เดินหน้าเป็นนักแสดงเต็มตัวแล้ว สำหรับ อแมนด้า ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปี 2563 หลังจากที่หมดสัญญากับ TPN ก็ได้ตัดสินใจจดปากกาเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงของช่อง 3 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า ได้ร่ำลากับ แม่ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก แล้ว และยังเรียกใช้งานได้เสมอ 

ถามเรื่องที่เซ็นสัญญากับช่อง 3 แล้ว?

“ฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคนด้วยนะคะ เซ็นกี่ปีขออุบไว้ก่อน”

ทำไมถึงตัดสินใจเซ็น?

“ตั้งแต่ได้มาเล่นละคร ตั้งแต่เรื่องมาตาลดา ผู้ใหญ่ช่อง 3 น่ารักมาก เอ็นดูด้ามอบโอกาสบทใหญ่ๆ บทที่ท้าทายให้ ในเมื่อเราเล่นมาหลายเรื่องขนาดนี้แล้วก็อยากอยู่เป็นครอบครัวเดียวกันเลย”

เป็นยังไงบ้างจากนางงามมาสู่นักแสดงตอนนี้?

“ชอบมากๆ เลยค่ะ ตอนเป็นนางงามเราจะ represent ตัวเอง แต่พอเป็นนักแสดงเราก็ต้องสวมบทบาทอีกคาแรกเตอร์ ซึ่งมันเป็นการท้าทายตัวเองทำให้เราได้พัฒนาตัวเองไปด้วย ชอบไปกองถ่ายเหมือนไปหาเพื่อน”

ได้ดูฟีดแบ็กจากแฟนๆ มั้ยว่ามาเป็นนักแสดงแล้วเป็นยังไงบ้าง?

“ถือว่า positive เลยนะคะ จะพัฒนาไปเรื่อยๆ”

จากนี้มุ่งงานแสดงเป็นหลัก?
“น่าจะเป็นหลักค่ะ ไหนๆ ก็มาอยู่กับช่อง 3 แล้ว”

...

ตอนนี้มีกี่เรื่อง?

“ตอนนี้กำลังถ่ายทำ เว้าวอนรัก และอีกเรื่องกำลังรอเปิดกล้อง”

ซีเรียสไหมว่าจะต้องเป็นนางเอก หรือ นางร้าย?

“เอาจริงๆ ไม่ได้ซีเรียสเลยแค่ให้โอกาสก็ดีใจแล้วค่ะ ถามว่าดูจากอะไร ก็ชอบความท้าทายนะคะ จากบทที่เล่นเรื่อง ลมเล่นไฟ ก็เป็นบทท้าทายมากๆ เอาจริงๆ ก็ไม่คิดว่าผู้ใหญ่จะมอบโอกาสให้สำหรับมือใหม่ เพราะเป็นเรื่องที่สองแต่เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด”

4 เรื่อง มีเรื่องไหนเป็นนางเอกเต็มตัว?

“ก็มีเว้าวอนรักและยิหวาดาตัง”

หมดสัญญากับ MUT?

"เรียบร้อยแล้วค่ะ 3 ปี ก็ยังเป็นครอบครัวเหมือนเดิม ตอนหมดสัญญาก็เข้าไปหาแม่ปุ้ยที่มอบโอกาสต่างๆ ให้ด้า เราก็เป็น Miss Universe Thailand 2020 บอกแม่ปุ้ยแล้วว่าไม่ว่าจะมีงานอะไรก็เรียกด้าได้เสมอ”

วางเป้าหมายยังไงบ้างในบทบาทนักแสดงหลังจากนี้?

“ก็อยากทำทุกคาแรกเตอร์ออกมาให้ดีที่สุด ก็รอดูว่าเดี๋ยวจะมีอะไรพัฒนาต่อไปจากนั้น”

หวังถึงเป็นนักแสดงรางวัลเลยมั้ย?

“ถ้าได้ก็ดีนะ ทุกคนอยากได้หมดก็ต้องพัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ”

มีไปเรียน ไปฝึกฝนอะไรบ้าง?

“ตลอดค่ะ โดยเฉพาะตอนเล่นเรื่องลมเล่นไฟ เพราะเป็นบทที่ท้าทายมาก เรียนหนักมากๆ เลย”

ระหว่างตอนไปฝึกเป็นนางงามกับฝึกเป็นนักแสดง อันไหนหนักกว่ากัน?

“มันหนักคนละแบบ เป็นนางงามมีหลายพาร์ตไม่ว่าจะการเดินการฟิตหุ่น การตอบคำถาม จะมีความกดดันมากกว่าเวลาเราไปประกวดที่เมืองนอก ในพาร์ตของนักแสดงมันจะไปหนักอยู่ที่อารมณ์ข้างในมากกว่าและความเข้าใจตัวละคร”

ทำไมถึงเลือกเป็นนักแสดง ขณะที่คนอื่นอาจจะเลือกเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ที่ใช้เวลาน้อยแต่เห็นผลกว่า?

“ตอนที่ได้เล่นเรื่องมาตาลดาทำให้เรารู้ว่าเราชอบทำงานตรงนี้ เป็นอินฟลูเอนเซอร์ก็สนุกกันได้เหมือนกัน ควบคู่กับการเป็นนักแสดงได้ด้วยแต่พอได้มาเป็นนักแสดงจริงๆ เราสนุก เราชอบ ได้ท้าทาย ได้เค้นอารมณ์ข้างในออกมา ไฟตอนนี้เยอะมาก”

ตอนนี้ลืมความเป็นนางงามไปหรือยัง?

“ไม่ลืมหรอก มันก็มีอยู่แล้วในจิตใต้สำนึก ได้เห็นซีนลงรถมั้ยคะ ไม่ได้ตั้งใจด้วยแล้วเค้าเอามาประกบกับตอนที่ไปประกวดเมืองนอก เลยคิดว่ามันจะอยู่ในสายเลือด”

จะได้เห็นเอาจริตนางงามมาใช้ในละครอีกมั้ย?

“แล้วแต่บทมากกว่าค่ะ ถ้ามันให้มันส่ง ก็คงมีบ้างแต่ถ้าไม่ก็คงไม่”

ติดบุคลิกความเป็นนางงามแล้วมาอยู่ในละครมั้ย?

“ไม่ค่ะ หนูก็เป็นผู้หญิงทั่วไป นอนบนโซฟา อยู่บ้านก็ไม่ได้นั่งหลังตรงหรอก เราก็ทั่วไป ขึ้นเวทีเราก็เฉิดฉาย”.

...