หลังจากที่ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรชื่อดัง เผยคลิปที่อ้างว่าเป็นศิลปินชายร่วมกับนักร้องเรียนสาว ตบทรัพย์ 1 ในบอสของคดีดิไอคอนกรุ๊ป โดยมีการอ้างชื่อของหนุ่ม กรรชัย ออกรายการโหนกระแส และเรียกเงิน 20 ล้านบาท จากคลิปดังกล่าวหลายคนโยงไปถึง ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ นักร้องนักแสดงหนุ่มชื่อดัง

ล่าสุด ฟิล์ม รัฐภูมิ เปิดใจในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทางช่อง 8 โดยมี อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งในช่วงต้นรายการ ฟิล์ม รัฐภูมิ ได้ฟังคลิปเสียงที่ หนุ่ม กรรชัย เปิดในรายการ “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” ทางช่อง 3

โดยหลังจากฟังคลิปเสียง ฟิล์ม รัฐภูมิ บอกว่า ถ้าฟังจากคลิปเสียงอย่างเดียวคนฟังก็ตกใจว่าทำไมมีเสียงตนไปคุย ต้องบอกว่าการที่เขามาดีลกับบริษัทตน คือตนมีบริษัทโปรดักชั่นทำบริษัทพีอาร์ เนื่องด้วยเป็นบริษัทพีอาร์ รับทำมาร์เก็ตติ้ง เขาติดต่อผมมา แล้วผมไม่รู้จักกับทีมดิไอคอนเลย เขาลงชัดเจนว่าเดือน มิ.ย. ถ้าไม่ดูไทม์ไลน์จะงงเลย อยู่ๆ มีคลิปเสียงออกมา แต่ตนไม่เคยตบทรัพย์ใคร

...

ก่อนจะให้ทีมงานเปิดภาพ และบอกว่าภาพนี้ไม่ใช่ของตน มันเป็นหลักฐานที่เขาลงในโซเชียลมานาน และเขาลงในโซเชียลของเขา ตนเลยไปดึงรูปมาเพื่อ declare ตัวเอง ขอย้อนภาพตอนที่คุณกฤษอนงค์ใส่เสื้อสีขาว เป็นภาพตอนเดือน มิ.ย. เขาอยากจ้างบริษัทตนทำภาพลักษณ์ใหม่ ทำพีอาร์ใหม่ เพื่อโปรโมตบริษัทเขา ผมก็ถามว่ามีงบเท่าไร เขาบอกเดี๋ยวปรึกษากันก่อน แล้วหายไป 

พอมาช่วงเดือน ต.ค. (เปิดอีกภาพ) อันนี้คืออีกเดือนนึง อยู่ๆ คุณกฤษอนงค์บอกว่ามีงบ 20 ล้านในการโปรโมตและทำพีอาร์ ผมบอกยินดีเลย ถ้า 20 ล้านสบายเลยในการทำพีอาร์ ออกรายการก็ได้ หรือทำภาพลักษณ์องค์กรใหม่ มันเป็นหน้าที่เราอยู่แล้ว ผมเป็นผู้รับจ้าง เขาเป็นผู้ว่าจ้าง แล้วเขาเป็นคนกลาง ไม่ใช่ดิไอคอน เขาบอกราคามา ผมก็โอเค ผมรู้ว่าคุณมีงบประมาณนี้ แต่ผมจะคิดคุณเท่าไรค่อยว่ากัน

พอผ่านเวลาไป อยู่ๆ คืนนึงบอสปันอยากคุยกับผมขึ้นมา ซึ่งไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย แล้วคุณกฤษอนงค์โทรให้ วันนั้นบอสปันไปหาเขาที่บ้าน ผมถึงงงว่ามันตบทรัพย์ยังไง อย่าให้คลิปเสียงมาทำให้ผมถูกเข้าใจผิด อ.ยิ่งศักดิ์ ถามว่า แต่คุณก็รู้ว่าจะได้งบ 20 ล้าน ฟิล์ม บอกว่า เราทราบตั้งแต่แรก แต่อยู่ๆ เขาอยากคุยกับผม คนกลางโทรหาผม ผมก็ต้องเล่าว่าทำยังไง อาจจะมีแอบอ้างชื่อพี่หนุ่ม กรรชัย ก็ต้องขอโทษ แต่ไม่มีเจตนา ผมแค่ต้องการขายงาน ขายพรีเซนต์ให้ผ่าน

อ.ยิ่งศักดิ์ ถามว่า แต่วิธีการที่คุณขายงาน ทำให้รายการอื่นเสียหาย ประมาณว่าเรียก 20 ล้านบาทเพื่อไปออกรายการโหนกระแส รายการทีวีจะเสียหายไหม ฟิล์ม บอกว่า เสียหายแน่นอน คือก่อนหน้านี้เขาบอกผมว่าไปออกรายการมาแล้วหลายรายการ ใช้งบประมาณให้รายการต่างๆ รายการโหนกระแสเขาก็ไปออกมา เขาเอาคนไปออกหลายรายการ แต่อันนี้มันเป็นฝั่งของผมที่อยากให้ทำมาร์เก็ตติ้งแพลนให้ ผมก็รับงาน ผมเป็นแค่บริษัทนึงที่รับงาน

พอรับงานเสร็จ กลางคืนเขาโทรหาผม เขาก็พูดเยอะกว่านั้น แต่คลิปเสียงมันมีการตัดต่อให้กระชับ โดยการที่เหมือนผมพูดว่าเอาเงิน 20 ล้าน อ.ยิ่งศักดิ์ ถามว่า ถ้าคุณพูดประโยคนี้มันเป็นหลักฐานทางกฎหมาย คุณพูดว่ามีการตัดต่อ มันมีการพิสูจน์ได้ จะพูดเล่นไม่ได้ ฟิล์ม บอกว่า ผมพูดด้วยความสัตย์จริง ยินดีให้ตรวจสอบ ในคลิปเสียงไม่มีอะไรเลยนอกจากคนคนนึงที่ไปขายงาน ไม่มีเจตนาไม่ดีเลย ไม่ได้อ้างถึงใคร

อ.ยิ่งศักดิ์ ถามว่า แต่คุณพูดว่าสามารถพาเขาไปออกรายการโหนกระแสได้ คุณจะการันตีได้ยังไงว่าจ่ายตังค์แล้วสามารถทำได้ คุณหนุ่มจะพูดแบบนั้นแบบนี้ มั่นใจได้ยังไง ฟิล์ม บอกว่า ผมไม่ได้พูดว่างบตัวนี้การันตีให้ใครพูดอะไรก็ได้ ผมหมายถึงแพลนมาร์เก็ตติ้งเขาสามารถไปออกรายการไหนก็ได้ มันเหมือนลูกค้าซื้อสปอนเซอร์ไปออกรายการ รูปแบบทั้งหมดเขาส่งมาให้ตนว่าเคยไปทำมาแล้ว ไม่ใช่ตนคิดค้นเอง เขาเคยทำแล้วแต่อยากทำอีก

อยากให้ทุกคนที่ฟังเสียงฟิล์มอยู่ได้คิดว่าก่อนที่เขาจะเกิดเรื่อง ผมอยากให้เขาไป declare ตัวเอง เพราะสิ่งที่เขาพูดให้ผมฟัง ผมฟังก็ไม่รู้สึกตกใจ อ๋อ คุณแค่ขายของ ผมไม่รู้จักว่าดิไอคอนคืออะไร เขาบอกว่าถูกแกล้ง ผมก็บอกว่าถ้าถูกแกล้งก็ไปออกรายการ ไป declare ตัวเอง ไม่ใช่หน้าที่ผม ผมไม่ใช่ผู้ตัดสิน พี่หนุ่มไม่ใช่ผู้ตัดสิน ประชาชนก็ต้องฟังว่าเขา declare ตัวเองได้ไหม ผมเป็นคนทำพีอาร์ ผมแนะแนวทางว่าคุณควรจะแก้ไขให้ธุรกิจของคุณกลับมาเดินได้ยังไง ผมพูดตามหลักความจริงทุกอย่าง

...

อ.ยิ่งศักดิ์ ถามว่า ตอนที่บอกเขาว่าให้ไป declare ตัวเอง ตอนนั้นไม่ทราบเลยเหรอว่าธุรกิจของเขาที่แท้จริงคืออะไร ฟิล์ม บอกว่า ถึงอยากให้ทุกคนดูไทม์ไลน์ คือมันเกิดก่อนที่จะเป็นคดีความ ถ้ารู้ว่าเขามาแอบแฝงว่าเขาคดโกงแบบที่หน่วยงานรัฐบอกมา ผมไม่ให้เขาไปออกรายการหรอก ผมไม่ใช่ผู้จัดรายการ ผมไม่มีสิทธิ์ มันอยู่ที่ดุลพินิจผู้ใหญ่

เมื่อถามว่าถ้าทุกคนฟังคลิปแล้วยังเข้าใจว่าฟิล์มเรียกเงิน 20 ล้านเพื่อให้เขาไปออกรายการอธิบายตัวเขา ฟิล์ม บอกว่า ผมเป็นบริษัทพีอาร์ ผมต้องพรีเซนต์ให้เขาเชื่อมั่นในตัวผมว่าจะนำพาบริษัทเขาให้กลับมาภาพลักษณ์ดูดีอีกครั้ง แต่สุดท้ายขายงานไม่ผ่าน ไม่ได้เงิน ไม่ได้งาน

ผมเป็นแค่คนกลางคนหนึ่ง แต่บริษัทและผมต้องมาเสียหายเพราะคลิปนี้ คุณโทรหาผมเอง อัดเสียงผมเอง คุณไปนั่งที่บ้านเขา ทำอะไรกันเอง แต่ผมเป็นคนกลางที่เป็นแค่บริษัทโปรดักชั่นเฮ้าส์ แต่ถูกสังคมพิพากษาว่าไปรับเงินเขา ฉะนั้นยินดีให้ตรวจสอบ ผมไม่ได้รับเงินใครเลย ไปถามพวกบอสเลยว่าผมรับเงินสักบาทไหม คนกลางจะไปรับเงินหรีอเปล่าผมไม่รู้ ถามว่ารู้จักบอสคนไหนบ้าง ฟิล์ม บอกว่า รู้จักกันต์ พี่แซม มิน เคารพนับถือกันทั้งนั้น คนวงการเดียวกัน

...

อ.ยิ่งศักดิ์ ถามว่า มีคนคอมเมนต์ว่าไปเรียกเงิน 20 ล้าน แต่เขาไม่มีเงินสดจ่าย แล้วฟิล์มบอกว่าไม่ได้รับเงินงานนี้ นี่ก็เข้าข่ายตบทรัพย์แล้ว ฟิล์ม ตอบว่า มันไปตบทรัพย์ยังไง เพราะผมไม่รู้ว่าเขาทำอะไรมาก่อน อยู่ๆ ติดต่อผมมาว่าอยากเอางบตัวนี้มาทำพีอาร์กับบริษัทผม ผมรู้โจทย์ว่าเขามี 20 ล้านบาท ผมพรีเซนต์บริษัทตัวเองว่าเขาต้องทำยังไง แล้วเขาไม่ได้เลือกบริษัทผม เขาไม่ได้จ้างงานผม ในคลิปเสียงก็เป็นหลักฐานมัดอยู่แล้วครับ

เมื่อถามว่ารายการโหนกระแสเขารับตังค์จากค่าโฆษณาเท่านั้น อย่างอื่นไม่รับ ฟิล์ม ตอบว่า อย่างที่บอกว่าเขาเล่ามาเองว่าไปออกรายการ ให้ไป tie-in สินค้า ฟิล์มแค่นำเสนอ แต่ไม่มีอำนาจ ผมไม่ใช่พี่หนุ่ม อ.ยิ่งศักดิ์ ถามว่า การเอ่ยชื่อหนุ่มและรายการโหนกระแส มั่นใจว่าหนุ่มและทีมงานฟังอยู่ ฟิล์มอยากอธิบายอะไรไหม ฟิล์ม บอกว่า ที่พี่หนุ่มด่าก็ถูกต้องแล้วครับ เพราะผมก็ฟังรายการอยู่ ผมก็น้อมรับว่าผิดจริงๆ ที่ผมไปอ้างเขาเพราะอยากได้งาน ผมไม่รู้ว่าเขาอัดเสียงผม ผมไม่รู้ว่าเขาจะเอาคลิปมาเปิดเผย

ผมอยากได้งาน ผมคิดว่าการที่ให้บริษัทไป declare ตัวเองได้ ณ วันนั้นที่เขายังไม่เกิดความผิด เราเป็นบริษัทพีอาร์ เราก็ทำสำเร็จเป้าหมายว่าให้เขาอธิบายตัวเอง ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ขึ้นอยู่กับเขา ไม่อยู่ที่ฟิล์มหรือรายการ เขาต้องอธิบายกับประชาชนให้ได้ เพราะที่เขาให้ข้อมูลผมมา เขามั่นใจมากว่าเขา declare ตัวเองได้ เขาทำธุรกิจไม่ผิดกฎหมาย แต่พอวันนี้ที่ผมฟังจากหน่วยงาน ผมก็ยังไปออกรายการพี่หนุ่มเลยครับว่าเขาผิดที่ใช้ผลประโยชน์มาล่อ เขาไม่ได้ขายของจริงๆ เราก็รู้ข้อมูลพร้อมกับประชาชน แล้วผมไม่ได้งานนี้

อ.ยิ่งศักดิ์ ถามว่า เวลาไปขายงาน ทำไมต้องเอ่ยถึงรายการโหนกระแส และชื่อหนุ่ม กรรชัย ฟิล์ม บอกว่า การที่เขาซื้อสปอนเซอร์ต่างๆ มันจะทำให้ไปออกรายการเขาได้ เพราะเขาเอาหลักฐานมาให้ผมดู ซึ่งมีในโซเชียลอยู่แล้วที่เขาไปออกรายการต่างๆ เขาเอามาพูดให้ผมฟัง ก็คิดว่าแผนที่เขาทำมันดี แต่ตัวผมจะช่วยทำแพลนมาร์เก็ตติ้งให้อีก ทำให้คุณมาอธิบายกับประชาชนแค่นั้นเอง ไม่มีเจตนาอื่น

...

แต่คนก็ยังสงสัยว่าฟิล์มไปรีดทรัพย์เขา จะอธิบายคำนี้ยังไง ฟิล์ม บอกว่า ไม่มีการรีดทรัพย์เกิดขึ้น มันเป็นคำตกลงต่างๆ ที่คนกลางไปตกลงกับทางบริษัทเขามา แล้วเขาเอางบตรงนี้มาให้ผม ผมรู้ว่าเขามีงบตรงนี้ ไม่ใช่เกิดจากการรีดทรัพย์ การรีดทรัพย์คือผมโทรหาเขา ขู่กรรโชกเขา หรือทำอะไรข่มขู่ให้เขากลัว ถามว่า 20 ล้านฟิล์มเป็นคนพูด หรือเขาเป็นคนเสนอว่ามีงบ 20 ล้าน ฟิล์ม ตอบว่า เขาเป็นคนเสนอ

แล้วในวันนี้ไม่ได้ทำงานให้เขา ฟิล์ม บอกว่า ไม่ได้ทำงานให้ ผมไม่ได้งานนี้ ในมุมที่ผิดคือไปอ้างรายการพี่หนุ่ม ผมก็ขอโทษพี่เขาไป ผมก็รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ผมก็อยากได้งาน แต่ในมุมที่บอกว่าผมไปรีดทรัพย์ ผมอธิบายไปหมดแล้วว่าไม่ใช่  อ.ยิ่งศักดิ์ บอกว่า คนกำลังมองว่าคุณไปแอบอ้างที่จะทำให้ภาพลักษณ์บริษัทเขาดีในงบ 20 ล้าน ไปโหนกระแส ฟิล์ม ตอบว่า ผมถึงบอกว่าดีที่เขาลงหลักฐานในโซเชียล ผมก็เลยไปดูด เวลาผมน้อย เลยดูดได้บางภาพว่ามันเป็นหลักฐานที่ยืนยันตัวผมเองว่าคุณไปคุยกันก่อนในเดือน มิ.ย. และตอนนั้นคุณไม่บอกผมว่าคุณผิด สมมติเวลาลูกค้ามา ลูกค้าก็ต้องบอกว่าบริษัทดีอย่างนี้ ผมเป็นคนกลางทำพีอาร์ ผมก็ต้องทำให้เขาออกมาดูดีที่สุด เจตนาผมไม่ได้ช่วยโจร ผมไม่มีอำนาจ โอเคมาจ้างงานผม ผมได้งบตรงนี้มา ก็เอาไปออกรายการต่างๆ

คนบอกว่าฟิล์มแก้ตัว ฟิล์ม บอกว่า แล้วแต่คนคิด เพราะไม่มีใครมองเราถูกหมดหรอก แต่วันนี้ได้พูดความจริงก็สบายใจ ยินดีรับผิดชอบคำพูดทุกคำ อ.ยิ่งศักดิ์ พูดว่า ฟิล์มบอกว่าไม่ใช่เสียงของฟิล์มทั้งหมด อันนี้ต้องรับผิดชอบคำพูด ไม่ได้รับเงิน ไม่ได้รับงานด้วย คำถามคือมีเงิน 20 ล้านออกมาจริงใช่ไหม ฟิล์ม ตอบว่า ผมไม่รู้ว่าใครได้รับงานจากเขาไป แต่ไม่เกี่ยวกับผม เพราะผมก็มีแค่นี้เอง เรื่องของผมมีเท่านี้ ถ้าผมรู้ว่าเขามีแอบแฝงธุรกิจแบบนี้อย่างที่สื่อและหน่วยงานบอก ผมไม่ช่วยและไม่ทำ เพราะผมจะเอาตัวเองที่สร้างมา เอาความไว้ใจที่ประชาชนให้มาไปแลกกับสิ่งเหล่านี้ทำไม มั่นใจและถูกต้องทุกอย่าง

เมื่อถามว่าได้คุยกับหนุ่ม กรรชัย บ้างหรือยัง ฟิล์ม บอกว่า จริงๆ พี่หนุ่มโทรมาเมื่อวาน ผมก็รับฟังทุกอย่างว่าผิดจริงๆ พี่เขาด่าเราเหมือนที่ด่าในรายการว่าไม่ควรเลย ผมรู้สึกผิดมากๆ จริงๆ ไม่ควรเอาชื่อเสียงพี่เขามาพูด เรารู้เท่าไม่ถึงการณ์จริงๆ เขาก็บอกคำนึงที่ทำให้รู้สึกเสียใจ เขาบอกว่าเขาสร้างประสบการณ์มาตั้งนาน จะเสียเพราะฟิล์มเหรอ ผมก็ขอโทษ ผมไม่มีเจตนาที่ทำให้พี่เขาเสีย ผมมีแต่ความรู้สึกผิดว่าไปหลงเชื่อคนกลาง ผมอยากได้งานก็แค่นั้นเอง

พี่เขาไม่รู้เรื่อง เขาก็ต้องเสียใจว่าทำไมอยู่ๆ ผมเอาชื่อเขาไปอ้าง ผมก็ขอโทษ ไม่ได้เจตนาเอาชื่อพี่ไปอ้างเลย เขาก็เสียใจเพราะเป็นพี่น้องในวงการ ผมก็เข้าใจความรู้สึกเขา ผมก็น้อมรับและจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น ไม่โกรธเพราะเขาว่ามาก็ถูกต้องแล้วครับ

มีคนคอมเมนต์ถามว่าทำไม 20 ล้านบาทต้องรับเงินสด ฟิล์ม บอกว่า มันเป็นคำพูดที่คนกลางเขาบอกผมมา คนกลางบอกว่ายังไงให้พูดราคานี้ เพราะคุยกันมาแล้ว คนที่เขาส่งงานให้เรา เขาไปจบในราคานั้น ก็ต้องพูดในราคาที่เขาต้องการ ส่วนเรื่องไม่ไปออกโหนกระแส ฟิล์ม ตอบว่า ผมจะไปออกก็ได้ ไม่ติดอะไรเลย แต่ผมไปทำให้พี่หนุ่มลำบากใจขนาดนั้น แล้วเขาก็ว่าเราขนาดนั้น ผมก็ไม่อยากทำให้เขาลำบากใจอีก ถ้าเราไปนั่งตรงนั้น ผมเชื่อว่าถ้าผมเป็นพี่หนุ่ม ผมก็โมโห เพราะอยู่ๆ ได้ยินคลิปเสียงมา มันเหมือนว่าผมเอารายการไปอ้าง 

แต่จริงๆ ผมไม่มีเจตนาแบบนั้น เรื่องเกิดก่อนที่ผมรู้ว่าแก๊งนี้มีอะไรบางอย่างที่อยู่ในแผนการตลาดของเขา ถ้ารู้ว่าเขาโดนคดีกันแบบนี้ ผมไม่เข้าไปยุ่ง ต้องโทษว่าคนกลางสกรีนมาไม่ดี แล้วผมประมาทกับชีวิตเองโดยการที่รีบไปรับงานมา

คนบอกว่าฟิล์มตอบไม่ตรงคำถาม ฟิล์ม บอกว่า จริงๆ ผมว่าตอบตรงหมด แต่เชื่อว่าคนคงติดใจเรื่อง 20 ล้านมากกว่า คือผมตอบความเป็นจริงไปทุกอย่าง เรื่อง 20 ล้านอยากให้มองแยกว่าผมไม่ใช่ผู้เรียก เขาเสนอมาให้กับคนกลาง คนกลางบอกผมว่ามีงบทำพีอาร์เท่านี้ ผมเชื่อว่าแค่นี้คนจะแยกออก อย่าเหมารวมว่าผมไปอยู่ในขบวนการพวกเขา ผมไม่เกี่ยว ผมแค่คนที่จะไปรับงาน เขาเสนองบนี้มาให้แค่นั้นเอง ที่คนบอกว่าแถก็แล้วแต่คนจะคิด

คนวิจารณ์ว่าขนาดบอกไม่รู้จักดิไอคอน แต่พูดเหมือนวางแผนฟอกให้บอสพอลแบบชัดเจน ฟิล์ม บอกว่า ถึงบอกว่าถ้าบอกไทม์ไลน์ผิดพลาดปุ๊บจะซวยเลย ไทม์ไลน์คือก่อนที่เขาจะเป็นคดีความ จะออกรายการพี่หนุ่ม เขาพูดในมุมว่าเขาถูก ในสิ่งที่คนกลางเขาพูดนะครับ เขาพูดในมุมที่บริษัทพูดว่าบริษัทเขาถูก เขาขายของ เราก็ยินดี เพราะเราไม่ได้รู้จัก แต่พอเรามารู้แล้ว ผมเองที่อยู่ข้างประชาชน ไปอยู่ในรายการโหนกระแสและพูดว่าแผนเขาแปลกๆ ดูแล้วว่ามันมีสอดแทรก มันชวนฝันเกินไป อันนั้นคือหลังผมได้รับข้อมูลแล้ว

เรื่องงบพีอาร์ 20 ล้าน ทำไมใช้เยอะ และรับเป็นเงินสด ฟิล์ม บอกว่า คำว่างบพีอาร์ไม่มีใครจำกัดได้หรอกว่างบบริษัทเท่าไร เขาเป็นคนเสนอมาให้ผม ไม่ใช่ผมไปเรียก ส่วนเรื่องคลิปเสียงคิดว่าในวันที่สนทนากันคุยไปนานไหม ฟิล์ม บอกว่า ไม่ทราบเลย ก็คุยเท่านั้น ไม่ได้จับเวลา ไม่ได้อัดเสียงไว้ อยู่ๆ มีคนกลางโทรเข้ามา แล้วเราก็ต้องคุย แต่จะมีคลิปท้ายๆ ที่รุนแรงกว่านี้ไหมไม่มีแล้ว ปล่อยได้เลย

ส่วนเรื่องคลิปใครเป็นคนปล่อย ก็ต้องเป็นเจ้าตัวอยู่แล้ว เพราะเขาอัดอยู่คนเดียว แต่ถามว่าทำไมอยู่ๆ เขาเอามาปล่อย ผมเป็นคนนอก อยู่ๆ คนกลางดันโทรมาหา ซึ่งก็คือคุณกฤษอนงค์โทรหา ถามว่าเจ้าตัวก็คือคุณกฤษอนงค์ซึ่งเป็นคนกลางเป็นคนปล่อยเหรอ ฟิล์มบอกว่าไม่ใช่ บอสปัญ เพราะคลิปมาจากเขาอยู่แล้ว คือผมไม่รู้ไง เพราะผมแค่คนรับงาน แล้วเขาโทรหาผมเอง

ถามว่าคิดว่าเขาสองคนมีความขัดแย้งกัน ฟิล์ม บอกว่า เรื่องนั้นผมไม่รู้ เราเป็นแค่บริษัทไปรับงาน รู้อย่างเดียวว่าซวยมากๆ ตอนนี้ ทำให้พี่หนุ่มเข้าใจผิดอีก แต่ อ.ยิ่งศักดิ์ แย้งว่า เขาเข้าใจถูกเพราะเป็นใครก็มองว่าคุณเอาชื่อเขาไปแอบอ้าง ฟิล์ม ก็บอกว่า ใช่ ก็เลยต้องขอโทษ เป็นบทเรียนเลย รู้สึกผิดเหมือนกัน 

อ.ยิ่งศักดิ์ ถามว่า ฟิล์มไม่มีปัญหาอะไรกับเขาเลยเหรอ ทั้งที่ติดต่อมาเพื่อจะทำงานร่วมกัน แล้วเราไม่ได้งาน อยู่ๆ ก็มาเสียหาย แสดงว่าเราต้องมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาไม่แฮปปี้ ฟิล์ม บอกว่า ไม่น่าเกี่ยวกับผม ผมว่าเขาคงปล่อยกับคนกลางที่ผมบอก เพราะเขาปล่อยมาตลอด แต่มันดันไปอยู่ในช่วงเวลานั้นพอดีที่เขาโทรมาหา

ถามว่าพร้อมไหมที่จะเข้าสู่กระบวนการแบบที่คนอื่นโดนมาก่อนหน้านี้ ฟิล์ม บอกว่า ก็ยินดีทุกเรื่อง เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ผมไปเกี่ยวข้องอะไรถึงขั้นไปโดนถึงขนาดนั้นไหม ผมเชื่อว่าไม่ว่าจะทีมกฎหมายหรือคนมีความรู้ เขาแยกแยะเป็น เราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย เราไม่ได้งานด้วยซ้ำ ผมเป็นผู้เสียหาย ไม่ได้เป็นผู้ไปกระทำใคร วันนี้ผมมีชื่อออกตามสื่อก็เสียหาย  บริษัทเสียหายไปด้วย เพราะแค่ผมไปคุยกับเขา แค่ต้องการงานแต่ผมไม่ได้งาน บริษัทก็เสียหาย

จากนั้น ฟิล์ม ฝากถึงผู้ชมว่า มีแต่ความบริสุทธิ์ใจ จริงใจ พอมีเสียงตนออกมาก็รีบออกมา มีพี่ๆ สื่อมวลชนมารอ ผมบอกว่ามาพูดในรายการอาจารย์ดีกว่า เพราะจะได้พูดครั้งเดียว ผมไม่ได้เกี่ยวอะไร อยากเอาสิ่งที่พูดมาปกป้องตัวเอง เพราะสิ่งที่พูดเป็นความจริง มีไทม์ไลน์ พูดความจริงไปหมดแล้ว วันนี้คนที่ยังไม่เชื่อเป็นสิทธิ์ของเขา แต่ว่าคนที่เชื่อผมก็ขอบคุณมาก เพราะที่พูดคือความจริง 

เรื่อง 20 ล้านทำไมต้องเป็นเงินสด จะเลี่ยงภาษีหรือไม่ เพราะการรับงานมันต้องเปิดใบเสร็จ ต้องหัก ณ ที่จ่าย ฟิล์ม บอกว่า เพราะคนดีลงานเขาตกลงกันแบบนี้ ผมไม่รู้ว่าทางดิไอคอนต้องการเลี่ยงอะไร ถ้ารับงานนี้ก็ต้องเปิดใบเสร็จกับคนกลาง เพราะผมไม่ใช่คนไปเอาลูกค้ามา ถามว่าคนกลางจะยอมเหรอ เพราะมันต้องมีใบเสร็จรับเงินการจ่ายเงิน สมมติเขารับ 20 ล้านแต่จ่ายเรา 2 ล้าน ผมไม่ทราบ เพราะผมยังไม่ได้เสนอของผมเองว่าทำอะไรเท่าไร เขาแค่ไปรับงานมา เขาต้องจ้างงานผม ผมแค่พรีเซนต์งานให้กับลูกค้าฟัง แต่งานไม่เกิดขึ้นจริงเพราะเขาไม่เชื่อถือ 

และกับดิไอคอน ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร ไม่รู้จักด้วย รู้จักแค่พี่แซม มิน กันต์ ส่วนคนกลางเคยจ้างเราทำโปรดักชั่น รู้จักกันเพราะว่าเขาทำพรรคการเมือง ต้องใช้พีอาร์พรีเซนต์องค์กร เราทำงานกับเขามาตลอด เรามีความบริสุทธิ์ใจ คนคงมองว่าทำไมชื่อผมอยู่กับทุกอย่าง แต่ผมก็มาพูดเพื่อความบริสุทธิ์ใจ แล้วผมผ่านมันมาได้เพราะความถูกต้องคุ้มครองตัวเอง  จากนี้คงระมัดระวังเรื่องงานมากขึ้น จะรับงานต่างๆ ต้องให้ทีมงานไปพร้อมกับทีมทนายเลย

ปิดท้าย ฟิล์ม รัฐภูมิ ขอโทษหนุ่ม กรรชัย อีกครั้ง รับฟังที่พี่เขาว่ามา เพราะปกติพี่หนุ่มพูดกันเล่นๆ แรงๆ อยู่แล้ว ผมเสียใจมากที่ทำให้เขาเดือดร้อน และทำให้คนดีๆ ถูกคนเข้าใจผิดเพราะผมเอง ต้องขอโทษจริงๆ ถ้าเขาแจ้งความก็ต้องรับโทษ

ชมคลิป

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม