกันค่ะ
ได้คุยกับคุณแอนในเรื่องบทบาทของรองอันดับ 3 ต่อจากนี้ไหม?
“ก็เดี๋ยวมีงานของมิสยูนิเวิร์สเมื่อไรจะติดต่อมา ตอนนี้ก็มีลงคิวไว้บ้างแล้ว เขาก็บอกว่ามีแพลนจะมาไทย ทั้งทางคุณแอนและทาง MUO เดี๋ยวเราก็คงไปต้อนรับ และไปร่วมงาน”
หลายคนวิจารณ์เรื่องควีนทวีปว่ามีบทบาทมากกว่ารอง?
“ความจริงคุณแอนเขาพูดตั้งแต่ต้นแล้วว่าควีนทวีป 4 คน รวมถึงคนมงก็จะมีหน้าที่เดินทางไปรอบโลกพร้อมกับคนมง ปอลก็รู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องน่าตกใจอะไร เพราะมันเป็นสิ่งที่เรารับรู้อยู่แล้วตั้่งแต่เริ่มต้น เพียงแค่ได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที”
แต่คนคาดหวังว่าโอปอลน่าจะได้เพราะเป็นเอเชียคนเดียวที่ไปถึง TOP5?
“อันนี้ก็อาจจะเป็นเพราะเกณฑ์ของเขา ปอลก็ไม่ทราบเบื้องลึกขนาดนั้นว่าเกณฑ์ในการตัดสินควีนทวีป และท็อปต่างๆ เป็นเกณฑ์เดียวกันหรือคนละเกณฑ์ เราไม่ใช่คณะกรรมการ หรือองค์กร ทำได้แค่ยอมรับและตอนนี้แฮปปี้มาก โอปอลไม่สงสัยหรือคาใจเรื่องอะไรเลย”
ย้อนไปในรอบชุดประจำชาติ เกิดอะไรขึ้น?
“ตอนนั้นยอมรับว่าใจเสียจริงๆ เพราะว่าเราเช็กทุกอย่างแล้ว โอปอลให้ช่างผมแก้อยู่หลายครั้งก็ยังไม่แน่น ส่วนง้าวนั้นโอปอลต่อเองและเช็กความเรียบร้อยอยู่หลายครั้ง และตอนซ้อมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร อาจจะเป็นปัญหาด้านการขนส่งหรือเปล่า อาจจะทำให้กระทบตัวล็อกไหม เราก็เลยแอบตกใจเพราะเราซ้อมพรีเซนต์มาแล้วและอยากให้ทุกอย่างออกมาเพอร์เฟกต์ที่สุด แต่พอเกิดขึ้นแล้วก็ต้องไปต่อ ยอมรับว่าตอนตกก็ตกใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น โชคดีที่เป็นคนคุมสติเก่ง โอปอลใส่ชฎาเดินส่ายไปส่ายมาหลังเวทีก็ไม่หลุด พอหลุดก็ตกใจ แต่เดอะโชว์มัสโกออนค่ะ"
ไม่ได้ใจเสียใช่ไหม?
“ตกใจมากกว่า แต่ไม่มีเวลาแล้ว ต้องรีบเปลี่ยนชุด และไปต่อเท่านั้น”
คนบอกว่าพอหลุดแล้วเหมือนในตำนาน?
“ถ้าใช่ก็คือใช่ แต่ถ้าไม่ใช่ก็ไม่ได้อยากไปโยงอะไร แต่เราก็เคารพสมเด็จพระศรีสุริโยทัยอยู่แล้ว เราก็ไม่รู้ว่าจริงแท้แน่ชัดหรือเปล่า แต่เราก็ตั้งใจเต็มที่ที่สุดแล้ว
ก่อนไปได้บวงสรวงชุดไหม?
“บวงสรวงยิ่งใหญ่มาก ทุกคนคงจะเห็นภาพกันแล้ว ก็ไปบวงสรวงที่อยุธยา ทุ่งมะขามหย่องเป็นที่เรียบร้อย”
ถามถึงวันเปิดตัวมงกุฎแล้วไปไหว้มง คนเอ็นดูมาก?
“เราไม่ได้คิดว่าจะได้มีโอกาสไปขึ้นไปถ่ายใกล้กับมงกุฎเพราะด้วยความที่นางงามเรามีร้อยกว่าประเทศ และเวทีเล็กมาก คือเราเดินขึ้นไปถ่ายรูปและทักทายผู้ใหญ่ แต่เราก็มีความด้อมๆ มองๆ แต่ไม่กล้าเข้าใกล้ แต่สักพักก็เอาวะ คงไม่มีโอกาสได้ใกล้กว่านี้แล้ว สุดท้ายก็เข้าไปไหว้ เพราะรู้สึกว่าเราอยากไหว้ในสิ่งที่เราเคารพ และเราก็อยากได้ สุดท้ายเราจะเป็นหรือไม่เป็นเราก็จะกลับไปทำแบบเดิมอยู่ดี เพราะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเป็นเครื่องหมายของการนำพา”
มีไปมูบ้างไหม?
“น่าจะฉ่ำ (ยิ้ม) เดี๋ยวต้องลิสต์หน่อยว่าต้องแก้อะไรบ้าง คือมูว่ามงเท่านั้นเลย เรารู้สึกว่าเรื่องที่ไม่ใช่การมูเราก็ทำเต็มที่ เพราะฉะนั้นการมูเราก็ขอเต็มที่เหมือนกัน เรามูเยอะ และก็ขอให้ได้ตามที่ปรารถนา ไหนๆ ก็มีโอกาสขอแล้ว เลยขอในสิ่งที่อยากได้ไปเลย ได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากัน อย่างที่บอกมันมีหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ความเชื่อ หรือเราอย่างเดียวมันมีหลายปัจจัยที่จะทำให้เกิดสิ่งต่างๆ ขึ้น ก็จะมีกลับไปอยุธยา ไปหลายที่ น่าจะทัวร์ทั่วไทยก่อน”
หลายคนยังมูฟออนไม่ได้?
“อยากให้ทุกคนรู้ว่าโอปอลทำเต็มที่แล้ว สู้สุดใจ ทำสุดความสามารถ อยากให้ทุกคนทราบว่าต่อให้เราไม่ได้มงกุฏ แต่สิ่งที่โอปอลได้ทำ ได้พูด ได้ไปยืนอยู่บนเวทีนั้นมันมีค่ามากจริงๆ คงพูดไม่ได้ว่ามีค่ามากกว่ามงกุฏ แต่สำหรับโอปอลมันมีค่าที่โอปอลสามารถที่จะช่วยชีวิตคนได้ สร้างความหวัง สร้างพลังให้คนได้
เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนดีใจไปพร้อมกับโอปอลในสิ่งที่มันเกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอ โอปอลแฮปปี้กับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ได้อยากกลับไปแก้ไขอะไร แต่เข้าใจทุกคนว่าเสียใจเพราะทุกคนก็หวังหมดกับการที่ตัวแทนประเทศไืทยไปอยู่ตรงนั้น ประเทศไทยไม่สิ้นคนสวย ไม่สิ้นคนเก่งแน่นอน เชื่อว่าเดี๋ยวมีคนไปสร้างความภาคภูมิใจแน่นอน สุดท้ายอยากให้ทุกคนเชื่อว่ามงกุฎอยู่ในใจโอปอลจริงๆ”
มีอะไรอยากฝากรุ่นน้อง?
“ถ้ามีคนมาขอก็ให้ วันก่อนไปช้อปปิ้ง มีผู้หญิงคนนึงมายืนด้อมๆ มองๆ สรุปว่าเขาบอกว่าเขาอยากลงประกวดปีหน้า เขาก็มาขอคำแนะนำ”
ฝากถึงปีหน้า?
“เดี๋ยวเราจะรอดูว่าใครจะรับช่วงต่อไปเสิร์ฟที่นู่น”
พลังคนไทยเยอะมาก?
“อยากขอบคุณมากๆ ที่คอยส่งพลัง ส่งแรงใจให้กับโอปอล โอปอลเชื่อว่าการที่เราทำหน้าที่ตรงนั้นได้อย่างดีส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าพลังและความรักที่ทุกคนส่งมาให้ ทำให้โอปอลเชื่อมั่นในตัวเองและสายสะพายของเรา ดีใจมากๆ ที่วันนี้โอปอลได้ทำสำเร็จแล้ว คือทำให้คนไทยภาคภูมิใจ รู้สึกซาบซึ้งและดีใจมากๆ หวังว่าทุกคนจะคอยสนับสนุนกันต่อไปเรื่อยๆ ไม่ว่าในอนาคตโอปอลจะทำสิ่งใดก็ขอให้ทุกคนสนับสนุน คอยติดตาม ไม่ว่าจะในบทบาทใดก็ตามในชีวิต และคงทำโครงการช่วยเหลือสังคมต่อไปให้มากที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ค่ะ”
หลังจากนั้น แอนโทเนีย โพซิ้ว มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 และรองชนะเลิศอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 ก็เดินเข้ามากอดและทักทายโอปอล ก่อนจะให้สัมภาษณ์ว่า “อยากแสดงความยินดีกับน้องที่มาไกลขนาดนี้ ตั้งแต่มาประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ครั้งแรก รวมถึงวันนี้คือความพัฒนาของน้อง มันเป็นอะไรที่เป็นแรงบันดาลใจให้แอน ผู้หญิงหลายคน และคนไทยด้วย ถ้าเรามีความฝันเราต้องสู้ เราต้องเชื่อในสิ่งที่เราทำ แล้วโอปอลเป็นตัวอย่างให้ทุกคนเห็นว่าถ้าเราเซตใจไปเราทำได้
ในใจแอนน้องชนะแล้ว น้องคือมงสามของเรา คือแอนภูมิใจในตัวน้องมาก ตอบคำถามแต่ละรอบคือดีมากๆ เลย ไม่ใช่แอนคิดคนเดียว แอนรู้ว่าคนทั่วโลกคิดเหมือนกับแอนเลย น้องไม่ต้องเสียใจอะไรเลย เพราะว่าทุกคนเห็นความสามารถของน้องแล้ว มงกุฎกับสายสะพายมันไม่ได้คืออะไร ยกเว้นสิ่งที่เราทำ โอปอลคือมงสามในหัวใจคนไทยอยู่แล้วค่ะ”
คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม