เปิดใจนางเอกหน้าเด็กตลอดกาล เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร ซุป'ตาร์ตัวแม่ของวงการบันเทิง มาเผยเรื่องราวที่ไม่เคยพูด! ตั้งแต่เข้าวงการอายุ 15 ไม่เคยมีผู้ช่วยเลย ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองมาโดยตลอด เผยถึงความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนแก๊งนางฟ้าที่ผ่านเรื่องราวทุกข์ สุข มาด้วยกันเยอะมาก ตอบปมดราม่าคลั่งผอม เล่าภาวะซึมเศร้าหลังคลอด หวงลูกหนักจนเอาลูกไปซ่อน ในรายการ WOODY FM
เพิ่งทราบว่าที่ผ่านมาในวงการคุณทำเองทุกอย่าง พี่เข้าใจว่าคุณมีผู้ช่วยหรือเลขา?
เจนี่ : ใช่ค่ะพี่วู้ดดี้ ไม่มีเลยตั้งแต่แรกเลยค่ะ ตั้งแต่อายุ 15 ไปกองถ่ายไปอะไรก็คือหิ้วรองเท้า เสื้อผ้าไปเอง ชอบที่จะทำเองเหมือนเป็นคน Alert แล้วไม่มีใครทำอะไรถูกใจได้ แล้วเวลารีดทุกอย่างต้องเนี้ยบ เจนมีเตารีดไอน้ำติดตัวตลอดเวลา กองละครบางเรื่องก็มีเสื้อผ้าเจนด้วยนะ อย่างเล่นเป็นตัวไหนก็จะซื้อใหม่ทั้งเรื่องเลย เพราะอินกับคาแรกเตอร์ แล้วอยากจะให้คนดู ดูแล้วเป็นเจนในเรื่องจริงๆ แล้วก็รู้สึกว่าเราสะดวกใจที่จะเอาไปเองดีกว่า
แล้วอย่างงี้ที่ผ่านมาเวลาไปออกกองตามที่ต่างๆ ก็ไม่มีผู้ช่วยเลย?
เจนี่ : ไม่เคยมีเลยพี่วู้ดดี้ จะมีคุณแม่เป็นคอนแท็กให้ แต่ท้ายที่สุดเจนจะเป็นตัดสินใจเองหมด แล้วก็บอกเขาว่าเจนจะลงกี่รูป จะเอาสตางค์ค่าขนมเท่าไร จะไปกี่ครั้ง เจนก็จะเป็นคนคิดและเป็นคนจด คนกลางก็จะเป็นคุณแม่คุยให้ แต่ท้ายที่สุดแล้วพอเราคุยเองก็จะ face to face มากกว่า รู้สึกว่าเขาก็จะได้แฮปปี้ด้วย เราก็จะแฮปปี้ด้วย ถ้าเปิดรถตอนนี้คือนั่งได้แค่คนเดียวรถตู้นะคะ รองเท้าน่าจะ 10 คู่ แล้วก็จะมีอาหารของตัวเอง เจนจะจัดเรียงไว้เลย เช้า กลางวัน เย็น เพราะว่าทำงานเยอะ แล้วก็จะมีเครื่องสำอางเอาไว้เติมหน้าเอง มีอุปกรณ์ทุกอย่างเลยค่ะ ก็คือเป็นเหมือนรถบ้าน เจนทำทุกอย่างด้วยตัวเองตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นเจนพยายามแล้วค่ะ ก็ไม่มีใครอยู่กับเจนได้แม้แต่มิก (หัวเราะ) คือไม่มีใครทำได้เร็วไม่ทันใจเจน และคิดเหมือนที่เจนคิด
...
แล้วถ้าเกิดเราเป็นแบบนี้พออายุมากขึ้นมันจะเหนื่อยกว่านี้ไหม?
เจนี่ : เหนื่อยมาก พอเราโตขึ้นเจอคนเยอะ แล้วปฏิเสธคนไม่เป็น เราก็เลยโอเคๆ แต่ลืมไปว่าร่างกายบางทีมันรับไม่ไหว
แล้วจะวางแผนยังไงต่อไป เพราะว่าอนาคตเราก็คงไม่อยากจะปฏิเสธเองตลอดเวลา?
เจนี่ : น่าจะตายก่อนได้ใช้เงิน (หัวเราะ)
ทุกวันนี้ได้ใช้เงินบ้างไหม เพราะไม่เห็นคุณทำอะไรนอกจากออกกำลังกาย และดูแลลูก?
เจนี่ : ยัง (หัวเราะ) เพราะว่ากว่าเจนจะได้ใช้เงิน เจนจะใช้ของใหญ่เลย อย่างเช่นซื้อบ้าน ทำบ้าน รีโนเวทบ้าน ถ้าเกิดว่าช็อปปิ้งก็คือไปแค่คริสต์มาส หรือเทศกาลอะไรแบบนี้ค่ะ
แล้วจะเก็บเงินไว้ทำอะไรนอกจากบ้าน?
เจนี่ : ให้ลูกสาว เจนพูดเลยว่าทุกวันนี้ โนล่า คือจุดมุ่งหมายในชีวิตที่เจนทำทุกอย่าง และเจนยอมเหนื่อย จริงๆ เจนอยู่เฉยๆ ก็ได้ คือเรารู้สึกว่าเราชิลกว่านี้ได้เยอะ แต่วันนี้เจนมองหน้าลูกแล้วแบบ พ.ศ.นี้ เจนชิลไม่ได้ เพราะเจนไม่รู้ว่าวันนี้เจนเดินข้ามถนนไปแล้วเจนจะตายหรือเปล่า ถ้าเจนตายไปแล้วโนล่าเขาจะมีอะไรไว้บ้าง จะมีอะไรที่เป็นหลักประกันให้กับชีวิตเขาบ้าง เราไม่ต้องคิดหรอกว่าใครจะทำให้เขา เราเป็นแม่เราต้องทำให้เขาก่อน เจนก็จะวางไว้หม่ามี๊จะมีอะไรให้หนูบ้าง มีวันหนึ่งเขาก็ยังเด็กนะคะ เจนบอกโนล่าลูกตู้เซฟหม่ามี้รหัสนี้ๆ เขาก็ทำหน้างงใส่ ทำไมเหรอคะหม่ามี๊ อ้าวก็เกิดวันหนึ่งแบบหม่ามี๊ไม่อยู่... หม่ามี๊ต้องอยู่! เขาไม่รู้ว่าแบบวันหนึ่งเราก็จะต้องไม่อยู่
พูดถึงเพื่อนๆ แก๊งนางฟ้าที่อยู่กันมานานมาก มีการทะเลาะกันไม่คุยกันมาเป็นปี กลับมาคืนดีกัน ผ่านกันมาเยอะมาก?
เจนี่ : จนวุ้นแต่งงานอะ (หัวเราะ) ครบกลุ่มแล้ว ขนลุกเลยอะ
เป็นเซอร์ไพรส์ไหม?
เจนี่ : เป็นเซอร์ไพรส์ของวุ้น แต่ว่าเพื่อนๆ พอจะรู้แล้ว ว่านิกม์จะขอวุ้น
วุ้นดีใจไหม?
เจนี่ : จะเหลือเหรอพี่วู้ดดี้ ดีใจมาก แล้วก็รู้ว่าวุ้นมีความสุขจริงๆ
สามารถแชร์ได้ไหมเกี่ยวกับการคบเพื่อน มีอะไรที่จะแบ่งปันได้บ้างเกี่ยวกับความแน่นแฟ้น ความสัมพันธ์ของคำว่าเพื่อน?
เจนี่ : ผ่านกันมาทุกตอน ทุกข์ สุข ทุกอย่าง เจนพูดเลยว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการคบเพื่อนนะ เราต้องไม่เฟก ต้องพูดความจริง เราจะไม่มีการชมจนตัวลอย เราจะเตือนกัน เรารู้สึกยังไงต้องพูด อย่าเก็บเอาไว้ เพราะผู้หญิงมันจะมีเส้นบางๆ ที่แบบไม่กล้าพูด พวกเราต้องแมนทุกคน ต้องเป็นสปีชีส์เดียวกัน ต้องรู้สึกเหมือนกัน ถ้าเพื่อนพูดอะไร พูดความจริงคุณก็ต้องรับได้ เพราะเพื่อนพูดความจริง วันนี้ถ้าเราจะคบกัน ถ้าเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป เราต้องคุยกันทุกเรื่อง มีอะไรให้ด่ากันเลย สมมติเจนโกรธใครอะไรแบบนี้ก็คือเจนก็จะพูดเลย อย่าทำแบบนี้ไม่ชอบ แล้วก็มีอะไรที่จะทำให้เราแบบแก้ได้บ้างไหม มีอะไรที่เพื่อนเคยจะรู้ไหมว่าแบบอันนี้มันไม่ควรทำ ฉันน้อยใจนะ อะไรแบบนี้ค่ะ
...
แต่ก่อนที่จะคบกันถึงขั้นนี้ มันต้องมีช่วงแรกใช่ไหมที่อาจจะไม่ได้พูดทุกเรื่อง?
เจนี่ : ใช่ เพราะเรายังไม่สนิทกันขนาดนั้น แต่พอเราเริ่มทะเลาะกัน แล้วเริ่มมีบุคคลที่ 3-4 เข้ามาอยู่ในเหตุการณ์ ก็กลายเป็นเพื่อนในกลุ่มทะเลาะกัน กลายเป็นประเด็นแล้วเราก็อยากเคลียร์ ด้วยความที่พอเราโตขึ้น ทุกวันนี้ที่คุณภาพมากกว่า คบกันเพราะว่าเรารักกันจริงๆ ไม่ใช่ ที่ต้องมีเพื่อนไปเรื่อยๆ หรือเพื่อให้เราอุ่นใจ มันไม่ใช่แล้ว
สาวๆ เวลาคบกันสมัยก่อนนอกจากเรื่องตัวเองก็ต้องคุยเรื่องชาวบ้านเป็นเรื่องปกติ แต่พอยิ่งแก่กลายเป็นว่าเราคุยเรื่องตัวเองมากขึ้น?
เจนี่ : คุยเรื่องครอบครัวตัวเองค่ะ เรื่องลูก เรื่องสามี คุยแค่นี้เลย เรื่องชาวบ้านไม่มีอะไรให้คุย แค่คุยเรื่องตัวเอง ลูก สามี ก็หมดวันแล้วค่ะ
เล่าเรื่องดราม่าคลั่งผอม?
เจนี่ : คลั่งผอมหรือเปล่า ทำไมผอมจัง แต่เจนไม่ใช่คนมานั่งเถียงกับใครอะ เราไม่ใช่คนคลั่งผอมนะ คือเอาเป็นว่าวันนี้สิ่งที่เจนทำ เจนรู้ดีว่าเจนทำอะไร เจนไม่ใช่คนที่ทำอะไรโดยที่ไม่มีเหตุผล
คือหลังจากที่เจนท้อง อย่างหนึ่งที่เจนรู้สึกว่าเจนรับไม่ได้เลย คือมองกระจกแล้วแบบทำไมฉันอ้วนขนาดนี้อะ ทำไมพุงเหมือนจิงโจ้เลย พอคลอดโนล่า อีกวันหนึ่งเจนก็ยืนเห็นตัวเองในหน้ากระจก ท้องเจนที่มันยื่นออกมาอะ มันก็โย้มาปิดเลยอะ แล้วเจนก็แบบ นี่คือ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ เหรอ แล้วก็แบบจะเอาเนื้อนี้ออกไปยังไง ชีวิตนี้ไม่เคยเกิดขึ้น เคยแต่เป็นคนที่หุ่นดี สุขภาพดี ดูแลตัวเอง
...
แต่คุณก็ออกกำลังกายสม่ำเสมอก่อนหน้านั้น มันไม่น่าจะต้องกังวลมากไหม?
เจนี่ : แต่พอเรามาเป็นแม่แล้วท้องอะ แล้วหนังที่มันออกมามันเยอะมากอะค่ะ แล้วเจนนอยด์ เพราะว่าไม่รู้ว่าเราจะทำยังไงดี มันจะหายไปจริงๆ เหรอ ถามหมอ แล้วตอนนั้นเป็นช่วงเบบี้บลู (ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด) ด้วยค่ะ หวงลูก ไม่ยอมให้ใครมาจับ น้ำนมก็มากะปริบกะปรอย ก็เครียด กลายเป็นแบบตอนนั้นหนักมาก
คือใครจะใกล้ลูก คือเอาลูกไปซ่อนเลย ไม่ยอมให้ใครมาแตะ แล้วก็บอกพยาบาลว่าให้เอาไปไว้ในห้องที่มีเด็กเยอะๆ ถ้าเกิดใครมาเยี่ยม ห้ามให้เขาจับลูกเจนี่นะคะ คือกลายเป็นคนหวงลูก หมอบอกไม่เป็นไรนะคุณเจนี่ อาการอย่างนี้เป็นอาการปกติ
แต่ถ้าเกิดว่ารู้สึกอยากจะฆ่าลูกตัวเอง อันนั้นคือฮอร์โมนตกหนักมาก เพราะเคยมีคนที่เหมือนฮอร์โมนตกหนักมาก แล้วอยากจะฆ่าลูกตัวเอง เพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้พ่อกับแม่มีเวลาให้กันน้อยลง.
คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม