เดินหน้าฟ้องร้องเรียบร้อยแล้วจ้า สำหรับนางแบบชื่อดัง ลูกหมี รัศมี ทองสิริไพรศรี ที่ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา ลูกหมี พร้อมด้วย ทนายกุ้ง อำนวยพร มณีวรรณ์ เดินทางมาที่ศาลแขวงพระนครใต้ ถ.เจริญกรุง เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนักแสดงสาว ปู มัณฑนา หิมะทองคำ ในคดีฉ้อโกง และพระราชบัญญัติความผิดอันเนื่องจากการใช้เช็ค พร้อมทั้งเปิดใจถึงประเด็นดังกล่าว

ถามถึงเรื่องการยื่นฟ้อง?

ลูกหมี “วันนี้มายื่นฟ้องคดีฉ้อโกงกับลูกหนี้ของเรา คือเริ่มแรกเรายื่นฟ้องในคดีเช็คเด้ง เพราะเรากะว่าทำให้มันเรียบง่ายที่สุด แต่พฤติกรรมของลูกหนี้ไม่เรียบง่ายเลย ปัญหาก็ยังไม่จบ แล้วสิ่งที่พูดมีเงินแล้วก็จะใช้หนี้ แต่ไม่ใช้ จนมาถึงเดือนกันยายนนี้แล้ว ความอดทนไม่รู้จะยังไงแล้ว มันก็ต้องไปต่อ เพราะสิ่งที่เราต้องการมากที่สุดคือเงินของเราคืนมา คำพูดกับการกระทำมันไม่สอดคล้องกัน เราก็ต้องให้ศาลช่วยดำเนินการให้ค่ะ”

มีคดีไหนที่ทำให้แรงขึ้นไหม จากที่ฟ้องแค่เช็คเด้ง?

...

ทนาย “จากเดิมเราแจ้งความเรื่องเช็คเด้งไว้ที่ สน.ทองหล่อ ตอนนี้เราฟ้องเพิ่มเป็นคดีฉ้อโกง และ พ.ร.บ. เช็คด้วย รวมทั้งสองอย่างเป็นคดีเดียวกัน หลังจากนั้นประมาณ ก.ค. เรามาทราบความจริงว่าก่อนที่ลูกหนี้จะมายืมเงินคุณลูกหมีไป อ้างว่าเอาไปทำธุรกิจหลายอย่าง แต่หลังจากนั้นมาตรวจสอบแล้วไม่ได้มีธุรกิจตามที่กล่าวอ้าง ก็เลยเข้าข่ายฉ้อโกง”

โทษของคดีนี้เป็นยังไง?

ทนาย “โทษของ พ.ร.บ.เช็ค ติดคุกไม่เกิน 1 ปี ส่วนของฉ้อโกงติดคุกไม่เกิน 3 ปี”

คือเป็นการกู้ลงทุน แต่ดอกเบี้ยมันสูงจนผิดกฎหมาย?

ทนาย “ไม่ได้ดอกเบี้ยผิดกฎหมาย ครั้งแรกที่เอาเงินไปบอกว่าจะเอาเงินไปลงทุน และได้ผลตอบแทนในอัตราสูง มันอาจจะอัตราดอกเบี้ยที่สูง ซึ่งอันนั้นมันคือสิ่งที่ลูกหนี้เสนอมา สิ่งที่ให้กำไรมาจะเท่าไหร่ก็แล้วแต่ มากกว่าที่กฎหมายกำหนด อันนั้นก็ไม่ได้ผิดกฎหมาย ก็ไม่ต้องคืนในส่วนนั้น”

ยืนยันว่าเป็นผลกำไร ไม่ใช่ดอกเบี้ย?

ทนาย “มันเป็นผลการแบ่งปันผลกำไรให้จากการเอาเงินไปเป็นผลกำไรจากการทำธุรกิจ ซึ่งเขากล่าวอ้างมาในครั้งแรก ว่าเอาไปทำธุรกิจหลายอย่าง”

ในแง่ของคดีความหลังจากนี้ต้องยังไงต่อ?

ทนาย “ศาลให้หมายเลขคดีมาเรียบร้อยแล้ว ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 22 ต.ค. เวลา 09.00 น. ที่ศาลนี้ ถ้าศาลมองว่าคดีนี้เข้าองค์ประกอบมีมูลความผิดคดีอาญาที่เราฟ้องมา ศาลอาจจะประทับรับฟ้องเอาไว้ ขบวนการต่อไปก็อาจจะเรียกทางฝ่ายจำเลยมายื่นคำให้การ ถ้าไม่มาก็ออกหมายจับ แต่ ณ เวลานั้นเราไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น อยู่ที่ขบวนการของศาลค่ะ”

อะไรที่ทำให้เราตัดสินใจยื่นฟ้อง?

ลูกหมี “เกิดจากการไกล่เกลี่ยไม่ลงตัว เกิดจากคำพูดของลูกหนี้เองที่บอกว่าตัวเองมีเงิน แต่ไม่สะดวกที่จะใช้ ซึ่งมันไม่สมควร จำนวนเงินที่ลูกหนี้บอกว่ารวยมาก แต่เงิน 2 ล้าน กับความเดือดร้อนของเรา มันต่างกันราวฟ้ากับดิน เราคิดว่าเรารับไม่ได้กับการกระทำของเขา ควรจะใช้หนี้ก็ไม่ใช้ ในเรื่องการใช้ชีวิต เราฐานะปานกลางเนอะ แต่เขาร่ำรวยมหาศาล แต่ทำไมทำร้ายคนฐานะปานกลางที่ทำมาหากินได้”

ทางคู่กรณีได้ติดต่อมาไหม?

ลูกหมี “ไม่นะคะ ตั้งแต่เกิดเรื่องลูกหนี้ไม่เคยไกล่เกลี่ย ไม่เคยรับผิดชอบ ไม่เคยขอโทษ ปัดความผิดของตัวเองไปให้คนอื่น ไม่มีการกระทำ หรือความรู้สึกสำนึก ไม่มีตรงนั้นให้เราเห็นเลย เราคิดว่าการกระทำแบบนี้ เราก็ต้องดำเนินการของเราไปค่ะ”

มีลูกหนี้รายอื่นๆ ร่วมฟ้องด้วยไหม?

ทนาย “มีเจ้าหนี้หลายๆ รายที่ติดต่อลูกหมีมา เล่าถึงวิธีการยืมเงิน ชวนลงทุนธุรกิจ แต่ธุรกิจไม่เหมือนกัน แต่วิธีการเอาเงินไปเหมือนกัน ยืมเงินไปลงทุน แบ่งผลกำไรที่ให้ผลตอบแทนสูงๆ การันตีว่าไม่มีปัญหา แรกๆ ได้ผลตอบแทนจริง ทำให้เจ้าหนี้มีความเชื่อใจ และให้เงินเพิ่ม หลังจากนั้นไม่มีการจ่ายเงินเข้ามา มันก็เป็นเหตุว่าทำไมเป็นคดีเข้าข่ายฉ้อโกง

...

เจ้าหนี้คนอื่นอย่างของอ้อมก็มีการแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ แต่ได้ยินว่าทางนั้นก็จะฟ้องเหมือนกัน ส่วนคนอื่นๆ เขาไม่กล้า กลัวและเกรงใจ เพราะเขาเป็นคนธรรมดาไม่มีชื่อเสียง เขาก็อาจจะเกรงกลัวบางสิ่งบางอย่าง แต่เขาก็ให้ข้อมูลและหลักฐานมา ทำให้เรารู้ว่าเป็นฉ้อโกง ถามว่ามีใครได้เงินคืนหรือยัง ตอนนี้เท่าที่ทราบยังไม่มีใครได้เงินคืน มีแต่ทำเอกสารไว้เฉยๆ”

เจ้าหนี้คนอื่นๆ จะเข้ามาเป็นพยานให้เราไหม?

ทนาย “คงต้องเรียกเข้ามา เพราะเอกสารเขาก็ให้มาแล้วบางส่วนที่จะเป็นในชั้นไต่สวนมูลฟ้องหรือชั้นสืบพยานได้ ก็มีคนที่ไม่อยากเปิดเผยตัว เพราะว่าเขากลัว”

ลูกหมี “เขากลัวมีผลกระทบกับงาน เข้าใจเจ้าหนี้ทุกท่าน ทุกคนเครียด อยากได้เงินคืน แต่เขาไม่รู้จะทำยังไง เพราะแต่ละท่านระยะเวลา 1-2 ปีขึ้นทุกคนเลย”

คิดว่าเพราะอะไรคู่กรณีถึงเมินเฉยขนาดนี้?

ลูกหมี “ในความคิดของเรา การที่เรากระทำอะไรซ้ำเดิมๆ มันกลายเป็นเรื่องปกติของสิ่งๆ นั้นไปแล้วในความคิดเรา มันก็เลยทำให้ความรู้สึกที่เขาไม่นึกถึงจิตใจของเจ้าหนี้ ว่ามีความเดือดร้อนแตกต่างกัน เขาอาจจะมองแค่ในมุมของตัวเอง ว่าครอบครัวเขาต้องใช้จ่ายเงิน แต่เขาไม่ได้คิดถึงคนอื่นว่าก็มีครอบครัวเหมือนกัน มีความเดือดร้อนแตกต่างกัน”

ทนาย “พี่มองแบบนี้ค่ะ เขาอาจจะเชื่อมั่นในทนาย ที่ให้คำแนะนำเขาไป ซึ่งเราไม่ทราบว่าสิ่งที่ทนายได้รับข้อมูลจากลูกหนี้ ได้รับข้อมูลครบถ้วนแค่ไหน หรือว่าได้รับข้อมูลแบบไหน เขาถึงได้เชื่อมั่นมาก พี่มองว่าการที่ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ ส่วนนึงจากทนายความให้คำแนะนำ ว่าให้ไปรอในส่วนขบวนการของศาล เจรจาไกล่เกลี่ย หรือผ่อนชำระ ก็เป็นไปได้”

...

ในส่วนที่เขาฟ้องร้องเรามาเป็นอย่างไรบ้าง?

ทนาย “ตอนนี้ตำรวจยังไม่ได้มีหมายเรียกมาถึงเรา ที่โดนคือเจ้าหนี้และทนายความ 2 คน เลยยังไม่มีอะไรคืบหน้า”

ลูกหมีมีความกังวลใจอะไรบ้าง?

ลูกหมี “อยากให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการศาล อยากให้ศาลได้ตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน และดำเนินการให้เร็วที่สุดค่ะ”

ในส่วนของทนาย เราอยากจะเตือนทนายของลูกหนี้อย่างไรบ้าง?

ทนาย “ถ้าการเป็นหนี้ควรจะเข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ย ถ้าเป็นแบบนี้มีแต่ผลเสีย ถ้าพูดคุยกันมันปรับความเข้าใจกันได้ ฉะนั้นอย่าสร้างความมั่นใจให้กับลูกหนี้หรือลูกความของตัวเองมากเกินไป เพราะบางสิ่งบางอย่างเราอาจจะรับข้อมูลมาไม่หมด เพราะฉะนั้นหลักฐานทุกอย่างจะไปโผล่ที่ศาล ศาลเป็นคนตัดสิน ถ้าเขาคิดว่ามั่นใจว่าสู้ได้ เอาหลักฐานมาสู้กันในศาลได้ เพราะทางนี้ก็ยืนยันด้วยหลักฐาน พร้อมเปิดในศาลเหมือนกัน ถ้าเขามีอะไรมากกว่านี้และคิดว่าสู้ได้ก็มาเคลียร์กันได้ในศาลได้เลย”

ความหวังที่จะได้เงินคืน?

ทนาย “เขาเป็นหนี้ต้องจ่ายอยู่แล้ว เราต้องได้เงินคืน แต่จะได้เงินคืนเมื่อไร อันนี้ก็ตอบไม่ได้ มันอยู่ที่กระบวนการศาล เพราะเราฟ้องศาลแล้ว มันต้องใช้เวลา อยู่ที่ศาลแล้วค่ะ”

อยู่ๆ ทางลูกหนี้คืนเงินเลย จะถอนฟ้องไหม?

ลูกหมี “ต้องถอนฟ้องค่ะ ถ้ามีปาฏิหาริย์นะคะ ถ้าลูกหนี้คืนเงินเลย เราก็ต้องยกฟ้อง และถอนแจ้งความ แต่ถึงเขาไม่จ่ายเงินคืน เราก็ต้องให้ศาลช่วยอยู่ดีค่ะ”

รู้สึกอย่างไรที่ลูกหนี้ยังใช้ชีวิตมีความสุข?

ลูกหมี “ถ้าเป็นเราคงหาเงิน ตั้งหน้าตั้งตาทำงานขายของ คงยังไม่ได้ออกสื่อ เพื่อหาเงินมาใช้เจ้าหนี้ แต่ทางลูกหนี้ของเราก็ดูชีวิตมีความสุข มันก็บาดใจเจ้าหนี้ เขามีความสุข กินดีอยู่ดี แต่ตัวเราต้องมานั่งรอเงินของเราคืน รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเลยค่ะ”

...

ถ้าเขาผ่อนชำระ มีโอกาสไหมที่จะได้เดือนละ 10,000 บาท?

ลูกหมี “กลัวจะได้เดือนละ 3,000 บาทน่ะสิคะ (ยิ้ม) ถ้าได้แค่นั้นแสดงว่าลูกหนี้ไม่ได้รวยจริงนะคะ”

ทนาย “เราฟ้องเป็นคดีทางอาญามี 2 อย่าง ถ้าเขาผิดจริงมีโทษจำคุก ถ้าไม่อยากติดคุกก็ต้องเอาเงินมาจ่ายก็จบ แต่ถ้าเขาผิดจริง แล้วเขายังดันทุรังสู้ต่อไป แล้วผิดจริงศาลก็สั่งจำคุก อันนั้นก็อยู่ที่ศาลแล้ว เจ้าหนี้อยากได้เงิน ไม่ได้อยากให้ลูกหนี้ติดคุก ถ้าเป็นคดีอาญายอมความได้ เขาจ่ายเงินคดีก็หยุด แต่ถ้าเขาผิด แล้วยังสู้ เจ้าหนี้อยากได้เงิน ไม่ได้อยากให้ลูกหนี้ติดคุก”

แล้วเราจะฟ้องหมิ่นประมาทเพิ่มไหม?

ทนาย “เราก็จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายอยู่แล้วค่ะ”.

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม