หลังจากที่ดาราสาว มะปราง อลิสา ขุนแขวง ออกมายอมรับว่าได้เลิกรากับนักแสดงหนุ่ม โอบ โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ หลังคบหาดูใจกันเข้าปีที่ 7 ปี

ล่าสุดวันนี้ (21 มิ.ย. 66) โอบ นิธิ และ มะปราง ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวความรักที่ไปต่อไม่ได้เป็นครั้งแรก พร้อมกัน ในงานเปิดตัวพรีเซนเตอร์ใหม่ น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยหนุ่ม โอบนิธิ ได้เผยสภาพจิตใจตอนนี้ว่า

“ก็น้ำหนักมีลงมาบ้าง ด้วยความที่ถ่ายละครด้วยปีที่แล้วจากประมาณ 69 ตอนนี้เหลือ 63 เพราะต้องถ่ายละครด้วยต้องฟิตหุ่นอยู่แบบนั้นมาตลอดเลย แต่น้ำหนักลดลงเพราะการทำงานอย่างเดียว มันไม่ถึงขั้นกินไม่ได้ เพราะทุกเช้าแม่ก็เอาข้าวมาให้ และแม่ก็จะบังคับให้กินให้หมด”

คือเรากินไม่ลงเองหรือว่ายังไง?
“ไม่ครับ เหมือนกับว่ากระเพาะเราหดลง เหมือนมันคงที่แบบนี้มาประมาณ 7-8 เดือนแล้ว”

เห็นเราลงรูปหุ่นในโซเชียลด้วย?
“ใช่ครับ เพราะว่าเราก็ถ่ายเก็บไว้นานแล้ว ก็ลดลงมาสักพักแล้วครับ เพราะว่าตอนนี้กางเกงก็ยังหลวมอยู่ ซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นความแปลกนิดนึง ตอนนั้นเค้าบอกให้เราลดลงมาหน่อย อย่างตอนนี้ทุกคนก็บอกให้เพิ่มขึ้นมาหน่อยเพราะว่าความบาลานซ์ไม่มีเลย ซึ่งมันก็โอเคทั้งสองอย่าง”

อย่างตอนที่แม่บังคับให้กินข้าวเพราะเป็นห่วงเรามากใช่ไหม?
“ใช่ เขาก็เป็นห่วงเรามาก เพราะปกติเค้าก็เอาข้าวมาให้ทุกเช้า แล้วก็เอาวิตามินมาให้เราด้วย ซึ่งจริงๆ แม่เค้าก็ทำอาหารมาตลอด 10 กว่าปีแล้ว คือตอนนี้ก็เชื่อว่าเพื่อนทุกคนจากคนที่ไม่เคยทักมา จากคนที่อยู่ไกลกันเค้าก็อยากให้กำลังใจเรา คือทุกคนก็มองว่ามันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเรา คือบางทีเราก็เห็นแล้วเราก็รับไว้ และเราก็บอกเขาว่าขอบคุณนะ”

...

คือตอนนี้เรามูฟออนได้แล้วใช่ไหม?
“ไปอยู่ครับ เราต้องไปได้แล้ว เราต้องเดินหน้าต่อได้แล้ว แข็งแรงพอที่จะเดินต่อได้แล้วครับ เธอแข็งแรงในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่เต็ม 100 เราก็ต้องใช้เวลานิดนึง รอบที่แล้วอาจจะเกินครึ่ง ตอนนี้มันเพิ่งผ่านมาไม่กี่วันเองเนาะ อาจจะประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ 10 เปอร์เซ็นต์ วันนี้เจอกันก็โอเคครับ เราก็ยังทำงานร่วมกันได้อย่างที่ทุกคนเห็นครับ”

โดนหลายคนโฟกัสการมาเจอกันครั้งแรกของเรา?
“ใช่ รู้สึกอยู่แล้วว่าจะต้องเป็นที่จับตามองแน่ๆ เลย แต่ว่าก็โอเคนะครับ หมายถึงว่าทุกเรื่องผ่านไปได้ด้วยดี ไม่ได้อึดอัด”

เห็นบอกว่าถ้ามาเจอกัน จะถือโอกาสขอโทษแทนพี่สาว?
“ใช่ วันนี้ยังไม่มีโอกาสเลย ยังไม่ได้คุยกัน คือมาถึงปุ๊บก็เรียกโอบไปแต่งหน้าเลย แล้วมาบรีฟงาน ขึ้นไปถ่ายรูปแล้วลงมาสแตนด์บาย ก็เลยยังไม่มีโอกาส ยังไม่ได้คุยกันเลยครับหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่ได้แชตหากันเลย”

ไม่ได้เจอกันแล้ว มีโอกาสยกหูโทรเคลียร์มั้ย?
“ค่อนข้างเกรงใจมากกว่า เราไม่รู้ว่าเขาทำอะไรอยู่หรือเปล่า หมายถึงว่าปกติในช่วงนั้นเราจะรู้ตารางเขา เราแค่กลัวไปรบกวนเขา (อยากคุยต่อหน้ามากกว่า?) ใช่ เรื่องมันค่อนข้างส่งผลกระทบต่อใครหลายๆ คน ก็เลยรู้สึกว่าอยากพูดต่อหน้ามากกว่า ไม่ได้อยากจะโทรศัพท์ไปหรือไลน์ไป (มะปรางบอกไม่ได้ติดใจ?) อ๋อ แต่ว่ามันต้องทำครับ เขาฝากมาแล้ว”

มะปรางบอกไม่กล้าคุยอะไรเยอะเหมือนกัน ไม่รู้ว่าโอบคิดอะไรอยู่?
“อ๋อ โอบไม่ได้คิดอะไรเลยครับ คือตอนนี้ในสมองโอบโอเค แบลงก์ครับ ยังเบลอๆ อยู่ครับ”

แต่คู่เรายังเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม?
“ใช่ครับ ยังเป็นเพื่อนกันได้ วันนี้เจอกันก็ทักทายกัน ไม่ได้ถึงขนาดไปลงดีเทลว่าเป็นยังไงบ้าง”

ตั้งใจจะพูดตอนอยู่กันแค่สองคน?
“ใช่ รู้สึกว่าพอเวลามีคนอื่นอยู่ด้วย จริงๆ แล้วมันเป็นคำของพี่เราฝากจากเรามาถึงเขา เราอยากจะให้มันโดยตรง ไม่ได้อยากจะให้มีคนหมู่มวลเยอะ ถ้ามันมีเวลาหรือมีโอกาสดีๆ”

ถ้าวันนี้ไม่เจอกันแล้วก็รอครั้งหน้าเลย?
“ก็ได้แต่บอกว่าอย่าเพิ่งกลับไปแล้วกันเนาะ(ยิ้ม)”

เรื่องหัวใจจะแบลงก์อีกนานมั้ย?
“ก็น่าจะสักพักใหญ่ๆ เลยครับ ตอนนี้ยังงงๆ เหมือนกัน มันยังคงไม่ชินแหละครับ ปกติเวลาว่างมันมีคนให้โทรหา มีคนให้ไปหา แต่วันนี้มันไม่มีมันก็เลยแบบโทรหาเพื่อนแทนแล้วกัน อยู่ไหนวะ บางคนก็ยุ่งอยู่ เราก็ไล่โทรหาทีละคน ช่วงแรกๆ มันจะยากหน่อย จัดการความรู้สึกตัวเองไม่ค่อยได้”

...

แฟนคลับก็น่ารักคอยมาให้กำลังใจ?
“ใช่ เขาคอยมาเต๊าะผมตลอดเลย ได้ เธอเต๊าะมา ฉันเต๊าะกลับนะ ฉันสู้นะ ฉันบอกก่อน(ยิ้ม)”.

ด้านสาว มะปราง อลิสา หลังได้ฟังคำสัมภาษณ์จาก โอบ ก่อนหน้านี้เจ้าตัวนั้นรู้สึกว่า

“ก็โอเคค่ะ ก็สบายใจขึ้น หนูว่าเขาก็คงคิดมาอย่างดีแล้วว่า จะตอบรูปแบบนั้นค่ะ จริงๆ แล้วเรามีไปทำงานด้วยกันมาแล้วด้วย และก็เจอกันหลายครั้งแล้วด้วยค่ะ"

คนเลยจับตามองคู่เราเป็นพิเศษ กดดันไหม ?
"นิดหนึ่งค่ะ วันนี้ค่อนข้างยุ่งก็เลยยังไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันเป็นพิเศษ จะคุยกันเรื่องบรีฟงานมากกว่า"

โมเมนต์เกร็งๆ บ้างไหม ?
"ไม่ค่ะ แต่เราก็ไม่รู้ว่าวันนี้เขาคิดอะไรอยู่ หนูคิดว่าเขาน่าจะโอเคแหละ มันก็ไม่ได้เพิ่งเลิกอะไรขนาดนั้น เราเลิกกันมาสักพักหนึ่งแล้วค่ะ ทำงานด้วยกันมาหลายๆ ครั้งแล้วเหมือนกันค่ะ ก็ยังสามารถมีงานร่วมกันอีกได้นะคะในอนาคต แต่ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ ถ้ามีก็ยังรับคู่กันได้ค่ะ แต่ต้องดูด้วยว่างานเป็นไปในรูปแบบไหน"

...

หลายคู่จะไม่สามารถถ่ายภาพคู่กันได้ แต่คู่เราสามารถถ่ายได้ ?
"ได้ค่ะ ทำไมถึงจะถ่ายไม่ได้"

จากเหตุการณ์ที่ทำให้เข้าใจผิดของพี่สาวเขา เรามีโอกาสได้คุยกันไหม ?
"ไม่ได้คุยค่ะ สุดท้ายแล้วเรามีคนที่รู้เรื่องราวว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่ได้มาพูดคุยอะไรกันค่ะ"

มันกระทบต่อสภาพจิตใจเราไหม จากที่เราทั้งคู่ตอบจบกันด้วยดี แต่คนเอาไปต่อความยาวสาวความยืดอีก ?
"เป็นเรื่องปกติค่ะที่คนจะเอามาปะติดปะต่อกันด้วยข้อมูลที่เขามีอยู่ ไม่ได้ว่าอะไรใครว่าใครจะคิดในรูปแบบไหน ณ วันนี้คือเราสองคนรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นในรูปแบบเพื่อนมากกว่า"

นอยด์บ้างไหม ?
"ถ้ามีข่าวที่รู้สึกว่ามันค่อนข้างแรง เราก็นอยด์ค่ะ"

ได้เห็นหรืออ่านข้อความบ้างไหม ?
"มีค่อนข้างเยอะนะคะ เราต้องทำใจยอมรับมากกว่าว่ามันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นบ้าง เราไม่สามารถควบคุมความคิดใครได้ค่ะ"

มีคอมเมนต์ไหนรู้สึกว่าแรงและมันเลยเถิดเกินไปบ้างไหม ?
"พอมันเกินไปมากๆ เราก็ไม่แน่ใจว่าเขาพูดถึงเราหรือเปล่า เอาแค่อ่านแต่อันที่ทำให้เรารู้สึกสบายใจดีกว่า"

...

มีแคปๆ เตรียมการไว้บ้างไหม ?
"ยังค่ะยัง ไม่อยากจะทำให้เป็นเรื่องเป็นราวเกิดขึ้นค่ะ"

ยังมีความไม่สบายใจอะไรอยู่ไหม ?
"ตอนนี้มันมีข้อมูลที่เยอะมากๆ แบบที่ปรางไม่สามารถควบคุมได้ แต่คนที่รู้จักเรา เพื่อนเรา คนที่สนิทกัน รวมถึงตัวเขาเอง ก็รู้อยู่แล้วดีที่สุดว่ามันเกิดอะไรขึ้น และเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันค่ะ"

ยืนยันว่าไม่ได้มีการคบซ้อน ?
"ไม่ค่ะ (ยิ้ม)"

ที่พี่สาวเขาโพสต์จนคนเข้าใจผิด ฝั่งเขาได้มีการเข้ามาขอโทษหรือยัง ?
"ยังค่ะ"

ส่วนตัวสนิทกับพี่สาวโอบไหม ?
"ตอนนั้นก็สนิทนะคะ ก็ยังไปงานรับปริญญาเขาที่ต่างประเทศ แต่ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น น่าจะมีเรื่องเข้าใจผิด หนูก็ไม่ได้คุยหรือพิมพ์ไปหาส่วนตัวด้วยค่ะ"

เราติดอะไรไหม ?
"ไม่ติดค่ะๆ เราเข้าใจว่ามันเป็นความคิดส่วนตัวพี่เขา ไม่เคือง ไม่โกรธเลยค่ะ เพราะทุกวันนี้มีสิ่งที่ต้องโฟกัสเยอะมาก เราต้องมีสมาธิและโฟกัสกับสิ่งตรงนั้น"

มีเรื่องมีราวให้ต้องมาเคลียร์ไม่จบซะที ?
"มันเป็นเรื่องปกติค่ะ จริงๆ แล้ว เพื่อนๆ คนไหนสงสัยอะไร โทรมาถามได้ ทุกคนจะเป็นห่วงเรามากกว่าว่าเราโอเคไหม เป็นห่วงจากข่าวที่ออกไป เราก็บอกว่าเราโอเค และเราแยกแยะได้ข่าวไหนจริง ไม่จริง เพจไหนมีเจตนาแบบไหน"

จัดการกับอารมณ์ตรงนี้ยังไง ?
"นอนไปเลยค่ะ คิดซะว่าพักผ่อน ตื่นมาก็เริ่มใหม่ค่ะ".