นักแสดงหนุ่มมากฝีมือ หนุ่ม สันติสุข พรหมสิริ เปิดใจเรื่องราวความรักในรายการ “Club Friday Show” ทางช่องวัน 31 โดยมีช่วงหนึ่งที่เจ้าตัวได้พูดถึงเรื่องความรักกับ แหม่ม จินตหรา สุขพัฒน์ ที่เคยเป็นคู่ขวัญสุดฮอตในอดีต ว่าตอนนั้นกลายเป็นคู่จริงตอนไหน และสุดท้ายทำไมถึงต้องเลิกกัน
โดย หนุ่ม เล่าว่า การเป็นคู่ขวัญของ สันติสุข-จินตหรา ที่ชัดเจนที่สุดจากภาพยนตร์เรื่อง “หวานมันส์ฉันคือเธอ” ถามว่าจากคู่ขวัญตอนที่เริ่มอยากจะกลายเป็นคู่จริงตอนไหน ก็ผ่านไปหลายเรื่อง เราก็ทำงานด้วยกัน อาจจะด้วยความใกล้ชิด ความผูกพัน แต่น่าจะเริ่มมีใจกันตอนเรื่องหวานมันส์ฉันคือเธอ เพราะมันสนิทกันมาก แล้วต้องเล่นสลับร่าง สลับวิญญาณกัน ตอนนั้นอยู่ด้วยกันทุกวันเป็นเวลาเกือบครึ่งปี ไม่ได้กลับบ้านเลย คือมันค่อยๆ ตอนนั้นยังไม่มีใครเลยเพราะไม่ได้ไปไหน
ถามว่าคู่ขวัญแล้วเป็นคู่รักกันจริงคนอาจจะฟินไหม หนุ่ม สันติสุข ตอบว่า ถ้าเป็นแฟนคลับอาจจะชอบ แต่ถ้าเป็นมุมมองค่าย ทางไฟว์สตาร์ ถ้าเกิดเป็นแฟนกัน แล้วต้องไปเล่นกับคนโน้นคนนี้ เดี๋ยวคนจะไม่รับ เดี๋ยวทำธุรกิจหนังเสียหาย เมื่อถามว่าต้องทำยังไงกับการต้องพยายามแอบคบกัน สันติสุข เล่าว่า ด้วยการไปไหนมาไหนด้วยกันไม่มีปัญหาอยู่แล้ว จะมีพี่สมเกียรติ ที่ตอนนั้นเป็นผู้จัดการ แล้วก็ของแหม่มตอนนั้นจะเป็นพี่กอบสุข เป็นคนดูแล ไปไหนจะไปด้วยกัน 4 คน
...
มีโอกาสอยู่ด้วยกันสองต่อสองน้อยมาก แต่ไม่ได้พูดเลยนะ อาจเป็นด้วยว่าเล่นหนังมันพูดกันเยอะแล้วไง จะพูดแล้วเหมือนเขินๆ เราจะพูดดีไหม แต่ว่าการกระทำเขาก็รู้แล้วแหละว่าพี่หนุ่มเขามีใจ ที่ชัดเจนที่สุดคือตอนนั้นเพลงพี่ป้อม อัสนี ดัง แล้วตอนนั้นมีซาวนด์อะเบาต์ จังหวะนั้นเขาก็นั่งอยู่ ไม่มีใครเห็น ก็เอาหูฟังไปใส่ เปิดเพลง “หนึ่งมิตรชิดใกล้” ไปใส่หูเขา เขาก็อือ ตอนหลังก็ร้องเพลงนี้เวลาไปโชว์ตัว ก็มีแอบจับมือกันในรถ เวลาขึ้นรถตู้ เขาจะให้นั่งคนละแถว วันนั้นก็วางแผนให้พี่เกียรติขึ้นไปก่อน นั่งข้างหลังติดพี่สุขเลย เราก็หาจังหวะไปนั่งข้างและแอบจับมือ ไม่อย่างนั้นพี่สุขก็มานั่งกั้น พี่กอบสุขก็รู้ แต่ไม่อยากให้เกินไป เพราะเพิ่งมาเล่นกันไม่กี่เรื่อง
ถามว่ามีคำสั่งไหมว่าห้ามคบ นักแสดงหนุ่มบอกว่า ไม่มีใครพูดเลย แม้กระทั่งในบริษัท ตอนนั้นเรื่องดาราที่เป็นเรื่องส่วนตัวเหมือนเป็นเรื่องร้ายแรง เรื่องส่วนตัวมากๆ เลย ถามว่าช่วงแอบจีบกันตอนนั้น มีดราม่าไหมว่าความรักของเราคงเป็นไปไม่ได้ เพราะทุกอย่างดูกีดกั้น สันติสุข ตอบว่า ไม่ได้คิดถึงตรงนั้น เขาก็เป็นคนใกล้ตัวเราคนดีคนหนึ่ง เขาก็รักเรา เราก็รักเขา คบกันอย่างนี้เราก็มีความสุขที่เราจะใช้ชีวิตแบบนี้ไป คนสมัยก่อนเขาก็คิด สันติสุข-จินตหรา ไม่จริงหรอก โปรโมต เป็นแฟนกันสร้างภาพ มีแต่คนในไฟว์สตาร์จะรู้ เฮ้ย ไม่ใช่ เขาเป็นแฟนกันจริงๆ ไม่ได้โปรโมต ไม่ถึงขั้นประกาศหรือถึงขั้นปกปิด (ชมคลิป)
ถามว่าคบนานไหมก็นานอยู่ ถ้านับตั้งแต่เริ่มเป็นแฟนกันก็ 5-6 ปีได้ จนกระทั่งมาถึงจุดๆ นึง ซึ่งจริงๆ มันก็เป็นความผิดของผมเอง เพราะตอนนั้นเราก็ยังไม่หยุด เรายังสนุกสนานกับชีวิต ในขณะที่ทางแหม่ม ผู้หญิงเขาก็หยุดแล้วไง เราก็ยังไม่หยุดสักที ถามว่าต้องยุติความสัมพันธ์ในที่สุด หนุ่ม สันติสุข ยอมรับว่า ใช่
จังหวะที่เลิกกันกับความรักก็หลายปีพอสมควร เสียใจขนาดไหน หนุ่ม ตอบว่า “เสียใจ บางทีมองเห็นรูป เห็นหนัง เราก็แบบ...เราก็ไปเอาชีวิต ไปเอาเวลาของเขามาช่วงหนึ่ง เราก็ไม่ได้ดูแลเขาต่อ บางทีเราก็นึกเสียใจเหมือนกัน ไม่ได้นำพาเขาไปถึงที่สุด” ถามว่าหลังจากนั้นยังต้องทำงานด้วยกันอีก เจ้าตัวตอบว่า “ใช่ อีกหลายเรื่องเลย” ถามว่าได้ไหม ไหวไหม หนุ่ม ตอบว่า “ก็…มันก็ยาก เพราะว่ามันก็ตัดไปแล้ว แต่ทุกครั้งที่แอ็กชั่น เราก็ต้องกลับมาเป็นตัวละครที่เหมือนเดิม เพราะเราเคยคุยกันปรึกษากันตั้งแต่แรกว่าอย่านะ ไม่ใช่เลิกกันแล้ว ไม่มองหน้ากัน ไม่อะไรกัน คนเคยรักกัน ควรจะส่งเสริม ควรช่วยกันต่อไป”
...
ถามว่ามีผลต่อความเป็นคู่ขวัญ ในแง่ความนิยมในยุคนั้นไหม เจ้าตัวตอบว่า มันเป็นช่วงหนังไทยเปลี่ยนระบบพอดี จำได้ว่าเรื่องที่ฉายเรื่องสุดท้าย “อำแดงเหมือนกับนายริด” เป็นเรื่องที่คาเรื่อง ตอนนั้นครึ่งเรื่องเลิกกัน เลิกกันตอนครึ่งเรื่องพอดี เป็นเรื่องสุดท้าย พอเรื่องนั้นฉายแล้ว เขาทุบโรงภาพยนตร์ทิ้ง โรงก็เข้าไปอยู่ในห้างกันหมดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หนังไทยยุคเปลี่ยนผ่านพอดี”
ถามว่าหลังจากนั้นใช้เวลานานขนาดไหนกว่าที่ทุกคนจะเข้าใจ หนุ่ม เผยว่า “นานครับ ผมว่าหลายปีเลย หลายปีกว่าคนจะชินนะ นอกจากความรู้สึกของเราสองคน เราก็เป็นห่วงบริษัทเหมือนกันว่าจะเสียหายอะไรหรือเปล่า แล้วก็แฟนคลับด้วย จนกระทั่งแบบว่าไม่ได้แล้วแหม่ม เรารู้กันเองอย่างนี้ ต้องไปบอกให้คนเขารู้ด้วย ไม่อย่างนั้นเขาก็ยังคิดว่าเป็นแฟนกันอยู่
จนกระทั่งต้องไปออกรายการ บอกว่าเลิกกันแล้ว เขาก็ยังอุ๊ย เลิกกันทำไม จนกระทั่งทุกวันนี้ไปที่วัด ขนาดพระยังอ้าว...คุณหนุ่ม คุณแหม่มไม่มาด้วยเหรอ เราก็หันไปมองหน้าเมีย อ๋อ ผมมากับเมียครับ ก็เหรอ แล้วคุณแหม่มล่ะ เอ๊ะ ยังไม่เลิก จนเมียโกรธ พระองค์นี้ไม่ต้องถวายสังฆทานแล้ว ไปถวายองค์อื่นเลย ถามอยู่นั่นแหละ ก็บอกแล้วมากับเมีย”.
...
คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม