• 2 ปีกับชีวิตโลกภายนอกที่ได้อะไรมากมาย เดินหน้าตอบแทนสังคมต่อเนื่องตามที่ตั้งใจ
  • ยูทูบเบอร์หน้าใหม่ที่พร้อมเรียนรู้ คิดทุกอย่างเอง สนุกกับการทำงาน
  • เหตุผลที่กลับมาทำงานเพลงเดี่ยวอีกครั้ง ทำมีตติ้งคอนเสิร์ตในเดือนเกิดเพื่อแฟนๆ

เดินหน้าทำในสิ่งที่รักและยังคงตอบแทนเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง สำหรับนักร้องนักดนตรีหนุ่ม แพท วรยศ บุญทองนุ่ม หรือ แพท พาวเวอร์แพท ที่ในเวลานี้ออกจากเรือนจำมาได้ 2 ปีกว่าแล้ว นอกจากทำงานเพลงที่ทำเองแทบทุกขั้นตอน แพทยังมีโอกาสทำงานต่างๆ ทั้งการเป็นวิทยากรตามหน่วยงานต่างๆ ซึ่งเป็นความตั้งใจที่อยากตอบแทนสังคม รวมถึงการเป็นยูทูบเบอร์ แม้จะเป็นมือใหม่ แต่ก็พร้อมที่จะเรียนรู้ศึกษา เพื่อนำมาใช้ในการทำงานต่อเนื่อง

บันเทิงไทยรัฐออนไลน์มีโอกาสได้พูดคุยกับ แพท พาวเวอร์แพท ทั้งผลงานเพลงล่าสุด “คิดไม่ซื่อ” ที่เจ้าตัวลงมือทำเองทุกขั้นตอน รวมถึงการทำงานหลากหลายด้าน วันว่างของแพท ที่ล่าสุดกลายเป็นคนรักปลา ลงมือลงแรงทำบ่อปลาและดูแลด้วยตัวเอง และเรื่องหัวใจของแด๊ดดี้แพทที่ยังคงโสดสนิท

...

วิทยากรหนุ่มหล่อ

เราถามถึงเรื่องที่แพทไปเป็นวิทยากรตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งเป็นความตั้งใจของเจ้าตัวที่อยากตอบแทนสังคม ถามว่าไปบรรยายเรื่องอะไรบ้าง แพทบอกว่า “มีหลายอย่างมากๆ ครับ มีทั้งแง่มุมเรื่องยาเสพติด ให้ข้อคิดกับชีวิต ให้แรงบันดาลใจ ให้คนเห็นคุณค่าในตัวเอง ไม่กลัวการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ อย่างที่ผมไปของ มศว ประสานมิตร เป็นนิสิตที่จบ แล้วเขากำลังจะออกจากรั้วมหาวิทยาลัยไปทำงานเจอชีวิตจริง

ก็ไปพูดให้กำลังใจในการปรับตัวเข้าไปอยู่ในสังคมการทำงานจริงๆ ว่าเราคงไม่ได้เจอทุกอย่างที่เราชอบ ความอดทนอดกลั้นต่อสิ่งที่เราจะต้องเจอ ให้มันผ่านพ้นไปได้ ทำให้งานเดินไปได้ ชีวิตเราเดินต่อไปได้ เราก็หยิบยกตัวอย่างชีวิตของเราที่ผ่านมา แม้จะเป็นชีวิตที่อยู่ในเรือนจำ แต่มันมีแง่มุมบางอย่างที่สามารถปรับใช้ในชีวิตจริงได้ เช่น การอดทน การอยู่ร่วมกับคนหมู่มากที่ผมผ่านมา อยู่ในเรือนจำกับคนเป็นพัน ต่างคนต่างที่มา ต่างอาชีพ ความรู้ ประสบการณ์ชีวิต พออยู่ร่วมกันแล้วใช้ชีวิตยังไง ประคองให้อยู่รอดไปด้วยกัน

เหมือนคนเข้าไปทำงานที่ใหม่ มีเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน รุ่นพี่ที่ทำงาน เราต้องใช้ชีวิต ทำงานร่วมกับเขา ประคองชีวิตยังไงให้อยู่รอด ให้เขาอดทนกับสิ่งที่ต้องเจอ ยอมรับความแตกต่างของคนในแต่ละประเภทได้ ให้งานเดินไปได้ เป็นการเปรียบเทียบชีวิตของเราให้เขาไปปรับใช้ในชีวิตจริงที่เขาจะเจอ มันมีหลายแง่มุมมากที่ไปคุย แต่ละงานที่ไป ผมประทับใจทุกงาน มันเป็นเจตนารมณ์ของเราตั้งแต่แรก บางทีเราได้ชี้จุดบางอย่างที่เขาอาจลืมนึกไป

ผมเชื่อว่ามากน้อยเขาก็จะได้ประโยชน์จากเรื่องราวของผมครับ และทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้น มันก็คือความภูมิใจอย่างสุดยอดของเราอยู่แล้วครับ แต่เราก็ไม่ได้ไปบอกว่าเขาต้องทำแบบนี้หรือไปสอนเขา ให้เขาเรียนรู้จากชีวิตของเรา ในแต่ละครั้งก็จะมีน้องๆ มีคำถามมาถามเราเรื่อยๆ เพราะผมไปหลากหลายมากๆ ถ้าเป็นโรงเรียนก็ตั้งแต่ ป.4 ก็มีไล่ไปจนปริญญาโท ในส่วนภาครัฐและเอกชนก็มีตามหน่วยงานต่างๆ ธนาคาร โรงงาน

ที่ผ่านมาก็มีไปนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร เขาเชิญเราไปพูดกับพนักงานเขาให้เห็นถึงพิษภัยยาเสพติด ให้เขาอดทนสู้กับปัญหาเรื่องการทำงาน เราต้องยอมรับว่าคนสมัยนี้ต้องการกำลังใจมาก เพราะมันมีความเครียด ชีวิตมันไม่ได้ง่ายเหมือนเมื่อก่อน ทำมาหากินลำบากกว่าเดิมเยอะครับ เหมือนรายการที่ผมทำก็เกี่ยวกับเรื่องอาชีพ บางคนไปเจอแง่มุมบางอย่าง จับจุดความชอบของตัวเองแล้วก็เป็นอาชีพได้ เลยเป็นรายการที่ผมทำร่วมกับ Zense Entertainment ครับ คือรายการ PAT Share Passion ครับ”

ก้าวสู่ยูทูบเบอร์

เราถามถึงการทำรายการในยูทูบ “PAT Share Passion” ในยูทูบ Zense Entertainment ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เขาบอกว่า “สนุกมากๆ เลย รู้สึกว่าเป็นอะไรที่ได้ประโยชน์กับคนดูมากๆ ก็ต้องขอบคุณทาง Zense Entertainment ที่เขาให้โอกาส ตอนที่เขาติดต่อว่าอยากทำรายการให้ แล้วให้เราคิดทุกอย่างเอง เราก็ดีใจมาก เขาแค่เอาทีมมาช่วยเสริมให้ความคิดของเรามันเกิดขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นชื่อรายการ คอนเซปต์รายการ คือคิดเองหมดเลย ทางทีมงานก็จะไปช่วยเสิร์ชหาอาชีพแปลกๆ ที่คนอาจคิดไม่ถึงว่าสร้างรายได้ได้จริง ก็ทยอยถ่ายไปเรื่อยๆ ครับ ก็เป็นไอเดียใหม่ๆ ให้กับคนที่มองหาอาชีพใหม่ๆ บางคนอาจจะรู้สึกตัน ไม่รู้จะทำมาหากินอะไร ลองคุยกับตัวเองดูว่าเราชอบ รักสิ่งไหน เราอาจเจอบางจุดที่สามารถหยิบยกมาเป็นอาชีพใหม่ มันอาจพลิกชีวิตเราก็ได้ครับ”

...

ส่วนยูทูบแชนแนลของแพท นอกจากจะมีเพลงของตัวเอง ยังมีรายการด้วย ซึ่งแพทเล่าว่า “ที่ทำอยู่ก็เป็นรายการ “DADDY D-DAYS” ครับ พาไปกินไปเที่ยวครับ ส่วนใหญ่เป็นที่เราสนใจ สนุกดี ก็ไปกับเจี๊ยบ พาวเวอร์แพท เขาจะคอยถ่าย ผมก็อยู่หน้ากล้อง ตัดต่อ ถามว่าแรกๆ เกร็งไหม ก็มีบ้างครับ เรามันไม่เคยครับ แต่หลังๆ ก็ชินแล้ว เพราะทีมงานก็ชินกันหมด มันรู้จักสนิทกันหมด เป็นความสนใจของเราอยู่แล้ว

เพราะฉะนั้นมันก็ไม่ได้ยากมาก ทำเอง ตัดต่อเอง มันไม่เหมือนกับที่เราทำกับทีมงานมืออาชีพอย่าง Zense Entertainment เราก็ไปเรียนรู้กับเขา แล้วมาปรับใช้กับช่องของเราด้วย แต่หลังๆ เวลาถ่ายรายการก็จะน้อยหน่อย เพราะทำงานเยอะมากๆ ครับ”

วันว่างของแพท

งานแน่นขนาดนี้ ถามว่าแบ่งเวลาให้ตัวเองและครอบครัวยังไง แพทบอกว่า “ก็พยายามจะบาลานซ์เรื่องการให้เวลากับครอบครัวด้วย ก็ต้องล็อกคิวกันเลยครับ บางทีต้องบอกคุณผู้จัดการว่าวันนี้หยุดนะ ให้เวลากับครอบครัว เสาร์อาทิตย์ขอหยุด ถ้าไม่ได้จริงๆ ทำวันเสาร์หยุดอาทิตย์ก็ยังดี ไม่งั้นบาลานซ์ชีวิตไม่ดีก็แย่เหมือนกัน

...

พอกลับมาอยู่กับครอบครัว มันก็มีความสุขมากๆ ได้ดูแลเขา ได้เห็นรอยยิ้ม ได้คุยเล่นกับเขา ได้พาเขาไปหาหมอเวลาเขาป่วย เป็นหน้าที่ของลูกที่เราได้ชดเชย เราก็ไม่เคยได้ทำอะไรพวกนี้มาตั้งแต่เด็กๆ ยันโต จนเข้าไปใช้ชีวิตข้างในและออกมา เราก็ใช้โอกาสนี้ที่เขายังอยู่ก็ทำให้เต็มที่ เพราะเขาอายุมากขึ้น แก่ขึ้นทุกวัน วันนึงอาจจะต้องลาจากกันไป อย่าให้ต้องนั่งเสียดายในวันที่เขาจากไป ในวันนี้อยู่ด้วยกันก็ทำให้ดีที่สุด”

เราถามถึงเรื่องที่แฟนคลับลงรูปแพททำบ่อเลี้ยงปลา แพทบอกว่า “อ๋อ มันก็เป็นกิจกรรมนึง คือจริงๆ แล้วเป็นคนชอบปลามาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ตอนหลังทำบริษัทไง แล้วเริ่มจากฮวงจุ้ย เขาบอกว่าต้องมีน้ำตก น้ำพุ มีปลาคาร์ป ก็ซื้อปลาธรรมดาราคาหลักร้อยมาเลี้ยง เราก็รู้สึกว่าพอเลี้ยงไปมันน่ารัก ผูกพัน ก็เลยเริ่มศึกษาเรื่องปลาอย่างจริงจัง เริ่มพัฒนาสายพันธุ์ที่เลี้ยง ก็ซื้อมาเพิ่ม

ตอนหลังจากแค่เสริมฮวงจุ้ยก็เลี้ยงจริงจัง ก็ทำบ่อแบบจริงจังเลย แล้วก็หาปลาคาร์ปพันธุ์นอกมาจากญี่ปุ่นเลี้ยงกันจริงจัง อันนี้ก็จะไปหาเพิ่มอีกนะเนี่ย เพราะบ่อมันใหญ่ไง จะได้แน่นๆ หน่อย ตอนนี้มีปลา 15 ตัว เดี๋ยวจะให้เป็น 19 ตัว (ยิ้ม) มันน่ารักมากเลยนะครับ ถามว่ามีปลาชนิดไหนที่ชอบเป็นพิเศษไหม ไม่มีครับ ขอให้เป็นปลาคาร์ป ผมว่าน่ารักหมดเลย

...

เพราะปลาคาร์ปมันเยอะแยะหลากหลายรูปแบบลวดลาย หลายสีหลายสายพันธุ์มากๆ ถ้าศึกษากันจริงๆ ก็ไม่หมด รายละเอียดมันเยอะมาก เทคนิคการเลี้ยง ระบบบ่อ การดูแลรักษาเขาเป็นอีกศาสตร์นึงที่ต้องศึกษา มันมีรายละเอียดเยอะมาก และสนุกด้วยเวลาเห็นเขาโต ก็พยายามแบ่งเวลา ตื่นเช้ามาถ้าไม่มีงานเช้าก็ต้องมาดูแลแล้ว ต้องศึกษานิสัยใจคอปลาแต่ละตัวด้วย แต่ก็ไม่คิดจะทำเป็นอาชีพหรอกครับ แค่เลี้ยงเป็นความสุขภายในครอบครัว เวลาพักผ่อนคลายเครียด สร้างพื้นที่เวลาเรานั่งคิดงานพักสมองแค่นั้นเองครับ”

มีเวลาให้ครอบครัว แล้วมีเวลาให้เรื่องหัวใจไหม แพทรีบบอกว่า “ก็ยังไม่ได้มีครับ (ยิ้ม) อย่างที่บอกว่าผมไม่มีเวลาส่วนตัวพักผ่อนแบบจริงๆ จังๆ ทุกวันนี้ทำงานและดูแลครอบครัว ในเรื่องภาระหน้าที่ของเรามันเติบโตขึ้น มันมีอะไรหลายมิติมากขึ้น ก็เลยไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย ทุกวันนี้ก็แฮปปี้และมีความสุขกับทุกอย่าง ไม่ได้ปิดอะไรครับ ยุ่งมากจริงๆ ครับ

เรื่องสเปก จริงๆ แล้วผมไม่ได้ฟิกซ์สเปกชัดเจนตายตัวนะครับ ผมว่าผู้หญิงแต่ละคนก็มีเสน่ห์ ความน่ารักแตกต่างกันไป มันต้องคุยต้องเจอ พื้นฐานขอให้เป็นคนดี จิตใจดี นิสัยดี และเข้าใจความเป็นเราแค่นั้นก็พอแล้ว ถามว่ามีคนเข้ามาทำความรู้จักไหม ไม่มีเลยครับ ไม่ได้คุยกับใครเลย (หัวเราะ) ทุกวันนี้สนุกกับงาน การเลี้ยงปลา เฉพาะเลี้ยงปลาก็ไม่มีเวลาแล้ว” ถามว่าเป็นคนโลกส่วนตัวสูงไหม แพทบอกว่า “ใช่ๆ เป็นมาตั้งนานแล้วครับ เวลาที่เราพอจะหาเวลาว่างได้ ก็อยากอยู่เงียบๆ สงบๆ อยู่กับตัวเอง พักสมองมากกว่า”

ชีวิตในโลกความเป็นจริง

เราถามว่าหลังจากออกจากเรือนจำมาอยู่โลกภายนอกมา 2 ปีว่าเป็นยังไง เขาบอกว่า “ออกมา 2 ปีกว่า ก็ได้ทำอะไรเยอะมากๆ เลยครับ มีอะไรเยอะแยะมากๆ เข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นงาน ผู้คน สังคม การเรียนรู้ของเราด้วย มันหลากหลายมิติมากๆ รู้สึกว่ามันเปลี่ยนให้เราโตขึ้นเรื่อยๆ จากช่วงวัยรุ่นที่หายไปเลย พอโผล่มาอีกทีก็มีหน้าที่การงาน ความรับผิดชอบ ต้องดูแลคุณพ่อคุณแม่ หารายได้ แล้วก็รับผิดชอบเรื่องความรู้สึกของแฟนๆ ดูแลเขาด้วย มีงานที่เราอยากทำเพื่อสังคมด้วย

เราก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น มีภาระหน้าที่ที่มันใหญ่โตเหมือนกันสำหรับเรา ถ้ามองย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ มันเปลี่ยนไปมากเลย ก่อนหน้านี้เหมือนตัดขาดโลกชีวิตจริงไปเลย ไปอยู่ในที่ที่มันนิ่งทุกอย่าง ชีวิตประจำวันเหมือนกันแทบทุกวัน เทคโนโลยีไม่ได้รู้จัก โลกภายนอกมันเปลี่ยนแปลงไปไวมาก เป็นยุคโซเชียล มันต้องปรับตัวเรียนรู้ ก็พยายามเรียนรู้ให้ได้มากที่สุดแหละ

เนื่องด้วยเป็นคนที่ชอบศึกษาหาความรู้ สนุกกับการที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ อยู่แล้ว ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแต่ว่ารู้สึกว่าหลายอย่างมันซับซ้อน หลายอย่างมันต้องใช้เวลามากกว่านี้ ยอมรับว่ายังศึกษาอะไรได้ไม่เท่าไรครับ ก็พยายามอยู่ทั้งเรื่องเทคโนโลยีต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน ก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างเร็ว แต่โชคดีได้พี่เลี้ยงที่ดีคอยเป็นแบ็กอัปด้วยคือครอบครัว แล้วก็เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ช่วยกันดูแลตรงนี้ ก็ถือว่าไม่ได้ยากเย็นจนเกินไป พยายามปรับตัวครับ”

เมื่อให้รีวิวชีวิตของแพท เจ้าตัวบอกว่า “ถ้าเอาจริงๆ นะ แฟนคลับก็จะรู้ ก่อนที่ผมเป็นนักร้อง ผมเป็นมือกีตาร์อยู่วง 11 RD ถ้านับการเข้าวงการจริงๆ ก็ต้องนับตั้งแต่ตอนนั้น ตอนนั้นอายุ 15 ปีนี้อายุ 43 (หัวเราะชอบใจ) นับยากมากเลย เกือบ 30 ปีแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังร้องเพลง เล่นดนตรีอยู่เหมือนเดิม เป็นการเติบโตเนอะ ผ่านทั้งเรื่องดีเรื่องร้าย มันก็หล่อหลอมให้เราเป็นเราทุกวันนี้แหละ ทำให้เราตกผลึก มีชุดความคิด เติบโตตามประสบการณ์ที่ผ่านมาจนเป็นเราทุกวันนี้ครับ

สิ่งที่ได้เหรอ โห...มันเยอะมากเลย ชีวิตคือการเรียนรู้ คนเรามันไม่มีใครรู้ทุกเรื่อง ไม่มีใครที่ดีในทุกอย่าง ถ้าเป็นไปได้ก็พยายามทำสิ่งที่ดี ชีวิตมันจะได้ไม่ผิดพลาด จะได้เดินไปในทางที่ควร จะได้ไม่เสียเวลาเสียโอกาส เป็นการทำร้ายตัวเอง รักตัวเองมากๆ เลือกสิ่งที่ดีและถูกต้องให้กับตัวเอง ผลพวงที่ได้มันไม่ได้ดีแค่ตัวเอง ทำให้คนรอบข้างมีความสุข สังคมก็จะดีขึ้นด้วยครับ”

ส่วนสเตปต่อไปในชีวิต แพทบอกว่าก็ทำงานไปเรื่อยๆ พยายามรักษาคุณภาพของงานตัวเอง ทุกวันนี้ทำงานหลากหลายมิติมาก ทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง ถ้าเป็นไปได้อาจจะซื้อบ้านให้คุณพ่ออยู่ ทำเป็นเหมือนห้องอัดห้องซ้อมที่นั่น คือทำงานจบครบที่เดียว ให้มาดูแลกันใกล้ๆ เวลาเจ็บป่วยหาหมอจะได้ดูแลคุณพ่อได้ เพราะทุกวันนี้อยู่กับคุณแม่ ถามว่าตั้งงบไว้ไหม เจ้าตัวบอกว่ายังไม่ขนาดนั้น แล้วแต่จังหวะและโอกาส เรื่องงานแสดง แพทบอกว่า “จริงๆ งานแสดงผมไม่ได้ปิดเลยนะครับ ก็มีติดต่อมาเรื่อยๆ แต่มันอาจจะจังหวะหลายอย่างยังไม่ลงตัว ในเรื่องเวลาหรืออะไรต่างๆ ที่ผ่านมาคุยมาเยอะทั้งหนังและละคร แต่จังหวะไม่ลงตัวแค่นั้นเองครับ”

คิดไม่ซื่อ

แพทเล่าถึงซิงเกิลใหม่ล่าสุด “คิดไม่ซื่อ” ว่าทำเองทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นคอนเซปต์เพลง แต่งเพลง งานดนตรี รวมถึงคิดคอนเซปต์มิวสิกวิดีโอ การถ่าย ตัดต่อ ช่วยกันอยู่ในบริษัทเล็กๆ ของตัวเอง รู้สึกสนุกมากๆ ที่ได้ทำเองหมด ลงทุนเองด้วย โดยมีเจี๊ยบ พาวเวอร์แพท มือกลอง มาช่วยงานด้วย เป็นผลงานอีกชิ้นที่ภาคภูมิใจ เปลี่ยนแนวเพลงจากป๊อปร็อก ทำเพลงให้ฟังง่ายขึ้น สอดแทรกความน่ารักในเนื้อหาของเพลงเป็นแนวแอบรักเพื่อน

“เริ่มต้นจากการคุยกับเจี๊ยบทั้งเรื่องแนวเพลง คุยกับวัยรุ่นก็คือหลานชาย เรื่องเพลงยุคสมัยนี้ เขาบอกว่าต้องเป็นเพลงรักสิ เราก็คิดว่าถ้าเป็นเพลงรักนี่แบบไหนจะดูน่ารัก สดใสหน่อย เลยคิดว่าน่าจะเป็นช่วง ม.ปลาย น่าจะเคยซึมซับบรรยากาศเริ่มมีความรัก เรียนรู้เพศตรงข้าม ปั๊บปี้เลิฟสดใสสดชื่น เป็นช่วงเวลาที่น่ารักดี เลยหยิบมาเป็นเพลง “คิดไม่ซื่อ” ครับ

อย่างเอ็มวีก็เรียลมากๆ คือกลุ่มเพื่อนของหลานเขาไปเที่ยวกันในช่วงปิดเทอม แล้วเขาเลือกไปสวนสนุก เราก็ เอ๊ย ดูมีอะไรน่าสนใจ ก็คุยกับเจี๊ยบและทีมงานว่าเดี๋ยวเราไปเก็บภาพแคนดิดเลย ใช้กล้องโทรศัพท์มือถือเลย แล้วผ่านแอปพลิเคชันแปลงให้มันเป็นฟีลยุค 80 เหมือนเราดูม้วนวิดีโอ VHS เหมือน Handy Cam สมัยก่อนเลย เป็นแคนดิดแอบถ่าย

แล้วเราก็ลองหยิบแต่ละช่วงมาร้อยเป็นเรื่องเป็นราว ตอนแรกก็กังวลว่าจะเป็นไปอย่างใจเราคิดได้ไหม เพราะเราไม่รู้ว่าน้องๆ แต่ละคนจะเล่นได้ไหม จะออกมาเวิร์กไหม แต่สุดท้ายมันดีเกินคาด เพราะน้องๆ มีความเป็นธรรมชาติมาก มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูงมากในแต่ละคน ถ่ายทอดเนื้อหาออกมาได้ดีมากๆ ครับ ก็ตัดต่อเองด้วย ออกมาเป็นอย่างที่เราต้องการแทบทั้งสิ้นเลย”

แพทบอกว่าตอนที่ทำเพลงนี้ตั้งใจจะย้อนไปในยุค 80 คือตั้งต้นจากแนวเพลงก่อน ที่ผ่านมาฟังเพลงค่อนข้างเยอะ มีศิลปินหลายท่านที่ติดตามแล้วหยิบยกยุค 80 มาทำใหม่ พอเราฟังก็นึกถึงสมัยช่วงที่เรายังเด็ก คุณพ่อชอบฟังเพลงมากในยุคนั้นพอดี “ผมเกิดในปี 80 เป๊ะเลย แล้วผมโตมากับเพลง 80 ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงสากล ซึ่งคุณพ่อฟัง ในยุคนี้มีการหยิบยกซาวนด์ยุคก่อนกลับมาทำเยอะมากๆ ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ดี เพราะว่าเราซึมซับแนวดนตรีแบบนี้มาบ้างและชอบด้วย

ก็เลยลองคุยกับเจี๊ยบ เจี๊ยบก็โอเค เป็นการพัฒนา ลองปรับแนวเพลงใหม่ดู เป็นอะไรที่ออกมาแล้วตรงใจ ที่ผ่านมาอยู่กับดนตรีหลายแนว มาเป็นดีเจพวกเพลง EDM ช่วงวัยรุ่นก็เคยเล่น turntable เปิดแผ่น พอออกมาก็กลับมารื้อฟื้น พัฒนาอุปกรณ์ดีเจที่เปิดในปัจจุบัน ลองทำในระยะหนึ่ง จริงๆ ผมซึมซับดนตรีมาหลายแนวครับ

ดนตรี 80 ที่เรียกว่า City Pop ก็ได้ทดลองทำบ้างแล้ว แต่ไม่ได้โปรโมตอะไร คือเป็นงานเดี่ยวเหมือนกัน ชื่อเพลงว่า “The Last” ก็ปล่อยในยูทูบ ตอนนั้นไปเที่ยวกับครอบครัวแล้วเกิดแรงบันดาลใจว่าน่าจะมีเพลงที่พูดถึงสัจธรรมชีวิตสักเพลง แต่เป็นดนตรีที่มีกลิ่นอายที่เราชอบ ก็เลยทำขึ้นมาเพลงนึง มีฟีลลิ่ง 80 อยู่ ก็ทดลองมาแล้ว 1 ชิ้น ก่อนจะมาทำเพลง “คิดไม่ซื่อ” ครับ”

ถามว่าเพลง “คิดไม่ซื่อ” ฟีดแบ็กเป็นยังไง แพทบอกว่า “ก็ดีครับ ส่วนใหญ่เขาก็คิดถึง ตรงกับเมสเสจที่เราสื่อสาร คือต้องการกระตุ้นให้เขานึกย้อนในช่วงวันวานวัยขาสั้น ช่วงอายุ 10 ต้นๆ เราก็ทำกิจกรรมกับแฟนคลับว่าให้ส่งรูปในช่วงที่เคยใช้เวลานั้นกับเพื่อนๆ ถ่ายทอดเล่าเรื่องราวความประทับใจช่วงเวลานั้น และมีแจก 5 รางวัล ซึ่งหลายคนมีรูปน่ารักๆ ความทรงจำที่เขาประทับใจ เป็นสิ่งดีๆ ที่เราชวนกันนึกย้อนกันไปครับ”

ทำงานเพลงเดี่ยว

เมื่อถามว่าทำไมพักหลังถึงมาทำงานเพลงเดี่ยว แพทบอกว่า “คือจริงๆ ช่วงที่ผมออกมาเป็นยุคโควิด เพื่อนๆ สมาชิกเดิมไม่สะดวกกลับไปทำงานที่เขามาทำก่อนหน้านี้ เขาก็ว่างที่จะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เป็นการรวมตัวเฉพาะกิจมากกว่า เพราะจริงๆ วงพาวเวอร์แพทได้ทำการแยกย้ายก่อนที่ผมเข้าไปแล้ว แล้วผมออกอัลบั้มเดี่ยวก่อนที่จะเข้าไป พอออกมาแล้วเพื่อนว่าง เลยกลับมาทำงานด้วยกัน

หลังจากเวลาผ่านไปแล้วสถานการณ์ดีขึ้น สามารถทำอะไรได้ ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง เขาก็ต้องกลับไปรับผิดชอบหน้าที่เดิมของเขาที่เขาได้หยุดพักไป ก็จะมีแต่เจี๊ยบที่เขาลาออกจากการเป็นครูสอนกลองมาเลย ก็เลยมีเวลามาช่วยผมอย่างเต็มตัว พอทำงานสองคนก็ไม่เหงาหรอกครับ เพราะมีพันธมิตร มีทีมงานที่ซัพพอร์ตในส่วนที่เราอาจจะต้องการความช่วยเหลือหรือไม่เข้าใจ ส่วนเพื่อนๆ ในวงคนอื่นๆ เขาก็ยุ่งๆ กัน เขามีภาระหน้าที่รับผิดชอบ”

ถามว่าการทำเพลงในตอนนี้ทำเพื่อความสุขของตัวเอง ไม่ได้หวังยอดวิวหรือกระแสอะไรมากมายใช่ไหม แพทบอกว่า “ใช่ๆ คือจริงๆ แค่ผลงานออกมาตรงตามที่เราตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก มันมีความสุขมากแล้ว ส่วนจะได้รับความนิยมขนาดไหน ถ้ามาก ยอดวิวสูงมันก็ดี เราก็แฮปปี้ แต่จริงๆ แล้วผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากครับ เราทำด้วยความสุข ด้วยใจรักจริงๆ อยากให้แฟนๆ ได้เห็นอะไรใหม่ๆ ได้นำเสนอในแง่มุมที่เราอิน ณ ช่วงเวลานั้นๆ จริงๆ ในอนาคตแนวเพลงอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ ไม่ได้ฟิกซ์ตัวเองไว้อย่างนั้น เพราะงานศิลปะเป็นเรื่องของช่วงเวลานึงว่าเรากำลังอินกับอะไร อยากจะเสนออะไรมากกว่าครับ”

ถามว่างานต่อไปมีคิดหรือยังว่าเป็นแนวไหน แพทบอกว่า “ยังไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้นนะครับ ค่อยๆ ไปทีละสเตปก่อนครับ ถามว่าดูติดใจกับยุค 80-90 เพลงหน้าจะมาทำอีกไหม ก็ไม่แน่เหมือนกัน แต่ตอนนี้ขอคิดทีละสเตปไปก่อน ตอนนี้ผมทำงานหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นงานเพลง ทำรายการด้วย ทำช่องยูทูบอีกต่างหาก งานวิทยากรเดินสาย งานพรีเซนเตอร์อีก ทำเยอะมากครับ ช่วงนี้ประดังเข้ามาทุกงาน เดี๋ยวค่อยๆ คิดว่าซิงเกิลหน้าจะยังไง ค่อยว่ากันครับ ถามว่าอยากลองทำแนว EDM ไหม ก็ไม่แน่ครับ (หัวเราะ)”

เรื่องเกณฑ์การรับงาน แพทบอกว่าจริงๆ ไม่ได้มีเกณฑ์ตายตัว ถ้ามีเวลาและงานน่าสนใจก็ไปหมด เรื่องรายได้ไม่ใช่หลักใหญ่ อย่างงานวิทยากรเป็นความตั้งใจของเราตั้งแต่แรกอยู่แล้วในการที่จะสร้างประโยชน์ให้กับสังคม หลังจากที่เราได้ออกมา เราก็อยากตอบแทนกลับคืนไปด้วยความรู้ความสามารถที่เรามี ในแง่มุมชีวิตที่เราคิดว่าเราถ่ายทอดแล้วจะเกิดประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ เยาวชน สังคม ถ้าเวลาตรงกัน หลายอย่างลงตัว ผมไปหมดแหละครับ”

มีตติ้งคอนเสิร์ตเพื่อแฟนๆ

เมื่อพูดถึงแฟนๆ ที่ติดตามผลงานมานานนับ 20 ปี แพทบอกว่า “เขาก็ยังน่ารัก สนับสนุนและดูแลกันตามที่เขามีกำลัง เพราะว่าหลายคนก็มีครอบครัว มีลูก อาจตามไปทุกที่ไม่ได้ แต่ก็ส่งใจมาตลอด เรามีไลน์ openchat ก็พูดคุยสนุกสนาน แฟนๆ ทุกคนน่ารัก เวลามีงานคอนเสิร์ตที่ไหนยังไง ก็จะตามให้กำลังใจ ส่งของมาที่บ้านบ้าง บริษัทบ้าง ไปเจอกันตามงานบ้าง แล้วมีดอกไม้ของขวัญให้ แต่จริงๆ ผมไม่ได้ต้องการอะไรขนาดนั้นหรอกครับ แค่คอยให้กำลังใจกัน ถามไถ่กันก็มีความสุขแล้ว”

ถามว่าวันเกิดปีนี้ (2 มิ.ย. 2566) มีอะไรที่ตั้งใจทำร่วมกับแฟนๆ ไหม แพทบอกว่า “จริงๆ แล้วเราจะมีมีตติ้งคอนเสิร์ตในเดือนเกิดอยู่แล้วนะครับ ผมเกิดวันที่ 2 มิ.ย. งานจัดวันที่ 10 มิ.ย. ก็จะเป็นมีตติ้งคอนเสิร์ตชื่อว่า Pat Powerpat Meeting Concert 2023 ก็จะเป็นการรวมความสามารถของผม จะมีศิลปะ ดนตรี ดีเจ อยู่ในงานนั้น

ศิลปะจะมีผลงานภาพเขียน 22 ภาพ ที่ผมคัดมาซึ่งผมหวงเลย ทุกชิ้นจะเป็นชิ้นที่วาดในเรือนจำทั้งสิ้น หลายๆ ชิ้นไม่เคยโชว์ที่ไหน ได้เห็นตัวจริงในวันงานเลย ในพาร์ตดนตรีจะเป็นเพลงเก่าๆ ตั้งแต่ยุคสมัยแกรมมี่ ชุด 2-3 ที่อาจไม่เคยหยิบมาร้องที่ไหน ก็จะได้ฟังครั้งแรกที่นั่น และมีแขกรับเชิญคือ คุณบอย พิษณุ ที่เป็นเพื่อน มามอบความสุขตอนร้องเพลง จะมีพาร์ตดีเจในช่วงท้ายด้วย ให้ทุกคนแดนซ์สนุกสนานกัน และมีถ่ายรูปร่วมกัน แจกลายเซ็น ของที่ระลึกก็มีแจกทุกที่นั่งเช่นกัน เต็มที่ๆ เหมือนไปฉลองวันเกิดด้วยกันแหละ”

ปิดท้ายการพูดคุย แพทฝากถึงแฟนๆ ทุกคนว่า “ขอบคุณมากที่สนับสนุนจนถึงทุกวันนี้นะครับ ฝากซิงเกิลใหม่ด้วย “คิดไม่ซื่อ” ชมเอ็มวีได้แล้วทางยูทูบแชนแนล PAT POWER PAT Official Channel และเพลงฟังได้ทุกช่องทางสตรีมมิงเลย และมีมีตติ้งคอนเสิร์ตด้วย สามารถจองบัตรได้แล้วทางเว็บไซต์ The Concert ทุกที่นั่งมีของที่ระลึก รับจำนวนจำกัด 300 ที่นั่งเท่านั้น จัดเพียงรอบเดียวที่หอดนตรีและการแสดง อโศกมนตรี 1 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร 10 มิ.ย.นี้ครับ”.

ผู้เขียน : Penguin บินได้
ภาพ : ชุติมน เมืองสุวรรณ
กราฟิก : Jutaphun Sooksamphun