หลังจากที่เดบิวต์มาได้ปีกว่า ไทแทน (TYTAN) ไทแทน ทีปประสาน (Tytan Teepprasan) ศิลปิน T-POP ที่มีความหล่อ เท่ มีความสามารถล้นเหลือ และอนาคตไกล จากค่าย 411 Music ก็ได้มีโอกาสโชว์ฝีมือให้แฟนๆ ได้เห็นผ่านผลงานต่างๆ อย่างมากมาย 

และล่าสุด ไทแทน ก็ได้ร่วมงานกับ คิมฮันบิน (KIM HAN BIN) หรือ บีไอ (B.I) ศิลปินนักร้องนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์สัญชาติเกาหลีใต้ ในเพลงที่ชื่อว่า Alone Track ที่ 3 โดยไทแทนได้โชว์สกิลถ่ายทอดท่อนร้องของตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งวันนี้ไทยรัฐออนไลน์ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ ไทแทน ก็ไม่พลาดที่จะชวนพูดคุยและอัปเดตตารางชีวิตให้แฟนๆ ได้ฟังและหายคิดถึงกัน 

ความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับ B.I เป็นอย่างไรบ้าง?
เหมือนฝันเป็นจริงเลยครับ ผมติดตามพี่เขาและชอบผลงานพี่เขาอยู่แล้ว พอได้รับโอกาสจากพี่ฮันบินและทางค่ายส่งเดโม ALONE มา ตื่นเต้นมากๆ รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ที่ได้อยู่ในแทรกเดียวกับพี่เขาครับ

พอได้รับโอกาสนี้ก็รู้สึกอยากทำให้เต็มที่ อยากถ่ายทอดอารมณ์ให้เพลงมันสมบูรณ์ ผมได้เจอพี่เขาทุกครั้งที่มาไทยและผมก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากพี่เขา นอกจากทำงานด้วยกัน ดูพี่เขาบนสเตจหรือว่าฟังเพลงเขา รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่เก่งมากๆ ผมชื่นชมเขามากๆ รู้สึกว่าเขาเป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ ครับ (ยิ้ม)

...

พอรู้ว่าจะได้ร้องแร็ป เตรียมตัวซักซ้อมยังไงบ้าง?
เพลงนี้มันเป็นเรื่องอารมณ์ ก็ตามชื่อเพลงเลย ALONE เหมือนจากที่เคยมีคนอยู่กับเรา แต่คนที่เคยอยู่กับเรา เขาเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเรา เราไม่เหลืออะไรเลย เป็นความเงียบเหงาเดียวดายที่เศร้ามากๆ ผมก็เลยอยากจะถ่ายทอดมันออกมาให้ดีที่สุด ผมพยายามถ่ายทอดฟีลลิ่งความเหงาที่เราได้เจอมา พยายามใส่อารมณ์พวกนั้นลงไปในเพลง

ยากมั้ยสำหรับไทแทนกับการถ่ายทอดอารมณ์ตามเพลงนี้?
จริงๆ ผมว่าไม่ยากนะ ชีวิตผมก็อยู่ ALONE มาพอสมควร (หัวเราะ) ถ้าเทียบกับตอนไปเทรนด์ที่เกาหลีช่วงโควิด แค่กักตัวในห้องคนเดียวก็ 70 วันแล้ว คือเมื่อก่อนผมเป็นคนต้องเจอเพื่อนบ่อย แต่พอทำงานก็มีเวลาอยู่กับตัวเองเยอะขึ้น ก็พยายามเอาประสบการณ์แต่ละครที่เรา ALONE เอามาใส่ในเพลงนี้ครับ (ยิ้ม)

พอแฟนๆ ได้ฟังเพลงแล้ว กระแสเป็นอย่างไรบ้าง?
แฟนๆ น่ารักมาก ก่อนอื่นต้องขอบคุณทั้ง ID ของพี่ B.I นะครับ และธันเดอร์ด้วยที่ช่วยซัพพอร์ต ไม่ว่าผมจะทำอะไร จะไปฟีตกับใคร หรือเป็นเพลงไหนก็ตาม เหล่าธันเดอร์ก็ตามซัพพอร์ตตลอด มันเป็นพลังที่ดีมากๆ รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ดีใจมากๆ ที่พวกเขาอยู่ ยิ่งทำให้ผมมีแรงบันดาลใจสร้างผลงานใหม่ๆ ให้เขาชมอีกเรื่อยๆ

อัปเตดชีวิตตอนนี้ ทำอะไรอยู่บ้าง?
มีออกงานอีเวนต์บ้างครับ และก็เตรียมเพลงสำหรับคัมแบ็กอยู่ อยากให้ทุกคนรอ เพราะว่ารอบนี้อยากให้ทุกคนเห็นผมในมุมที่อาจจะโตขึ้น อยากให้เห็นผมในมุมที่ไม่เคยเห็นผมจากเพลงก่อนๆ ก็อยากให้รอดู ตื่นเต้น อยากแชร์กับทุกคนแล้ว (ยิ้ม)

คือผมเป็นคนที่ทำเพลงอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว ถ้าเจออะไรมา มีไอเดียอะไรก็จะทำไว้ และเก็บไว้เป็นสต๊อกไว้ และยังมีเพลงอีกหลายแนวที่ยังอยากทำแล้วไม่ได้ทำ แต่คัมแบ็กรอบนี้ได้เห็นผมในมุมที่ต่างขึ้นแน่นอนครับ (ยิ้ม)

ความตั้งใจของไทแทนกับสิ่งที่จะทำในปีหน้ามีอะไรบ้าง?
ถ้าเป็นเรื่องเพลง มันเป็นศิลปะที่ไม่มีผิดมีถูก ผมก็อยากจะลองสิ่งที่เราอยากถ่ายทอด สิ่งที่เป็นตัวเรา อาจจะกล้าเป็นตัวเองมากขึ้น เพราะว่าเราโตขึ้น ได้ผ่านมาหลายเวที มีโอกาสดีๆ โชว์ต่างประเทศ

ผมรู้สึกว่าประสบการณ์ต่างๆ มันทำให้ผมโตขึ้น เรามีเรื่องราวเล่าได้มากขึ้น ก็เลยอยากจะนำสิ่งที่ผมเจอในชีวิตจริงมาใส่ในเพลงว่าเราโตขึ้น และผมโชคดีมากที่มีทีมที่เก่งและไว้ใจได้ช่วยผมทำเพลง มันทำให้ผมสบายใจกับการทำงานมากๆ

...

วันนี้ไทแทนทำความฝันของตัวเองได้สำเร็จแล้ว คือการได้เป็นนักร้องแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง?
จริงๆ ผมไม่เคยมองว่าพอได้ทำอาชีพนี้ผมจะประสบความสำเร็จแล้ว ทำตามความฝันของตัวเองได้แล้ว ผมไม่เคยมองอย่างนี้ แต่ผมแค่อยากจะทำให้มันดีที่สุดสำหรับผม

สมมติถ้าผมไปโชว์มา ผมก็จะไปดูงานที่ผมทำเพื่อที่จะได้เอาไว้ดูว่าครั้งหน้าจะทำอย่างไรให้มันดีขึ้นกว่าเดิม ค่อยๆ ไปทีละสเตป ผมพยายามทำให้ตัวเองดีขึ้นกว่าวันก่อนๆ ที่ผ่านมา การทำงานตรงนี้มันต้องคิดตลอดว่าสเตปต่อไปคืออะไร เราต้องไปต่อยังไง มันไม่มีที่สิ้นสุด เราสามารถพัฒนาตัวเองได้เรื่อยๆ

ส่วนความรู้สึกผมก็ให้กำลังใจตัวเองในทุกๆ วันนะ แต่ไม่ได้ถึงกับบอกตัวเองว่า เก่งจังเลยนะ (หัวเราะ) ไม่ได้คิดแบบนั้น แต่ก็บอกตัวเองเสมอว่าเรายังไม่ได้เก่ง มันไม่มีคำว่าเก่ง มันมีแต่เก่งขึ้นได้เรื่อยๆ จากประสบการณ์และการเรียนรู้ ตอนนี้ก็ค่อยๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ และพยายามนำทุกอย่างที่เจอมาให้เราเป็นศิลปินและคนที่ดีขึ้นครับ

ซึ่งไทแทนก็เป็นอีกคนที่ได้รับโอกาสดีๆ มาตลอด?
ผมเห็นคุณค่าและรู้สึกเป็นเกียรติมากเวลาที่ได้ไปทำงาน พอได้รับโอกาสมาก็อยากจะทำมันให้เต็มที่ทุกงานเลยครับ (ยิ้ม)

ไทแทนเป็นคนที่มีพลังบวกในตัวเอง มีบางครั้งที่เหนื่อยหรือแอบท้อด้วยเหรอ?
อาจจะไม่ได้ท้อ แต่เหนื่อยมีแน่นอนครับ (ยิ้ม) ช่วงเครียดช่วงเจออุปสรรค ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมดาที่ในชีวิตของทุกๆ คนจะเจอ เวลาผมออกไปข้างนอก ผมอยากจะส่งแต่พลังบวกๆ ให้กับคนรอบข้าง

ผมรู้สึกว่าอยากทำให้บรรยากาศรอบตัวเราผ่อนคลาย มีความสุข มีแต่พลังบวก ไม่อยากเอาความเครียดไปใส่คนรอบตัว เพราะผมเคลียร์เรื่องเครียดด้วยตัวเองได้

...

แต่ถ้าออกมาข้างนอกแล้วทำให้แฟนๆ หรือคนร่วมงานต้องมารับรู้ด้วย ผมไม่อยากทำอย่างนั้น อยากส่งพลังบวกให้ทุกคนได้รับ มาซัพพอร์ตกำลังใจดีๆ พลังงานดีๆ ให้กันและกันดีกว่า ไม่ใช่แค่กับแฟนคลับนะครับ แต่หมายถึงทีมงานที่ต้องทำงานด้วยกันด้วย

อยากพูดอะไรกับธันเดอร์บ้าง เพราะพวกเขาคือแรงซัพพอร์ตที่ดีของไทแทน?
ถ้าจะให้พูดถึงธันเดอร์ของผม ผมมีแต่ความรักให้กับพวกเขา แฟนๆ ผมน่ารักมาก อย่างที่บอกทุกครั้งที่ไปไหน เขาจะส่งพลังบวกให้ผมตลอด มีเรื่องอะไรเจอแฟนๆ ก็ทำให้ผมแฮปปี้แล้ว ทำให้ผมมีกำลังใจในการทำงาน อยากจะผลิตงานดีๆ ออกมาเยอะๆ เพื่อให้พวกเขาชมกัน ตื่นเต้นแล้ว อยากปล่อยเพลงใหม่แล้ว (ยิ้ม)

ส่วนสำหรับแฟนอินเตอร์ ผมดีใจมาก (ยิ้มมีความสุข) แรกๆ ผมไม่ชิน เวลาไลฟ์ก็จะพูดแต่ภาษาไทย หลังๆ เขาก็บ่นว่าพูดอะไร ไม่เข้าใจเลย (ยิ้ม) ก็เลยต้องพูดอิ้งกับเขาด้วย รู้สึกดีและโชคดีที่มีแฟนๆ อินเตอร์มาซัพพอร์ตกันอีกแรง ดีใจมากๆ เลย เป็นเกียรติมากๆ ไม่ว่าจะอยู่ประเทศไหน เขาซัพพอร์ตผม บางทีก็บินมาดูตอนโชว์ที่ไทย รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ยิ่งรู้สึกว่าต้องทำให้เต็มที่ ไม่ทำให้เขาต้องผิดหวัง (ยิ้ม)

...

คลิกเพื่ออ่าน “ข่าวบันเทิงวันนี้”