เป็นผู้ชายอีกหนึ่งคนที่คลั่งรักสุดๆ ไปเลย สำหรับพระเอกหนุ่ม เจมส์ มาร์ หลังจากที่ควงแฟนสาว พาย รินรดา ไปร่วมงานแต่งของ หมาก ปริญ กับ คิมเบอร์ลี่ ที่อิตาลี และมีภาพสุดหวานออกมา เป็นภาพที่เจมส์ยืนบังแดดให้กับ พาย ซึ่ง พี่อ๋า ผู้จัดการส่วนตัวเขียนแซวผ่านไอจี งานนี้เลยทำเอาแฟนๆ ต่างแซว เจมส์ มาร์ กันถ้วนหน้า
ล่าสุดเจอพระเอกหนุ่มมาร่วมงานเปิดวิก Big3 Best & Beyond ที่รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน เจมส์ มาร์ ก็ได้เผยสถานะกับ พาย เป็นแฟนกันนานแล้ว ยกแฟนสาวเป็นพรหมลิขิตที่ได้มาเจอกัน ยิ่งรู้จักยิ่งรักมากขึ้นทุกวัน เปรียบฝ่ายหญิงเป็นสิ่งพิเศษที่สุดในชีวิต เหมือนเข้ามาเติมเต็ม ซัพพอร์ตกันและกัน
คู่เราก็หวานมีภาพบังแดดให้กัน?
“จริงๆ โมเมนต์บางอย่างผมทำอะไรแบบนี้อยู่ คือเรารู้สึกว่าอะไรที่ดูแลเขาได้เราก็จะดูแล แล้วคือแดดมันร้อนมาก เราไม่อยากให้เขาร้อนเราก็เลยพยายามนั่งแค่บังแดดเฉยๆ เพราะเรามีแว่นกันแดดเราก็ไม่ร้อนเท่าไร”
แต่เขาบอกเราหน้าแดงหมดแล้วนะ?
“เราร้อนแทนเขาได้ครับ จริงๆ ผมไม่กลัวแดด ผมตากแดดได้เลย เห็นโมเมนต์นั้นแดดมันมาฝั่งนี้พอดี เรารู้สึกว่านั่งบังแดดให้เขาแล้วกัน ในโมเมนต์เดียวกันก็นั่งฟังเจ้าบ่าวเจ้าสาวไปเลยแล้วก็ไม่ได้คิดอะไรครับ”
แต่พี่อ๋า ผู้จัดการของเราเขาก็ร้อนนะ?
“(หัวเราะ) ตอนนั้นไม่ได้โฟกัส เพราะว่ามัวแต่ไปโฟกัสบ่าวสาว (หัวเราะ) คือถ้าพี่อ๋าขอให้ผมบังให้ ผมก็บังครับ (ยิ้ม)”
...
แต่พายเขาก็ร้อนเหมือนกันนะ?
“น้องเขาไม่ได้ร้อน แต่ผมหันไปเห็นแล้วผมบังให้เขาก่อนดีกว่า เพราะแดดมันอยู่ฝั่งนี้แล้วนั่งตรงนี้พอดีด้วยสัญชาตญาณ แต่ก็อย่างที่บอกเราอยากเทคแคร์”
เขารู้ไหมว่าเราเจตนาบังแดดให้เขา?
“ผมว่าเขาก็รู้แหละ คือทุกคนร้อนหมด (หัวเราะ) แต่ของเขามีร่มกันให้อยู่ (ยิ้ม)”
เขาบอกอะไรเราบ้างตอนนั้น?
“ไม่ได้บอกอะไร คือไม่ได้คุยกัน ก็ไม่คิดด้วยว่าจะมีรูปนั้นออกมา เพราะอย่างที่บอกโมเมนต์นั้นเป็นโมเมนต์ที่พิเศษมาก ซึ่งคนรอบข้างแดดร้อน แต่เราก็โฟกัสที่พี่หมากกับคิม ร้องไห้ไปกับเขา ยิ้มแย้มดีใจไปกับเขา เลยไม่ได้โฟกัสว่า เอ๊ะ ตรงนี้ หรือไม่ได้หันไปดูว่าพี่อ๋าร้อนไหม ก็ต้องขอโทษด้วย (หัวเราะ)”
พอกลับมาแล้วเห็นรูปนั้นแล้วว่ายังไง?
“ตอนเห็นแล้วอ่านผมก็เออน่ารักดี (ยิ้ม)”
ได้เห็นหน้าพี่อ๋าในรูปไหม?
“เห็นครับ แต่พี่เขาก็สวยประมาณนี้อยู่แล้ว (ยิ้ม) เพราะฉะนั้นเห็นบ่อยแล้วครับ (หัวเราะ) ในเวลาเดียวกันเราออนกับคิม พี่หมาก เลยไม่ได้โฟกัสตรงนั้นว่าเขารู้สึกอะไร”
ได้เห็นโมเมนต์คลั่งรักที่ได้อยู่กับเขา?
“พอได้มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันมากขึ้นก็ค่อยๆ พัฒนาเริ่มรู้จักเขาในอีกสเตปหนึ่งมากขึ้น มันก็มีโมเมนต์ที่ไปตามสเตป วันแรกเราอาจจะแค่ 1 2 3 วันนี้ก็อาจจะ 4 5 6 ไป ก็เริ่มมีโมเมนต์อย่างที่เห็น ซึ่งมันเป็นธรรมชาติของผมและเขาอยู่แล้ว”
เขาบอกว่าเป็นผู้หญิงคนนึงที่โชคดี มีเราเทคแคร์ขนาดนี้?
“เขาพูดแบบนั้น หนึ่งก็ต้องขอบคุณเขาที่เขารู้สึกแบบนั้น ผมเองก็รู้สึกโชคดีเช่นกัน เพราะทั้งที่เขาอายุน้อยกว่าเรา เขาก็ยังเทคแคร์เราได้ เพราะมีบางมุมที่เขาโตกว่าเรา บางมุมที่เราโตกว่าเขา มันก็เลยเป็นเหมือนการเติมเต็มกันได้ดี”
เขาบอกเราเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตเขาเหมือนกัน?
“โห ขอบคุณครับ น้องก็เป็นสิ่งที่พิเศษและดีที่สุดในชีวิตผมเหมือนกัน (ยิ้ม)”
ต่อหน้าพูดอะไรกันแบบนี้ไหม?
“พูดๆ ครับ ก็คุยกันตลอดเวลาที่มีโอกาสได้เจอกัน จะบอกว่าพรหมลิขิตก็ได้ที่ทำให้เราได้เจอกันแล้วก็ซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน จะใช้คำนี้เรารู้สึกว่าเราดูแลและซัพพอร์ตกันในสิ่งที่เราไม่ได้มีมาก่อน”
...
ยิ่งรู้จักยิ่งรักไหม?
“ยิ่งรู้จักยิ่งรักครับ ใช่ๆ อันนี้ถูกต้องเลยครับ (ยิ้ม)”
ทำไมถึงรู้สึกว่าเขาคือพรหมลิขิตของเรา?
“เราไม่เคยตั้งไว้ว่าจะเจอใครตอนไหน ผมไม่เคยบอกว่าจะต้องเจอใครตอนนี้ ไม่เคยตามหา เพราะอย่างที่บอกด้วยความคิดของผมค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เมื่อไหร่จะเจอก็เจอเอง พอถึงเวลาที่ใครคนนั้นมาก็เลยรู้สึกว่า เหมือนชีวิตเรานำพาให้เขามาหาเราเอง”
แสดงว่าเราเชื่อในพรหมลิขิต?
“เชื่อๆ เพราะหลายๆ อย่างในชีวิต ไม่ต้องเป็นความรักบางทีจังหวะและเวลาชอบรังสรรค์ให้เราเจอสิ่งที่ดีที่สุด”
เราบอกว่าทุกอย่างเป็นลำดับขั้นตอนแล้วขั้นตอนต่อไปของเรากับเขาจะเป็นยังไง?
“ตอนนี้เราก็รู้จักกันให้เยอะขึ้นไปอีก แล้วก็เอ็นจอยสิ่งที่เรามีด้วยกันให้มีขึ้นไปอีกอนาคตจะเป็นยังไงเราก็ค่อยๆ วาดมันไปด้วย ตอนนี้ถ้าเป็นภาพวาดมันก็ยังไม่เสร็จก็ค่อยๆ วาดกันไปดีกว่า ยังไม่อยากนิยามอะไรมาก เพราะเหมือนเราเริ่มมีความรู้สึกแบบนี้ ไม่อยากนิยามเจอตอนนี้ตอนนั้นเราก็ค่อยๆ เดินทางไปด้วยจะไปถึงไหนก็ค่อยว่ากันอีกที”
...
หลายคนอิจฉาเขามาก มีเราแค่คนเดียว?
“ใช่ครับ (ยิ้ม) ผมว่าหลายคนก็อยากเป็นเราเหมือนกัน เพราะน้องเขาเป็นคนที่พิเศษมากๆ ขอบคุณคนที่ชื่นชมแล้วก็ชอบในโมเมนต์แบบนี้ของเราสองคน คือเป็นธรรมชาติของเราสองคนที่เชียร์และให้กำลังใจ (ยิ้ม)”
เรียกแฟนได้หรือยัง?
“เรียกตั้งนานแล้วครับ (หัวเราะ)”
แทนตัวเองกันว่ายังไงบ้าง?
“ก็เป็นน้องครับ ส่วนใหญ่เรียกเป็นภาษาอังกฤษแต่ไม่ได้มีคำน่ารักๆ (พายเรียกเราว่าไง?) พี่เจมส์ๆ”
เขาบอกว่าเราขี้อ้อน?
“ผมว่าทุกคนต้องมีอยู่แล้วครับ (ทำหน้าร้องไห้) เราขอร้องๆ เป็นอารมณ์แบบไม่ต้องใช้คำพูด ฮือๆ อะไรแบบนี้”
แล้วเขามีมุมอะไรที่เราไม่เคยเห็นบ้าง?
“สำหรับผมน่าจะเป็นมุมที่เทคแคร์และโต คือเรารู้สึกว่าเขาจัดแจงอะไรหลายๆ อย่างได้ดี อย่างที่ผ่านมาไปอิตาลีเขาก็จัดแจงเรื่องเดินทาง เรื่องสั่งอาหารอะไรแบบนี้ได้ดี บางอย่างดีกว่าเราด้วยซ้ำ คือความเป็นผู้ใหญ่ของเขาในบางมุมโตกว่าเราอีก ในการคุยในประสานอะไรเรารู้สึกว่าเขาอายุน้อยกว่าเรา เขาทำได้ดีกว่าเรา เรารู้สึกสบายว่ามีคนช่วยเราทำอะไรแบบนี้ (ยิ้ม)”.
...