เคลียร์ชัดครั้งแรก จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม หลังมีกระแสข่าวตลกดังขายรถผิดกฎหมายยึดเงินมัดจำ เจ้าตัวลั่นไม่ใช่ตนแน่นอน เหนื่อยใจคนตามด่าทั้งเมืองโดยที่ไม่รู้ข้อเท็จจริง ยอมรับมีผลกระทบกับธุรกิจซื้อขายรถมือสองของตัวเอง สุดเซ็งฉายา “จิ๊บรับจบ” เรื่องดราม่าอะไรถูกโยงเอี่ยวไปหมด อัปเดตตอนนี้ซื้อบ้านใหม่ราคาหลายสิบล้านบาท ในรายการ "คุยแซ่บ Show" ทางช่อง One31 ที่มี ชมพู่ ธัณย์สิตา และ เอส กันตพงษ์ เป็นพิธีกร

ประเด็นที่สังคมตามติดกับกระแสข่าวที่ค่อนข้างรุนแรงเกี่ยวกับเรื่องขายรถผิดกฎหมาย กระแสสังคมจับไปที่ตัวพี่จุ๊บจิ๊บ ตอนที่กระแสออกมาเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเราบ้าง?
จุ๊บจิ๊บ : คือประเด็นตั้งแต่แรกเลยผมทำซื้อขายรถยนต์มือ 2 อยู่แล้ว ใช้เวลามาสักพักนึงแล้ว ก็จะมีเพจขึ้นว่า “ตลกดังขายรถยึดมัดจำหลังโดนจับได้ว่ารถผิดกฎหมาย” อะไรประมาณนี้ คนก็ไปคอมเมนต์กันต่างๆ ไอ้นี่แน่เลย จจ แน่เลย เห็นขายอยู่ในออนไลน์ ทุกคนพุ่งประเด็นมาที่เราหมดเลย
ตอนที่ยังไม่ได้เคลียร์ตัวเอง คนโทรหาเราเยอะมั้ย?
จุ๊บจิ๊บ : โทรหาให้ควั่กเลย เพื่อนข้างกาย พ่อ แม่ พี่ น้อง เราก็บอกว่าไม่ใช่เรานะ ไม่มีใครมาทวงมัดจำผมคืนแล้ว แล้วผมก็ไม่ได้ไปยึดมัดจำใครด้วย
...
เห็นว่าตอบคำถามเดิมซ้ำๆ เป็นสิบสายที่โทรมา จิ๊บทำหรือเปล่า?
จุ๊บจิ๊บ : ไม่ใช่ผม พูดประมาณหมื่นกว่ารอบแล้ว คือเพจเขาก็รู้ว่าไม่ใช่ผมอยู่แล้ว คนก็ไม่คอมเมนต์ต่างๆ นานา เพจเขาก็ออกมานะว่าไม่ใช่พี่จุ๊บจิ๊บนะ แต่คราวนี้คนโยงไปไกลแล้ว คราวนี้เอารูปเราขึ้นแล้ว ชาวเน็ตรู้แล้วว่าใครขึ้นรูปผม แต่ไม่ใช่ผม
เรารู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่เรา แล้วความรู้สึกพี่เป็นยังไง?
จุ๊บจิ๊บ : ผมก็รู้สึกว่า อะไรครับเนี่ย
เราตกใจช็อกกับข่าวหรือว่าเซ็งจังเลยเอาอีกแล้ว?
จุ๊บจิ๊บ : รู้สึกนอยด์ๆ มันไม่ใช่เรื่องของเรา แต่ตอนแรกก็งงหรือว่ามีการเข้าใจผิดหรือเปล่า หรือว่าเป็นเราหรือเปล่า เลยติดต่อว่าทางเพจพี่บอกมาเลย ชื่อใครพี่บอกมาเลย พี่มากว้างๆ แบบนี้คนมันเข้าใจผิดแล้วว่าเป็นผม FC เข้าใจผิดแล้วว่าต้องเป็นดับเบิ้ลเจแน่นอนเลย อยากให้เขาเปิดมาเลยว่าเป็นใคร แต่เขาก็ยังไม่ได้เปิด แต่เขาก็คอมเมนต์มาแล้วไม่ใช่จุ๊บจิ๊บ เดี๋ยวเขามาเล่าให้ฟัง พอแบบนี้แวดล้อมเพื่อนๆ เราก็ออกมาช่วยกันว่าไม่ใช่พี่จุ๊บจิ๊บแน่นอน
เห็นมีบางอันคอนเมนต์แรงบอกว่าพี่ทำเป็นขบวนการเลย?
จุ๊บจิ๊บ : พอพุ่งเป้ามาที่ผมแล้ว ตลกชื่อดังเข้าสู้กระบวนการรถผิดกฎหมาย แล้วก็เป็นหน้าผมอีก อะไรครับเนี่ย ไม่ใช่ผม
พอเป็นเรื่องใหญ่เลยติดต่อไปยังต้นเพจที่โพสต์ครั้งแรก เคลียร์กับเขาหลังบ้านว่ายังไง?
จุ๊บจิ๊บ : คุยกับเขา เขาก็บอกว่าไม่ใช่พี่จุ๊บจิ๊บ แต่ว่าเขาก็ออกมาเล่าเรื่องราวในเพจของเขา มันมีรุ่นพี่คนหนึ่งในวงการตลกไปตามเขาก็แล้วกันว่าเขาบอกว่าเป็นใคร เราก็ไม่สามารถจะไปบอกเขาได้ แล้วเขาก็บอกว่าเขาเคลียร์กันไปเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าคราวนี้ชาวเน็ตเหมือนไปทำข้อสอบอยู่ในนั้นว่าต้องเป็นจุ๊บจิ๊บ สุดท้ายสอบตกกันหมดเลย ยังไปแซวกันอยู่ในนั้น

ต้องให้พี่ๆ ในวงการมาออกตัวเคลียร์ให้ว่าไม่ใช่พี่?
จุ๊บจิ๊บ : ใช่ พี่กัน จอมพลัง โทรมาเลย พี่จุ๊บจิ๊บไปทำอย่างนี้หรือเปล่า เราสนิทกับเขาอยู่แล้วไง พฤติกรรมเราตั้งแต่ไหนแต่ไรตั้งแต่รู้จักพี่พู่มา ไม่เคยมีพฤติกรรมไปทะเลาะเบาะแว้งหรือไปโกงใครหรือมีปัญหาเรื่องเงินเรื่องทองกับใครเลย คุณเบ๊น อาปาเช่ คอยไปตอบคอมเมนต์ให้คนนู้นคนนี้ว่าไม่ใข่พี่จุ๊บจิ๊บนะ ยังมีคนมาบอกว่าออกตัวแรงระวังลื่นนะ แต่เรายีนยันชัดเจนว่าไม่ใช่เรา 100%
พี่กันเริ่มต้นสนิทยังไง?
จุ๊บจิ๊บ : สนิทนานแล้ว สนิทมาเรื่อยๆ เลย เริ่มสนิทเริ่มช่วยเหลือคนแล้ว ตอนแรกเรามานั่งกินนั่งปรึกษาธุรกิจ แล้วก็เริ่มมาช่วยคนกันดีกว่า ก็เริ่มเดินทางช่วยคนกันไปมาเรื่อยๆ เลย จนตอนนี้พี่กันเขาโอ้โห คุณเบ๊นก็อยู่ด้วยกันมาตลอด คนสนิทอีกคนที่เริ่มด้วยกันมา มีพี่กัน พี่เบ๊น อาปาเช่ มีจุ๊บจิ๊บ แล้วก็มีกลุ่มพี่ๆ น้องๆ อยู่ในกลุ่มที่คอยช่วยเหลือ ใครที่มีปัญหาน้ำท่วมเดือดร้อนไฟไหม้ช่วยได้หมด
พี่พู่กับพี่จุ๊บจิ๊บก็สนิทกัน ได้มีให้กำลังใจอะไรกันหรือเปล่า?
จุ๊บจิ๊บ : สนิทกันแต่ไม่ได้พูดกันตรงๆ แต่เป็นห่วงอยู่ห่างๆ
...
เวลาคนในวงการมีข่าวกระแสแรงๆ เขาก็มักจะไลฟ์ในการอธิบายตัวเอง ทำไมจุ๊บจิ๊บไม่ใช้ช่องทางนั้น?
จุ๊บจิ๊บ : ถ้าสังเกตเห็นผม ผมจะไม่ค่อยออกมาเลยพูดเรื่องอะไรแบบนี้ ผมไม่ได้ใช้จังหวะแบบนี้ ผมจะมีจังหวะของผมในการที่จะทำมาหากินไปเรื่อยๆ ผมแค่คิดว่าผมทำธุรกิจ เวลามีปัญหาแบบนี้ทำไมเราไม่ออกมาไลฟ์ เราคิดว่าเราไม่มีพลังพอ บางทีเราออกไปพูดน้ำหนักเราอาจจะไม่หนักแน่นแต่ว่าได้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่อยู่รอบข้างช่วยกันออกมาว่าพี่จุ๊บจิ๊บไม่ได้เป็นแบบนั้น ไม่ได้เป็นแน่นอน เราก็ออกมาเหมือนกัน แต่ว่าเสียงเราอาจจะไม่ดังพอ ก็โพสต์ในเฟซบุ๊กนะว่าไม่ใช่ผม 100% เกิดการเข้าใจผิด
ก่อนหน้านีมีคนออกมาไลฟ์ด้วยความรีบร้อน แล้วมันเกิดข้อผิดพลาดที่หนักกว่าเดิม เป็นกระแสมากกว่า กลัวจุดนี้ด้วยหรือเปล่า?
จุ๊บจิ๊บ : ผมมั่นใจแล้วว่าไม่ใช่ผม 100% แต่ผมจะนอยด์เรื่องไปพาดหัวต่างๆ ผมออกมาพูดตรงนี้ก็ไปตัดท่อนที่ผมพูดไปเอาไปแปลความหมายอีกอย่างก็ไปกันใหญ่อีก วันนี้ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ผมนั่งอยู่เฉยๆ ผมยังโดนตู้มต้ามเข้ามาหาผมเลย ถ้าผมพูดออกไปแล้วไปตัดออกอีกคราวนี้บานตะไทไปอีก ก็เลยให้พี่ๆ น้องๆ ช่วยกันเป็นกระบอกเสียงให้ผมดีกว่า

...
พี่ชมพู่เชื่อมั้ยว่าเป็นพี่จิ๊บจริง ความรู้สึกแรกเป็นยังไง?
ชมพู่ : ความรู้สึกแรกที่ได้รู้ข่าว พู่เห็นชื่อจุ๊บจิ๊บนะฟันธงกับตัวเองเลยว่าไม่ใช่ 100% เรารู้จักนิสัยน้องเราดี แล้วเราก็เคยทำซื้อขายรถกับจุ๊บจิ๊บมาก่อนเหมือนกัน ไม่เคยมีปัญหา คนรอบข้างก็ทำธุรกิจกับเขาเหมือนกัน เลยเชื่อมั่นในตัวน้องเรา 100% ว่าไม่ใช่เขาแน่นอน อันนี้ไม่ได้เข้าข้าง แต่พูดด้วยหลักเหตุผลที่รู้จักกันมาแล้วรู้เบื้องหลังกัน
จุ๊บจิ๊บ : เราต้องบอกว่าเรารักษาตรงนี้ไว้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นเครดิตชื่อเสียงของตัวเอง เราจะทำในสิ่งที่มันดีที่สุดสำหรับเรา เพื่อรักษาเครดิตชื่อเสียงของเราไว้อยู่แล้ว
มีสื่อและประชาชนประมาณนึงพอจะทราบแล้วว่าไม่ใช่พี่ แล้วก็มีการออกมาขอโทษมั้ยว่าสิ่งที่ทำไปไม่ได้ตั้งใจทำให้พี่เสียชื่อเสียง?
จุ๊บจิ๊บ : นั่นน่ะสิครับ ก็ยังไม่มีนะครับ แต่ไม่เป็นไร ก็ขอบคุณเขาอย่างน้อยพี่ก็ออกมาบอกว่าไม่ใช่ผมมายืนยันว่าไม่ใช่ผมเหมือนกัน เขาก็ไม่ได้ผิด เขาก็ไม่ได้ระบุว่าเป็นเรา แต่ว่าอาจจะมีคนไปโยงต่างๆ นานาเองว่าเป็นเรา แต่คนออกมาก็ไม่ได้บอกว่าเป็นเราแต่แรก มันอาจจะเป็นมรสุมสำหรับผมถ้าพัดผ่านไปได้ก็โอเค แต่อยากจะบอกว่าใจเย็นก่อน ไม่ใช่ผม เอาไปลือต่างๆ นานา เพจโน้นเพจนี้หรือว่าข่าวต่างๆ นานา พอมันปลิวไปไกลแล้ว เราไม่สามารถมาตามเก็บแล้วมาแก้ได้ทุกคน
ตอนนี้มีอีกฉายาว่า "จุ๊บจิ๊บรับจบ" รับจบทุกดราม่าที่เคยเกิดขึ้น?
จุ๊บจิ๊บ : ใช่ มันไม่ได้ถือว่ารับจบหรอก แต่ว่าบางคนก็ทักผิดทักถูกสำหรับผม อย่างผมขายรถจะขายในคลิปอยู่แล้ว คุยไปคุยมาก็จะมีคอมเมนต์ว่า จ่ายตังค์ป้าปูนาเขายัง เมื่อไหร่จะคืนตังค์ป้าปูนา ยังมีหน้ามาขายรถไปใช้หนี้ป้าปูนาก่อน ผมก็บอกว่าไม่ใช่ผม อาจจะจำผิดคน รอบนี้ก็เอาอีกแล้ว ตลกขายรถผิดกฎหมายยึดเงินมัดจำก็มาลงที่ผมอีก ผมก็บอกว่าไม่ใช่ผม
...
น้อยใจมั้ย?
จุ๊บจิ๊บ : ผมเลยจุดนั้นมาแล้ว คนจะทักผิดทักถูกอาจจะบ่อย เราก็เลยจุดนั้นมาแล้ว เราไม่รู้จะไปน้อยใจเรื่องอะไรเลย วันนี้โฟกัสเรื่องงานอย่างเดียวเลย แต่พอเรามาทำธุรกิจแล้ว แล้วมาเจอแบบนี้ แทบจะเป็นหมัดน็อกสำหรับเราเลยว่า มันเป็นเรื่องที่เราไม่ได้ทำ แต่มันกระทบกระเทือนต่อธุรกิจที่เราพยายามสร้างมันขึ้นมา แต่กลายเป็นว่าตลกคนนี้ไปขายรถผิดกฎหมาย แล้วมันไม่ใช่ผม มันแรงสำหรับผมมาก
อยู่กับครอบครัวเจอปัญหาที่แรงขนาดนี้ ร้องไห้มั้ยกับปัญหาที่เกิดขึ้น?
จุ๊บจิ๊บ : ไม่ร้องครับ (น้ำตอคลอ)
ชมพู่ : เขาเป็นคนเซนซิทีฟจริงๆ เป็นน้องที่ทำงานในวงการหนักมาก เขาทำทุกอย่างในวงการ เวลาเขาเจอปัญหาแบบนี้เขาจะมานั่งนอยด์ เราก็มีปัญหาเหมือนกัน เราก็ปรึกษาเขา เวลาเขามีปัญหาเขาก็ปรึกษาเรา เราก็เลยรู้ว่าเขาน่าจะร้องไห้แน่เลยกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ไม่เป็นไร สู้ๆ คนรักเราทั้งหมดไม่ได้ แต่ว่าเราก็ทำตัวเราให้เหมือนเดิม

ภรรยากับลูกๆ ให้กำลังใจอย่างไรกับเราบ้าง?
จุ๊บจิ๊บ : ทุกคนให้กำลังใจหมดเลยพอรู้ว่ามันไม่ใช่ผม ผมทำทุกอย่างเพื่อว่าวันนี้เรามองถึงภายภาคหน้าว่าเราเป็นนักแสดงคนหนึ่ง อาจจะไม่มีงานในวันต่อไป แต่เราคิดว่าเรามีครอบครัวเราเลยมาทำธุรกิจ สร้างขึ้นมาทำยังไงให้มันแตกต่างจากคนอื่น คนขายรถมีทั่วประเทศเลยทำยังไงให้คนจดจำเรา ก็พยายามคิดสโลแกน รถสวย มีทรง ราคาคุ้มค่า จนคุณคุ้มคลั่ง จนคนเข้าใจแล้วว่าจุ๊บจิ๊บขายรถ แสดงว่าแบรนด์เราเริ่มเติบโตแล้ว ภายภาคหน้าเราไม่รู้ว่าเราจะมีงานไปถึงเมื่อไหร่ เราก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ธุรกิจดูแลครอบครัวเราได้
พี่ชมพู่เองมีให้กำลังใจด้วย?
ชมพู่ : จะบอกว่าเบื้องหลังเราสองคนเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ทำงานหนักกันมาก เวลาเราถ่ายรายการด้วยกัน เวลาเลิกงานเราจะชอบนั่งระบายกันว่าช่วงนี้มีปัญหาแบบนี้ แต่เราก็ต้องเป็นเสาหลักของครอบครัว แต่ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เป็นเสาหลักของครอบครัวที่ทำงานหนักมากเหมือนกัน ไม่ได้เข้าข้างน้อง แต่พูดกันตามเนื้อผ้ากับสิ่งที่เราเห็น กับสิ่งที่เราสัมผัสชีวิตน้องได้ เขาเป็นคนนอยด์นะ แต่เขาเลือกที่จะแบกเอาไว้ ถ้าไม่มีอะไรหนักจริงๆ เขาจะไม่พูดออกมาเลย จะสนุกสนานเฮฮา
เรื่องนี้ก็เข้าใจว่าน่าจะหนักสำหรับชีวิตน้องเหมือนกัน เพราะว่าธุรกิจรถมือสองเป็นอีกสิ่งที่จุ๊บจิ๊บตั้งใจทำมากจากความรู้ จากประสบการณ์ที่ตั้งใจจะทำให้มันเลี้ยงครอบครัวได้ เรื่องนี้ทุกคนจะมองว่าก็แค่ข่าวข่าวหนึ่ง กระแสสังคมในช่วงหนึ่งเกี่ยวกับรถไม่ใช่คุณ คุณก็ไม่ต้องยอมรับสิ แต่รู้มั้ยว่าคนเชื่อมันมีแล้ว และมันส่งผลกระทบต่ออาชีพที่น้องกำลังสร้างอยู่ ให้กำลังใจจุ๊บจิ๊บนะ แล้วก็อยากให้ทุกคนเข้าใจน้องด้วยว่าน้องพยายามตั้งใจสร้างครอบครัว ถ้าอะไรที่พยายามอธิบายได้ว่าไม่ใช่ ถ้าทุกคนพร้อมจะให้โอกาสและเชื่อในตัวน้อง ก็ฝากให้โอกาสน้องคนนี้ต่อไปด้วยนะคะ
อยากจะบอกอะไรกับสังคมมั้ยว่าในเรื่องที่เขาเข้าใจผิด?
จุ๊บจิ๊บ : อยากจะบอกว่าเราดูข่าวก็ใจเย็นไว้ก่อน จะเป็นใคร โดยเฉพาะงานนี้ที่ผมรู้สึกกับตัวเองว่าใจเย็นๆ ก่อน ไปคาดเดาชี้โยงว่าเป็นผม ผมก็ไม่รู้จะไปแก้ตรงไหนที่ไปป่าวประกาศกันหมดแล้ว เราก็ได้แต่ออกมาแค่ว่าไม่ใช่ผม ทุกคนก็จบกันแล้ว แต่สิ่งที่ทุกคนไปพูดเราไปแก้ตรงนั้นไม่ได้ จะบอกว่าใจเย็นๆก่อน ยังไงก็ฝาก จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม ตัวน้อยๆ ไว้ในอ้อมใจของทุกคนดีกว่านะครับ

พอมีกระแสด้านลบของเราออกมา ลูกและภรรยามีผลต่อการใช้ชีวิตมั้ย?
จุ๊บจิ๊บ : สิ่งหนึ่งที่ผมจะไม่ทำเลยก็คือเรื่องแบบนี้ อันไหนที่รู้สึกว่ามันมีปัญหาภายหลัง ผมจะไม่ทำเลย ทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายซื้อขายรถยนต์ ทำทุกอย่างเพราะกลัวว่ามันจะมีปัญหาแบบนี้เหมือนกัน ไม่ได้เราคนเดียว คนอื่นอาจจะโดนผลกระทบด้วย
ตอนที่ยังไม่ได้มีโพสต์ชี้แจงจากเพจ ลูกมีผลหรือยัง เขาเล่าให้ฟังมั้ย?
จุ๊บจิ๊บ : เขาไม่ได้เล่าหรอกครับ อาจจะมีกระซิบอะไรกันหรือเปล่า ผมไม่รู้หรอก ไม่ได้ไปโฟกัสเรื่องนั้น แต่คิดว่าบางทีผลกระทบมันมีจริงๆ นะ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าลูกเราจะโดนตราหน้าว่าพ่อทำสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งมันไม่ใช่เราเลย แต่หวยมาออกที่เราก็ไม่เป็นไร เราได้แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เรา ขนาดลูกค้าที่ขายไปนะพอมีข่าว ลูกค้าก็จะโทรกลับมาเลยว่า พี่แล้วผมโอนเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือยัง เราก็บอกว่าพี่ใจเย็นๆ ก่อนนะ รถพี่ผ่อนมาเป็นปีแล้ว พี่ผ่อนรถมันโอนเข้าไฟแนนซ์ ต้องผ่อนกับไฟแนนซ์ ก็เข้าใจว่าเขายังกังวลใจ ฉะนั้นแล้วผมยืนยัน 100% เลยว่าไม่มีเรื่องผิดกฎหมายแน่นอน
มีกระทบทางลูกค้าของธุรกิจของพี่นิดนึง หลายรายมั้ยที่กังวล?
จุ๊บจิ๊บ : ช่วงนี้เขาอาจจะชะงักกันไว้ก่อน ใช่หรือไม่ใช่ดูให้แน่ชัดก่อน บางคนอาจจะมัดจำ อาจจะต้องลังเลละ แต่ว่าเรายืนยัน 100% เลยว่าเราไม่กินมัดจำแน่นอน
เราจะเรียกความมั่นใจจากลูกค้ากลับคืนมาได้ยังไง?
จุ๊บจิ๊บ : ทำทุกอย่าง ทุกวันนี้ที่ทำมาชัดเจนอยู่แล้วทุกครั้ง มั่นใจกับตัวเองว่าเราไม่ทำเรื่องแบบนั้นแน่นอน ขอให้มั่นใจทางเราด้วย วันนี้ผู้ประกอบการรถยนต์มือสองเต็มไปหมดเลย แต่ว่าเราเข้าไปอยู่ในอ้อมใจของทุกท่านได้ก็ดี ผมก็ซื้อรถพี่พู่ ซื้อรถพี่ทีมเขียนบท ซื้อรถผู้กำกับ ผมก็ซื้อขายมาตลอด บางคนอยากจะปรึกษาเรื่องรถยินดีให้คำปรึกษาได้แน่นอน
ชีวิตพลิกผันด้วยธุรกิจมือสองมันคือยังไง?
จุ๊บจิ๊บ : ตอนนี้มันเป็นยุคออนไลน์ เราก็คนหนึ่งที่งานไม่ได้เยอะอะไร ก็คิดว่าถ้าไม่มีงานแล้วจะทำอะไรดี เราชอบรถอยู่แล้วมีเพื่อนแต่งรถ มีร้านอู่ซ่อมรถ ทำช่วงล่าง ทำเครื่อง ใส่แม็กซ์ ใส่ล้อ เราก็เริ่มจากรถเราก่อน เอามาแต่งแล้วเอาไปขาย คนสนใจ พอลงขายคนก็แย่งกันซื้อแล้ว ทำแบบนี้มาเรื่อยๆ คนก็ชอบในสไตล์รถที่เราเอามาลงขาย ก็เลยสะสม FC มาเรื่อยๆ พอมัดจำจะขึ้นยืนยันการจองอยู่แล้ว พอมาดูรถจะซื้อหรือเปลี่ยนใจมาดูกันอีกที เรื่องมัดจำไม่อยากกินเงินมัดจำอยู่แล้ว
ธุรกิจรถมือสองทำมากี่ปีแล้ว?
จุ๊บจิ๊บ : ผมต้องบอกว่าผมเป็นน้องใหม่ในวงการเลย เข้าปีที่สอง

แค่เข้าปีที่สอง ตอนนี้ซื้อบ้านหลังใหม่?
จุ๊บจิ๊บ : มูลค่าไม่เยอะหรอกครับ บางทีเราอยากจะซื้ออะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน เราไปหมดเงินกับอะไรไม่รู้ ไม่ได้เห็นเป็นของเลย เราซื้อของที่เป็นวินัยในการผ่อนของเราก็แล้วกัน วินัยในการผ่อนของเราไม่ว่าจะเป็นการทำสินเชื่อ รถยนต์ไฟแนนซ์ จะบอกทุกคนว่าวินัยในการผ่อนหรือว่าเครดิตของคุณสำคัญมาก ผมก็เป็นคนหนึ่งที่พยายามสร้างเครดิตของตัวเองให้สินเชื่ออนุมัติได้ มีวงเงินในการเอามาซื้อขายรถได้ กู้เรื่องซื้อบ้านวินัยแบบนี้ต่างๆ นานา ไฟแนนซ์สินเชื่อเขาจะดูเราตรงนี้ เราก็จะสร้างวินัยของเรา เราทำไปแล้วเราก็ผ่อนเก็บไปเรื่อยๆ เราจะได้รู้ว่าเราเห็นของเป็นชิ้นเป็นอัน
เห็นว่าเป็นบ้านในฝัน?
จุ๊บจิ๊บ : คืออยู่ใกล้โรงเรียนลูกแล้วก็อยู่ใกล้บ้านเก่าที่เราอยู่ด้วย ลูกก็เรียนอยู่เส้นสายหนึ่งทั้งสองคน แล้วก็ใช้ชีวิตอยู่ตรงนั้น ก็ไปดูหลายๆ โครงการ ก็ไปเลือกซื้อโครงการนี้ มีส่วนกลางใหญ่โต
ตอนนี้ธุรกิจใหญ่โตจะลาออกจากวงการบันเทิงแล้ว?
จุ๊บจิ๊บ : ลาไปไหน พูดแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่มีงานหรอก
ทำในวงการบันเทิงมากี่ปีแล้ว?
จุ๊บจิ๊บ : ตั้งแต่เด็กแล้ว นัดกับนัดก็กี่ปีแล้วพี่
ชมพู่ : 8 ปี เล่นกันมา 8 ปี แต่ผ่านมา 20 กว่าปีแล้ว
จุ๊บจิ๊บ : ไม่ลาไปไหน ถ้ามีงานมีโอกาสให้รับใช้ก็ยินดีมากๆ
ในวงการบันเทิงมีอะไรที่อยากทำอีกมั้ย?
จุ๊บจิ๊บ : ตอนนี้แค่มาทำธุรกิจรองรับตัวเอง เราก็ไม่รู้ว่าจะมีงานไปถึงเมื่อไหร่ เราดูแลครอบครัวไม่มีใครช่วยเราได้หรอก นอกจากตัวเราเอง นอกจากสองขาเราเองที่ต้องเดินต่อไป เรามีพี่น้องมีครอบครัวที่ต้องดูแล มีงานผมก็ไปทำงานเหมือนเดิมปกติ จัดสรรปันเวลาได้ ตอนนี้ก็อยากจะดูแลธุรกิจของเราในเส้นทางที่ยาวๆ ดีกว่า
คนเราไม่ได้วัดกันแค่ปีสองปีว่ามันจะดีหรือไม่ดี อยู่ที่เส้นทางเดินระยะยาวของเราได้หรือเปล่า เราพิสูจน์ตัวเองได้ยาวหรือเปล่า ในส่วนการแสดงเราก็ไปทำงานได้เหมือนเดิมถ้าหากได้มีโอกาสได้ร่วมงาน รับหมด ฝากธุรกิจด้วยครับ คนขายรถผิดกฎหมายไม่ใช่ผมแน่นอน.
คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม