เรียกว่าเป็นมหากาพย์ร้อนที่ยังมีประเด็นต่อเนื่องไม่จบ สำหรับกรณีคดีธุรกิจขายตรงชื่อดัง ดิไอคอนกรุ๊ป ที่มีชื่อของ มิน พีชญา วัฒนามนตรี เข้าไปเกี่ยวข้องในฐานะบอสธุรกิจ และถูกคุมตัวเข้าเรือนจำในเวลานี้ ทำให้หลายคนสงสัยว่านางงามสาว ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 จะมีปัญหาในเรื่องการรับงานหรือไม่ เพราะ มิน-ฟ้าใส มีผู้จัดการคนเดียวกัน ซึ่งก็คือ พี่เอส

ล่าสุด ฟ้าใส ปวีณสุดา มาร่วมงานแถลงข่าวบริษัท HOLLYWOOD QUEEN และบริษัท SKORY ดีเดย์เปิดเวทีคัดเลือกสาวสวยมากความสามารถเข้าวงการ ณ True 5G PRO HUB เลยถามถึงเรื่องดังกล่าว

ขออนุญาตถามเรื่องพี่เอส ผู้จัดการ ว่าเป็นยังไงบ้าง?
“จริงๆ ช่วงนี้ยอมรับเลยว่าไม่ค่อยได้เจอพี่เอสค่ะ แต่ว่าเวลาที่เจอก็จะเป็นช่วงเราที่คุยงานกัน เวลาที่คุยก็คุยเรื่องงานอย่างเดียว ไม่ได้คุยเรื่องอื่น แต่ก็ได้แสดงความห่วงใยว่าโอเคหรือเปล่า แต่หลักๆ พี่เอสก็บอกว่าโอเค ตอนนี้อยากจะเน้นในเรื่องของงานก่อน เดี๋ยวอย่างอื่นค่อยว่ากัน ก็เลยเป็นการคุยเรื่องงานมากกว่า ไม่ได้มีปรับทุกข์หรือปรึกษาอะไรค่ะ”

...

ตอนนี้เหมือนเขาเงียบไปเลย?
“อาจจะมีอะไรหลายๆ อย่างด้วยค่ะ เพราะพี่เอสมีงานออร์แกไนซ์ด้วย แต่อย่างที่บอกว่าช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอพี่เอส พี่เอสยุ่งๆ อยู่ แต่เวลาเจอก็คุยกันเรื่องงาน เจอกันครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ต.ค. นี้ค่ะ แต่ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้เจอประมาณเดือนนึง ถามว่าวันนั้นเขาดูเครียดไหม วันนั้นก็เหมือนมุ่งมั่นกับงานแคสติ้งค่ะ คือพี่เอสเป็นคนโปรเฟสชันแนล เรื่องส่วนตัวไม่เอามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องงานค่ะ”

ที่ผ่านมาเรื่องการรับงาน เรามีการช่วยกันเช็กตลอด?
“ถ้าเป็นงานอีเวนต์ฟ้าใสให้พี่เอสเป็นคนสกรีน แต่ถ้าเป็นพรีเซ็นเตอร์หรืออะไรที่มีผลิตภัณฑ์ พี่เอสก็จะสกรีนในระดับหนึ่งแล้ว แต่ว่าสุดท้ายแล้วการตัดสินใจก็อยู่ที่ฟ้าใส ว่าจะเลือกรับหรือไม่ เพราะฟ้าใสจะซีเรียสว่าถ้าเกิดสมมติเราใช้แล้ว ก็จะดูเรื่องผลิตภัณฑ์ว่าเป็นยังไง ฟ้าใสจะสกรีนอีกขั้นตอนหนึ่งค่ะ คือในส่วนของพรีเซ็นเตอร์ จะไม่ได้ปล่อยให้พี่เอสตัดสินใจคนเดียว เรื่องการรับงานจะสกรีนหลายขั้นตอน”

ที่ผ่านมาเคยมีปัญหาหลังรับงานไปแล้วไหม?
“ไม่ค่ะ เพราะอย่างที่บอกว่าพี่เอสก็จะสกรีนในระดับหนึ่ง แล้วฟ้าใสก็จะดูอีกขั้นตอนหนึ่ง แล้วก็จะมีฝ่ายกฎหมายที่มาเช็กในเรื่องของสัญญาด้วย”

ตอนนี้มีผลกระทบกับการรับงานไหม หลังเกิดเหตุการณ์ดิไอคอน?
“เอาจริงๆ สำหรับฟ้าใสก็กังวลมาก ถามว่ามีพรีเซ็นเตอร์ที่ติดต่อมาไหม มันก็มี แต่กลายเป็นว่าครั้งนี้เรียกว่ามันเป็นบทเรียนของฟ้าใสด้วยค่ะ ว่าเราก็ต้องเช็กให้มากกว่านี้ เพราะก่อนหน้านี้ยอมรับเลย ว่าเราอาจจะเช็กแค่เรื่องของผลิตภัณฑ์อย่างเดียว ว่ามันดีจริงไหม เพราะเวลาฟ้าใสพูดไป ทุกคนที่รักเราเขาก็เชื่อมั่นในตัวเราด้วย แต่ว่าตอนนี้เราก็ต้องดูให้ลึกกว่านั้นอีก ว่าในเรื่องของกระบวนการดำเนินงานเป็นยังไง”

ตอนนี้กลายเป็นว่าต้องดูขั้นตอนอื่นด้วยแล้ว?
“เอาจริงๆ ฟ้าใสกลัวเลย ตอนนี้ก็ต้องถามเลยว่า อย. โน่นนี่นั่น แต่ต้องยอมรับว่าเราละเอียดแค่ไหนมันก็ยาก เพราะทางเกิดสมมติทางบริษัทมีอะไรที่ไม่พูดกับเราทั้งหมด อันนี้มันก็ตรวจสอบค่อนข้างยาก ดังนั้นเราละเอียดแค่ไหนมันก็อาจจะไม่มากพอ ก็ทำให้ฟ้าใสกลัว เอาจริงๆ ใครติดต่อมาช่วงนี้ก็แบบ...เดี๋ยวก่อนนนะคะ ตอนนี้กลัวจริงๆ เราจะขอรายละเอียดเยอะเป็นพิเศษ ถ้าเป็นอีเวนต์ปกติมันก็เหมือนเดิม แต่ในเรื่องของพรีเซ็นเตอร์ มันก็จะใช้เวลาตัดสินใจนานขึ้น”

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม