เจอมรสุมชีวิตมาอย่างหนัก สำหรับ ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร ที่วูบหมดสติ หัวใจเต้นอ่อน จนต้องแอดมิตเข้าโรงพยาบาล อีกทั้งเพิ่งมารู้ว่า คุณแม่ป่วยเป็นมะเร็งตับ ทำให้ชีวิตตอนนี้ของ ไอซ์ เจอศึกหนักรอบทิศ ทั้งเรื่องถูกพักงานเพราะเจอข่าวไซยาไนด์ และคุณพ่อคุณแม่ป่วยอีกด้วย 

ล่าสุด ไอซ์ กับ คุณแม่บังอร ได้มาเปิดใจเล่ามรสุมของชีวิตที่เจอในตอนนี้ ซึ่งคุณแม่ก็ได้โทษตัวเอง ที่ทำให้ลูกสาวเหมือนนางฟ้าตกสวรรค์ จากชีวิตที่เคยมีทุกอย่าง แต่พลิกกลับกลายเป็นคนหมดตัว และเจอมรสุมไม่หยุด

มดดำ ถามตรงๆ ว่าตอนที่เข้ารพ.ในรอบล่าสุดคิดสั้นหรือไม่ ไอซ์เผยว่า "มันไม่หิว มันกินไม่ได้ มันนอนไม่หลับ มันหลายเรื่องบวกๆ กัน รวมๆ กัน"

แม่บังอร "จากคนมีงานทุกวัน มารู้ว่าแม่ไม่สบาย พ่อไม่สบาย เราก็เก็บความลับอยู่สองเดือน เพราะค่าใช้จ่ายไม่ไหวแล้ว ตึง มันเครียดด้วย แม่มีอาการเหนื่อยมาก อาเจียนไม่หยุด เราเป็นอะไร พอไปหาคุณหมอ ก็ปรากฏว่าตับแข็งเข้าสู่มะเร็งแล้ว"

แม่บังอร "วันนั้นแม่ล้มเข่าฉีก เอ็นฉีก ไปรพ. พ่อขับรถไป สักพักพ่อเรียกชื่อแม่แกก็หงายเลย แล้วเข้าไอซียู คุณหมอสวนหัวใจ ตัวเขียวหมดแล้ว คุณหมอบอกว่าคุณแม่ 50-50 นะ ตอนแรกจะไม่ตามไอซ์เพราะเขาถ่ายละครอยู่ แต่ก็ต้องรีบตาม เพราะหมอบอกว่าเอาไงดี 50-50 เลือดไม่เลี้ยงหัวใจ ตีบทุกเส้นหมด แต่เส้นที่ใส่ให้คุณพ่อ เส้นละ 5 แสนนะ เป็นของอเมริกา"

...

มดดำ พูดต่อว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นพร้อมกัน 2-3 เดือน ไม่ใช่ว่า ไอซ์ ไม่มีละคร ในขณะที่ข่าวไซยาไนด์กำลังดัง ปรากฏว่าตอนนั้นใครโดนคดีจะมีปัญหาเรื่องการถ่ายทำ ละครแคนเซิลหมดเลย ซึ่ง ไอซ์ ก็บอกว่า กลายเป็นคนว่างงานในเวลาแค่วันเดียว

ถามว่าอยากจะพูดอะไรมั้ย ในส่วนที่มีคนเข้าใจเราผิด แม่บังอร บอกว่า แม่อยากพูดในเรื่องการเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เล็ก ตอนเขาอายุน้อยๆ เขายังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ที่ครอบครัวเราล้มละลาย ที่กระเด็นไปอยู่เพชรบูรณ์ ความที่เป็นเด็ก กลางคืนได้ยินเสียงเสือร้อง บางทีเขาดูทีวีเห็นเคเอฟซีเขาอยากทาน ต้องขับรถไปในจังหวัดเพื่อให้เขาทาน ตอนอยู่โรงเรียน ห้องน้ำต่างจังหวัดเป็นส้วมนั่ง เขาต้องเอายาดมอุดจมูกเพราะเข้าไม่ได้

สุดท้ายเพื่อนก็ชวนเล่นขึ้นต้นไม้ กระโดดลงมาขาหัก แม่ก็เข้ากรุงเทพฯ อีก เอามาใส่เฝือก ปรากฏว่าใส่เฝือกก็นั่งส้วมไม่ได้ คุณพ่อต้องไปสร้างชักโครกให้ที่โรงเรียน โรงเรียนไม่มีฝาผนัง เขาเรียนอยู่ได้ไม่นาน พอ ม.ต้น แม่กับพ่อก็กลับมาที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง แล้วไปสมัครเรียนที่โรงเรียน ทุกคนก็แหย่ว่ามาจากโรงเรียนอะไร กม.35 เขาก็อาย โดนเพื่อนล้อ จนจบม.ปลาย จากนั้นก็ไปเข้าเอแบค มาฟื้นได้เพราะหนังเอทีเอ็ม แล้วอุบัติเหตุก็ทำให้ชีวิตมันเปลี่ยน

เมื่อถามว่าอยากระบายอะไรมั้ย ไอซ์ บอกว่า "หนูเป็นคนไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว ด้วยนิสัยส่วนตัว จะทำให้สุดก่อนจนกระทั่งไม่ไหวจริงๆ ทุกๆ เรื่องเลย หนูไม่พูดกับใคร แม่ไม่พูด หนูก็ไม่พูด พอมารู้ทีเดียวเหมือนระบบมันพังหมด ไม่รู้จะแก้ยังไง รับมือกับมันยังไง ในเวลาที่เข้ามาพร้อมกันทีเดียว หลังจากนี้แม่บอกว่าให้คุยค่ะ"

ถามว่าหลังจากนี้จะแก้ปัญหายังไง แม่บังอร บอกว่า บอกเขาว่าไม่ต้องห่วงแม่ พ่อถึงกับบอกว่าถ้าพ่อเป็นอะไรอีกครั้งนึง ไม่ต้องกู้นะ แกเป็นอะไรก็ไม่บอก ไม่อยากเป็นภาระให้ลูก รู้สึกโทษตัวเองตลอด ทั้งพ่อและแม่ด้วย นางเหมือนนางฟ้าตกสวรรค์ คืออย่างคนทั่วไปเขามุ่งมั่นทำมาหากิน แล้วเขาก็เติบโตเจริญใช่มั้ย แต่ของเรามันจากบนลงมาล่าง มันปรับยากมาก เกิดอะไรที่เรารับไม่ทันเลย ไม่รู้จะไปยังไงต่อชีวิต แต่ตอนที่ไอซ์เริ่มเข้าวงการ ตอนนั้นเขามีเงินช่วยให้ครอบครัวดีขึ้นเยอะ แต่การที่พ่อป่วย ทำให้เงินเก็บเขาหมดเลย 5 ล้านกว่า

มดดำถามว่า ก็ต้องเริ่มทำงานใหม่ งานกลับมารึยัง ไอซ์บอกว่า ยังค่ะ (หัวเราะ)

แม่บังอร "ขนาดโรงพยาบาลช่วยออฟเฟอร์ ให้ช่วยมีกิจกรรม โปรโมตโรงพยาบาล เขาลดให้ 5 แสน แต่ก็ยังเยอะอยู่"

...

แม่บังอร "พรุ่งนี้แม่ต้องแอดมิตแล้วค่ะ ถ้าแม่ไม่บอกเขาก็พยายามอดทน อยากอยู่กับเขา"

ไอซ์ "แม่ก็ไม่ยอมบอก พ่อก็ไม่บอก"

แม่บังอร "สุดท้ายเขียนมาหาแม่ยาวเลย ว่าพ่อกับแม่ไม่ได้เป็นภาระลูก ลูกมีหน้าที่ต้องดูแลพ่อแม่ยามแก่เฒ่าไม่สบาย เราต้องสู้ไปด้วยกัน ต้องผ่านพ้นไปให้ได้ (ร้องไห้) แม่ก็สงสารเขา อาจเป็นปมที่ทำให้เขาเหมือนมีซึมเศร้า เขาผ่านชีวิตวัยเด็กที่เคยรุ่งเรือง มีบ้าน มีรถ แต่มันหายไปหมด เขาไม่เข้าใจ อาจเป็นปมตอนนั้น ทำให้เขาเหมือนคนไม่พูด คนอาจมองว่าหยิ่ง แต่นางเป็นคนไม่ค่อยพูด"

ไอซ์ "(ร้องไห้)"

แม่ "แม่ก็ต้องสู้เพื่อลูกค่ะ (กอดลูกร้องไห้)".

คลิกเพื่ออ่าน “ข่าวบันเทิง” เพิ่มเติม

...