อุ๋ย บุดด้าเบลส หรือ นที เอกวิจิตร ซึ่งมีผลงานเพลงฮิตออกมามากมาย อาทิ Fire, ปักตะไคร้, ลืมไปก่อน เป็นต้น ถึงแม้ในปัจจุบันจะห่างหายจากการส่งซิงเกิลไปบ้าง แต่ อุ๋ย ยังปรากฏอยู่ในหน้าจอไม่ขาดหาย ซึ่ง ณ ตอนนี้เขายังได้ศึกษาธรรมะ และมักให้ข้อคิดในการใช้ชีวิตอยู่เสมอ

เมื่อมาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ "Club Friday Show" ผลิตโดย CHANGE2561 วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2566 เวลา 11.00 น. ทางช่องวัน 31 อุ๋ย บุดดาเบลส ได้เปิดเรื่องราวในชีวิต และเผยถึงความรักแบบทุกซอกทุกมุมในใจ ถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้เด็กก้าวร้าวรุนแรงคนหนึ่งคิดได้ และเปลี่ยนเส้นทางเดินสู่สายธรรมะเพราะคุณแม่

พร้อมเผยตอนเป็นนักร้องดังก็มีสาวๆ เข้ามาบ้าง แต่ตนเองเป็นคนไม่เจ้าชู้ จนเพื่อนๆ แซวว่าเก่งทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องความรัก และรักครั้งหนึ่งที่คนรู้ทั้งประเทศ และยังเป็นรักที่รู้สึกเสียใจมากที่สุดของตัวเอง อะไรที่ทำให้ความรักครั้งนั้นของเขาเดินหน้าต่อไม่ได้

กับความคิดเห็นเรื่องการนอกใจ เรื่องที่คนไทยติดอันดับโลก ถ้าสอนมันไม่ได้ ก็ให้นรกสอนมัน ต้องให้เขาเผชิญกับความทุกข์หลังจากการกระทำของเขาเอง สำคัญคำว่าความรักของ อุ๋ย บุดดาเบลส เพราะคิดว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด จึงเน้นการทำให้ภรรยาเห็นดีกว่าพูดคำหวานๆ

...

ตอนเด็กๆ ก็เฟี้ยวมาก่อน?
อุ๋ย บุดด้าเบลส : ครับ (ยิ้ม) ตอนเด็กเรียกว่าเป็นเด็กก้าวร้าวรุนแรง แม่ตีมา เราก็ตีสวนแม่เลยครับ แต่ก็มีจุดเปลี่ยนสำหรับตัวเราครับ ตอนนั้นบ้านไฟไหม้เห็นแม่ทุกข์ แม่เศร้ามาก ก็อยากให้แม่สบายใจ ก่อนหน้านั้นแม่ก็ชวนผมไปปฏิบัติธรรมบ่อย แล้วผมไม่เคยคิดจะไป เพราะผมคิดว่ามันงี่เง่ามาก ไปนั่งหลับตา ไปเดินช้าๆ แล้วชีวิตจะดีขึ้นได้อย่างไร เพ้อเจ้อ แล้วเขาพูดเรื่องบุญคุณพ่อแม่ มันย้อนอดีตไปเห็นสิ่งที่เขาทำกับเรามันเยอะเหลือเกิน ผมจำได้ ผมร้องไห้จนเสื้อไม่พอเช็ดน้ำตา มันสำนึกความเลวของตัวเองที่ทำกับเขา

ตอนเป็นวงบุดด้าเบลสก็ประสบความสำเร็จเยอะมาก สาวๆ เยอะไหม?
อุ๋ย บุดด้าเบลส : เวลาไปเล่นตามผับก็มีบ้างที่เข้ามา แต่ว่าผมมีแฟนอยู่ตลอด เวลาคบแฟน ผมจริงจังตลอด ก็เลยจะไม่มีอะไรต่อ เราก็เลยไม่เปิดโอกาสให้แบบนั้น

แปลว่าเป็นคนไม่เจ้าชู้?
อุ๋ย บุดด้าเบลส : ผมไม่เลยครับ มีมองไหม มีครับ มีผู้สวยๆ มองไหมมอง แต่จะให้ไปสานต่อไปขอเบอร์ไหม ไปคุยไหม ไม่ ไม่ใช่อะไรนะครับ ไม่ชอบปัญหาที่จะตามมา เพราะเวลาเห็นคนรักเดียวใจเดียว ผมรู้สึกว่าคนแบบนี้มันเจ๋ง มันไว้ใจได้ เพื่อนผมจะว่าผมตลอดว่าผมรู้ทุกเรื่อง แต่โง่อยู่เรื่องเดียวเรื่องนี้

ความรักครั้งหนึ่งเป็นความรักที่รู้จักกันในแวดวงบันเทิง ตอนนั้นที่ไปเจอ ไปเจอกันอย่างไร?
อุ๋ย บุดด้าเบลส : ตอนนั้นอยู่แกรมมี่ แล้วเขาเป็นครูสอนเต้น แล้วผมอยู่ค่ายมินิแกรมมี่ มันก็เจอกันอยู่แล้ว

อะไรที่ทำให้ความรักครั้งนั้นเดินหน้าต่อไม่ได้เอ่ย แล้วเสียใจไหม?
อุ๋ย บุดด้าเบลส : เสียใจมากครับ ใช้ชีวิตไปปฏิบัติธรรม ไปศึกษาเรื่องพวกนี้มันก็ไม่หายเร็ว แต่ยิ่งสอนให้เรารู้ว่าอะไรที่ยิ่งอยากให้หายเร็วแบบเป็นแผลหายสิหายๆ ใส่ยาวิเศษแค่ไหน สุดท้ายคือต้องรอเวลาวันหนึ่งเริ่มตกตะกอนทุกอย่าง มันก็ต้องใช้เวลาเนอะ ก็อยู่กับมันไปสิ

คนไทยติดอันดับโลกนะในการนอกใจกัน ถือสากันน้อยลงกับคนที่มีเจ้าของเลยด้วยซ้ำ เพราะคิดว่าไม่เป็นไรฉันคบกับเธอ ไม่ใช่คบกับสามีเธอ ภรรยาเธอสักหน่อย ในมุมเราถ้าเราจะพูดถึงเรื่องนี้?
อุ๋ย บุดด้าเบลส : ผมเชื่อว่าถ้าเราพูดแล้วเขาเปลี่ยนใจได้คงมีคนพูดกับเขาเยอะแล้วเขาคงเปลี่ยนใจไปนานแล้ว ผมชอบที่หลวงปู่ไดโนเสาร์ ท่านพูดว่าถ้าสอนมันไม่ได้ ให้นรกสอนมัน นรกในที่นี้ไม่ใช่สถานที่ หรือตายไปแล้วนะครับ แต่มันคือความทุกข์ที่เขาต้องเผชิญหลังจากนั้นที่เขาต้องเจอ ให้เขาไปเรียนรู้ดีกว่า เพราะสิ่งที่เราพูดไปมันเป็นแค่ความเห็นครับ มันไม่ใช่ความจริง เหมือนอย่างเราบอกว่าไฟร้อนนะ อย่าไปจับไฟร้อนนะ เดินลุยไฟไปเลย

...

มีอะไรอยากบอกภรรยาตรงนี้ไหมเอ่ย?
อุ๋ย บุดด้าเบลส : ทำมันดังกว่าพูด พูดดีให้ตายใครก็พูดได้ ผมขอไม่พูดดีกว่า พูดไปมันก็เท่านั้น กลับไปทำดีกว่า กลับไปนวดเขาต่อดีกว่า (ยิ้ม) จริงๆๆ ไม่ได้รักแมว แต่เพราะภรรยารัก ผมเลยรักด้วย ผมเป็นทาสภรรยาครับ ไม่ใช่ทาสแมว.

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม