ของแทร่และแน่นอน ดีเจอารมณ์ดี ดีเจอ๋อง เขมรัชต์ หนึ่งในตัวแทน LGBTQ ที่แฮปปี้ที่สุดหลังกฎหมายเตรียมรองรับการจดทะเบียนสมรสแต่งงานของเพศเดียวกัน งานนี้ความรักที่ซุ่มเงียบปิดตัวมานาน 18 ปี ได้เวลาเบ่งบานพร้อมออกสื่อเรียบร้อยแล้ว ล่าสุด ดีเจอ๋อง ขอเปิดใจความรักหวานๆ กลางรายการ "โต๊ะหนูแหม่ม" เผยหมดเปลือกพร้อมจัดงานแต่งอย่างเป็นทางการ

สำหรับความรักของคู่อ๋องที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง?
"ถ้าย้อนไปอยู่แต่ตอนเด็กๆ ความรักของอ๋องคือไม่เคยต้องปิดเลย ไม่เคยต้องมาแอบหลบๆ ซ่อนๆ ก็ใช้ชีวิตกันเหมือนเพื่อนกันปกติ แต่ไม่ถึงขั้นโชว์เดินไปไหนกอดคอ จูงมือกัน แต่ไม่เคยห้ามที่จะไปไหนมาไหนด้วยกัน หรือเข้าโรงหนังทีละคน มันจะอึดอัดเกิน เราก็ใช้ชีวิตปกติ"

ทางบ้านทั้งสองครอบครัวว่าไงบ้าง?
"แรกๆ ก็คิดว่าเป็นเพื่อนกันปกติ แต่พอเราอยู่กันนานขึ้นความสัมพันธ์มันก็แน่นแฟ้นขึ้น พอเจอหน้ากันนานๆ เขาก็น่าจะเข้าใจไปเองว่านี้คือคนรักกัน คืออ๋องโตมาแบบว่าที่พ่อแม่อ๋องสนิทกับเพื่อนอ๋องทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทหรือว่าเพื่อนที่เป็นแฟน อ๋องก็จะพาไปเจอพ่อแม่หมด รวมทั้งคนนี้ด้วย อย่างเวลาไปไหนต่างจังหวัด คู่เราจะมีลูกอยู่ตัวนึงเป็นน้องหมาไปฝากพ่อเลี้ยง พอเราไปรับกลับ พ่อเราเองก็มีหลุดเรียก พ่อกับแม่เอ็งมารับกลับแล้ว ไปหาแม่เอ็งซิ ก็เลยเป็นการรับรู้กันไปโดยปริยาย"

...

กลุ่ม LGBTQ คนจะมองว่าความรักฉาบฉวย แต่สำหรับคู่อ๋องรักกันมา 18 ปีแล้ว?
"คือเราก็ผ่านอะไรกันมาเยอะ ต้องต่อสู้อะไรกันมาเยอะ ทุกคู่มันอยู่ที่ว่าเราจะจับมือกันแน่นแค่ไหนมากกว่า สำหรับคำว่าฉาบฉวย มันก็อาจจะถูกสื่อผลิตซ้ำอะไรบางอย่างที่ทำให้คนในสังคมเข้าใจว่า คนรักเพศเดียวกันมันไม่ยืนยาวหรอก และย้อนกลับมาเพราะว่ามันไม่มีการจดทะเบียนสมรสเนี่ยแหละ คบไปมันก็เลื่อนลอย มันไม่มีหลักที่จะยึดเหนี่ยว คบกันไปเดี๋ยวก็เลิกกัน"

เราเติมเต็มดูแลความรักกันยังไง หลังกฎหมายผ่านแล้ว?
"พอมีร่างกฎหมายออกมา มันก็มีชุดความคิดจากป้าข้างบ้าน ลุงข้างบ้านว่ามันได้แล้วนะ ความคิดหลายคนก็เปลี่ยนแล้วมันทรงพลังมาก แต่เอาจริงรุ่นอ๋องลงไป เด็กใหม่ๆ ไม่แคร์เลยนะที่จะมีกฎหมายมารองรับ เขาก็ไม่รู้สึกอะไร เพราะผู้ชายกับผู้หญิงเองก็อยู่กันไปแบบไม่ต้องจดทะเบียนสมรสก็ได้ เด็กเดี๋ยวนี้จะมีความคิดแบบนี้ แต่กฎหมายผ่านแล้วรุ่นเราก็ดีใจ"

สำหรับคู่เราเตรียมตัวจะจดทะเบียนสมรสมั้ย?
"เตรียมตัวจะจดแน่นอน เพราะอ๋องรู้สึกว่ามันเอื้อประโยชน์หลายจุดมาก หนึ่งคือมันก็จะยึดโยงอะไรต่างๆ ได้มากขึ้น อ๋องคือย้อนไปเมื่อตอนคบกัน 5 ปี ซื้อคอนโด อ๋องก็อยากจะซื้อด้วยกันให้มันเป็นคอนโดของเรา แต่ในเมื่อกฎหมายไม่รองรับว่าเราเป็นอะไรกันที่คุณจะมาซื้อด้วยกัน คู่สมรสก็ไม่ใช่ พี่น้องก็ไม่ใช่ คนละนามสกุลกันต่างหาก เพื่อนกันจะมาซื้อด้วยกันมันก็ไม่ได้ มันก็เลยว่าต้องใช้เงินคนใดคนหนึ่งซื้อ อีกคนจะช่วยได้ไม่เต็มที่ เพราะอาจจะคิดว่าวันใดเกิดอะไรขึ้นมา ของชิ้นนี้จะตกเป็นของใครอะไรแบบนี้ มันมีกฎหมายมันดีกว่า".

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม