เอ่ยชื่อของ วีนา ปวีนา ซิงห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2025 เชื่อว่าแฟนๆ นางงามจะจดจำเธอคนนี้ในฐานะนางงามที่มีหัวใจนักสู้อยู่เต็มเปี่ยม แม้เส้นทางสู่นางงามจักรวาลไทยของวีนาจะไม่เคยง่ายเลยสักครั้ง เพราะต้องใช้เวลายาวนานกว่า 8 ปี ถึงจะคว้ามงกุฎ MUT 2025 มาครองสมดังใจ ซึ่ง 3 ครั้งที่ผ่านมาปิดจบที่ตำแหน่งนางรองมาตลอด แต่ด้วยความมุ่งมั่นของเธอที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคต่างๆ ทำให้ในครั้งที่ 4 เธอสามารถคว้าชัยชนะมาได้สำเร็จ แต่นอกจากความเป็นนักสู้ วีนามาพร้อมกับดราม่าต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามาตลอดตั้งแต่เข้าสู่เส้นทางนี้ แต่ทุกครั้งเธอก็ยังคงผ่านพ้นเรื่องราวต่างๆ มาได้เสมอ
ไทยรัฐบันเทิงชวนเธอมาพูดคุยถึงการเตรียมตัวสู่เส้นทางการประกวด Miss Universe 2025 ที่เธอได้สวมสะพายไทยแลนด์ เป็นตัวแทนสาวไทยในการประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2025 ครั้งที่ 74 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการประกวด โดย ณวัฒน์ อิสรไกรศีล บิ๊กบอสค่าย MGI เนรมิตการจัดการประกวดครั้งนี้ให้ยิ่งใหญ่สมใจแฟนนางงามทั่วโลก รวมทั้งถามถึงความมั่นใจว่าจะมีโอกาสหรือไม่ที่ไทยแลนด์จะคว้ามง 3 ในการประกวดครั้งนี้
...
การเตรียมตัวสู่เส้นทางจักรวาล
เริ่มต้นการพูดคุย วีนาทักทายแฟนๆ ไทยรัฐออนไลน์ว่า “สวัสดีค่ะ แฟนๆ ไทยรัฐออนไลน์นะคะ วีนา ปวีนา ซิงห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ปี 2025 ค่ะ ฝากทุกคนเชียร์และให้กำลังใจวีนาด้วยนะคะ ในการประกวดมิสยูนิเวิร์สครั้งที่ 74 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพนั่นเอง วันที่ 21 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้นะคะ ฝากส่งเสียงกรี๊ด แรงเชียร์ มาให้วีนาด้วยนะคะ”
สำหรับการเตรียมตัวสู่เส้นทางจักรวาลครั้งนี้ วีนายอมรับว่ามีความท้าทายและสนุก แน่นอนว่าเธอต้องเตรียมตัวในการประกวดพร้อมกับทำงานไปด้วย แต่เธอก็พร้อมไปต่อในทุกๆ วัน แม้จะต้องเจอกับความกดดัน แต่เธอเปลี่ยนมันให้เป็นแรงผลักดันมากกว่า
“ก็เป็นเส้นทางที่ยอมรับตรงๆ ว่ามีทั้งความท้าทายและความสนุกไปด้วยกัน เพราะว่าหลังจากวีนาได้รับมงกุฎ แน่นอนว่ามีอะไรหลายๆ อย่างเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานที่มากยิ่งขึ้น แล้วก็หลังจากนั้นเนี่ยต้องมีการเตรียมตัวไปพร้อมกับการทำงานไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเทรนเดิน การเทรนเรื่องของการสปีช นอกจากนั้นก็เป็นการหาความรู้รอบตัวค่ะ เรื่องของประเทศไทย เรื่องของภาษาสเปนที่เราอยากจะรู้เพิ่มเติมมากยิ่งขึ้นค่ะ
วีนามองว่าจริงๆ มันเป็นไฟที่มีในตัวเราอยู่แล้วตลอดระยะเวลา 8 ปี ในเรื่องของการทำตามความฝันนี้ วีนารู้สึกว่ามันเป็นความฝันที่เราทำได้ครั้งสุดท้ายแล้ว มันเหลืออีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น มันไม่เหมือน MUT ที่ถ้าเราไม่ได้ เรากลับมาประกวดได้ใหม่ แต่ MU เท่าไหร่เท่านั้น แล้วก็จบตรงนั้นเลย แล้วมันเป็นการที่เราจะต้องนำเสนอประเทศไทยด้วย
วีนาก็เลยรู้สึกว่าอยากจะเปลี่ยนแปลงความกดดันตรงนี้ที่เราให้ตัวเองเนี่ย กลายมาเป็นแรงผลักดันมากกว่า ให้เรารู้สึกว่าเออ เราจะต้องไปต่อนะ เราก็มีแรงพลังใจ จริงๆ พลังใจที่สำคัญที่สุดของวีนา นอกจากการดูหนังฟังเพลงถ้ามีเวลาว่างนะคะ คือจะได้จากแฟนคลับล้วนๆ เลย สิ่งนี้ยิ่งเป็นแรงผลักดันให้วีนาอยากจะทำทุกๆ อย่างในการประกวดนี้ให้ดียิ่งขึ้นค่ะ“
จุดแข็ง-จุดที่ยังต้องพัฒนา
เราถามวีนาถึงการประกวด Miss Universe 2025 ครั้งนี้ ในมุมของเธอคิดว่าตัวเธอเองมีจุดแข็งและจุดที่อยากพัฒนาเพิ่มเติมยังไงบ้าง ซึ่งเธอตอบว่า “วีนาว่าจุดแข็งของวีนาคือการที่เรามีประสบการณ์มาตลอดระยะเวลา 8 ปี แล้วเราเก็บเกี่ยวทุกด้านเพื่อที่จะทำให้ strategies หรือกลยุทธ์ในการประกวดของเรามันมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น อันนี้วีนามองว่ามันเป็นจุดแข็งที่มันต้องมาจากระยะเวลาจริงๆ ซึ่ง 8 ปีนี้เราก็แบบ...วีนารู้สึกโชคดีที่เราเองเรียนรู้จากทั้งข้อผิดพลาด สิ่งที่เราล้มเหลว แล้วก็เอามาปรับให้กลายเป็นจุดแข็งของเราตอนนี้ค่ะ
ส่วนข้อที่วีนารู้สึกว่าสามารถพัฒนาได้อีกสำหรับการประกวด MU อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าในเรื่อง performance เนี่ยจะต้องเฉียบคมมากๆ เพราะเราต้องสู้กับอีก 112 ประเทศ นอกจากนั้นคือการพูดหรือการตอบคำถาม ซึ่งประเทศไทยที่ผ่านมาหลายๆ ครั้งทุกคนก็จะคาดหวังตรงนี้มากๆ และมองว่าตรงจุดนี้แหละเป็นจุดที่สำคัญ ถ้าเราอยากคว้ามงกุฎได้ ก็ต้องมีพลังหรือสกิลในการพูดที่สามารถจับใจคนได้ อันนี้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่วีนาจะต้องฝึกเพิ่มมากขึ้นค่ะ แล้ววีนาก็ให้ความสำคัญกับอันนี้มาที่ 1 เลยค่ะ”
...
เมื่อถามถึงความกังวลที่เกิดขึ้นในระหว่างเตรียมตัวประกวดครั้งนี้ เธอบอกว่า “กังวลเหรอคะ ถ้ากังวลเนี้ยน่าจะน้อยลงเยอะในเรื่องของการเดิน เพราะวีนามองว่าเราจะต้องมาแข่งกับประเทศละตินที่รู้อยู่แล้วว่าหลายๆ ประเทศ โอ้โห เทรนนางงามมาตั้งแต่ 7-8 ขวบ วีนาถึงแม้จะอยู่ในวงการนี้มา 8 ปี แต่เราเริ่มต้นตอนอายุ 22 มันจะไปเปรียบเทียบกับคนที่เทรนมาตั้งแต่ 8 ขวบ 12 ขวบเนี่ย วีนาคิดว่าเขาก็ต้องมีเครื่องมือหรือสกิลต่างๆ ที่แบบว่าโอ้โห เจนเวทีมากๆ เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่วีนาอยากจะทำให้ได้บ่อยที่สุด และโชคดีที่ว่าเรายังพอที่จะจัดสรรตารางของเราเนี่ยอัดตรงนี้เข้ามาได้เพิ่มค่ะ”
ไฮไลต์ที่แฟนนางงามรอคอย
และไฮไลต์เด็ดๆ ที่เหล่าแฟนนางงามทั้งหลายเฝ้ารอคอย คือชุดที่วีนาจะใช้ในการประกวดครั้งนี้ ทั้งชุดว่ายน้ำ ชุดประจำชาติ ชุดในรอบพรีลิม รวมถึงชุดในรอบไฟนอล ซึ่งวีนาแย้มว่ามีสิ่งที่เธอไม่เคยทำ และทุกคนจะได้เห็นเธอทำในการประกวดครั้งนี้ด้วย
“ก็บอกได้เลยว่ารอบชุดว่ายน้ำมันก็จะมี Signature Post แล้วกันค่ะที่ไม่เคยทำ แล้วก็เป็นสิ่งที่เราตั้งใจฝึกมาตลอดเพื่อที่ว่าถึงบนเวทีแล้วมันเป็นอะไรที่ว้าวและใหม่ แล้วก็ครูปลาเองมีส่วนช่วยในการคิดท่านี้ แล้วก็ทำให้วีนามีความมั่นใจในการ perform มากยิ่งขึ้น
...
นอกจากนี้ชุดพรีลิม ไฟนอล เป็นอีกชุดที่... ตอนแรกวีนาชอบชุดพรีลิมตัวเองตอนที่ประกวดในบ้านคือชุดไฟนอลมากแล้วนะ แล้วก็คิดว่าเออ...เราจะหาชุดที่สวยกว่านั้นได้ยังไง แต่พอมาเจอชุดพรีลิมกับไฟนอลที่ได้เห็นแล้วถึงความงาม ความใหม่ ก็เลยรู้สึกว่าเออ นี่แหละตอบโจทย์มากๆ คิดว่าหลายๆ คนน่าจะว้าวตอนที่วีนาเดินออกมาแล้วก็ perform ทั้งสองอันค่ะ
ชุดประจำชาติก็เป็นหนึ่งในชุดที่...แน่นอนว่าเราจะเลือกจากชุดที่ได้เข้ารอบนะคะ วีนาก็เลือกเป็นหนึ่งในชุดที่เข้ารอบ ก็เป็นชุดที่แสดงถึงตัวตนของวีนา แล้วก็มีความเกี่ยวโยงกับการเป็น shero หรือว่านักสู้นั่นเอง ตรงนี้วีนาน่าจะบอกได้แค่นี้ก่อนนะ แล้ววีนาก็เชื่อว่าทุกคนจะดีใจที่วีนาเลือกชุดนี้ด้วยค่ะ“
นอกจากนี้วีนาบอกว่าชุดในช่วงการเก็บตัวก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน และเธอตั้งใจที่จะผลักดันตัวเองอยู่ในอัสนดับต้นๆ ในแต่ละวันด้วย “ลุคแต่ละวันในการเก็บตัวเนี่ย วีนามองว่ามันเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ก่อนที่เราจะมาถึง Preliminary มันก็มีคะแนนในแต่ละวัน แน่นอนว่าตอนที่วีนาประกวดจบ เขาตั้งให้วีนาขึ้น Leader Board อยู่ในที่ 1 ที่ 2 บ้าง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการจะต้อง keep ให้ตัวเองอยู่ในอันดับ 1 อันดับ 2 ตามที่เราต้องการอยากจะได้
แล้วการที่เข้ากองแล้วตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย ทำยังไงให้เราไม่หล่นจากตัว Leader Board ตรงนั้น หรือคะแนนที่เขาจัดอันดับมาให้เรา ฉะนั้นมันก็เลยเกิดที่มาว่าชุดในแต่ละวัน หรือการเก็บตัวในแต่ละวัน มันจะต้องมีกิมมิก และมีอะไรที่ดึงดูดความสนใจของใครหลายๆ คน ทำให้เราอยู่ใน Top ของผู้เข้าประกวดใน Miss Universe นี้”
...
การเป็นเจ้าภาพ MU 2025 ที่ไทย
เราถามวีนาถึงการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2025 หรือ มิสยูนิเวิร์ส ครั้งที่ 74 ซึ่งวีนาเป็นตัวแทนสาวไทยประกวดในบ้านเราด้วย และเป็นช่วงหลังจากที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จสวรรคต เธอมองว่าเธอจะทำให้ชาวต่างชาติอยากเรียนรู้และเข้าใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
ซึ่งเธอบอกว่า “วีนามองว่าในฐานะตัวแทนประเทศไทยตอนนี้ สิ่งที่วีนาสามารถ represent ได้เลยคือความเป็นไทยในด้านของวัฒนธรรมประเพณี ก็คือว่าเราเคารพผู้ใหญ่ เมื่อมีคนสำคัญที่อยู่ในประเทศของเราจากไป เราก็พร้อมที่จะแสดงความโศกเศร้า ซึ่งเป็นประเพณีและวัฒนธรรมของเราที่สืบต่อกันมานาน แล้วก็อีกหลายๆ อย่างเลยคือทำให้ชาวต่างชาติอยากที่จะเรียนรู้และเข้าใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้น วีนาเห็นหลายๆ คนเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจริงๆ แล้วประเทศไทยเนี่ยมีระบบอะไรยังไงบ้าง ตรงนี้ยิ่งทำให้ประเทศไทยน่าจับตามองของชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
วีนาว่ารูปแบบการจัดงานก็ต้องปรับให้เหมาะสมตามช่วงเวลานี้ มองว่าสิ่งที่ได้จัดการไปแล้ว เขาก็อาจจะปรับให้มันมีความเบาลงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยัง keep ความเป็นการประกวดนางงามอยู่เหมือนเดิม แน่นอนว่าในฐานะการเป็นคนไทยเราก็ต้องแสดงความเคารพในเรื่องของประเพณีวัฒนธรรมในด้านอื่นๆ ด้วยค่ะ”
นางงามสู้ชีวิต เจอดราม่าไม่เว้นวัน
อย่างที่รู้กันว่าวีนาเป็นนางงามที่เจอดราม่ามาแล้วมากมายตั้งแต่ในช่วงแรกที่ประกวด และในวันที่เธอพยายามจนคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2025 มาได้สำเร็จ หลังพยายามบนเส้นทางนี้มานานถึง 8 ปี ก็ยังคงมีดราม่าตามมาไม่เว้นวัน หรือแม้กระทั่งเข้ากองประกวดมิสยูนิเวิร์สไปแล้วก็ยังมีดราม่าถาโถม
เมื่อถามถึงวิธีการรับมือดราม่าต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอ วีนาบอกว่า “วีนาชอบถอยออกมาก้าวนึงค่ะ แล้วก็ลองมองภาพรวม วีนามองว่าไม่มีใครบนโลกนี้ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีแสง หรือเป็นคนที่มีชื่อเสียง จะไม่โดนวิพากษ์วิจารณ์ หรือจะไม่โดนเฟกนิวส์ หรือจะไม่โดนด่า ซึ่งหาคนนั้นไม่เจอเลยจริงๆ ที่เป็นคนที่มีแสงแล้วไม่โดนว่า ไม่โดนด่า ไม่เจออะไรพวกนี้ เพราะฉะนั้นปัญหาอาจจะไม่ได้มาจากตัวเรา หรือว่าปัญหามันไม่ได้มาจากองค์กร หรืออะไรอย่างอื่นที่ออกมาจากตัวเรา แต่ว่ามันมาจาก perception ของคนอื่น เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถเปลี่ยนได้
วีนาทำความเข้าใจแบบนี้ว่า สุดท้ายแล้วไม่ว่าวีนาจะทำแคมเปญลดการบูลลี่มากแค่ไหน เราอยากจะให้ความรู้ว่าเรื่องของเชื้อชาติเนี่ยมันมาได้ยังไง รูปร่าง สีผิว หน้าตาแตกต่างกันเพราะอะไร สุดท้ายแล้วคนที่รับสารเขาจะเลือกรับหรือไม่รับ เขาจะเลือกเปิดใจหรือไม่เปิดใจ อันนี้เรื่องของเขาแล้ว แล้วเราก็ไม่สามารถบังคับอะไรเขาได้ วีนารู้สึกดีใจที่เราทำได้เต็มที่แล้วในการที่เราจะพยายามบอกว่า ถ้าเราเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น เราสามารถอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้นนะ โดยที่เราไม่จำเป็นจะต้องไปด่าหรือว่าใคร
แต่ก็มีหลายคนเลือกที่จะไม่รับฟัง เขาไม่เข้าใจ เขาอาจจะไม่ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เปิดกว้างกับสิ่งเหล่านี้ ซึ่งสิ่งที่วีนาทำได้เลยก็คือทำความเข้าใจกับสิ่งนี้แล้วก็ปล่อยไป เพราะว่าเราคงจะไม่ได้มีเวลาที่จะไปเปลี่ยนความคิดของทุกคน แล้วเราไม่สามารถที่จะอธิบายตัวเองไปตลอดชีวิตว่าสิ่งที่เราเป็นคืออะไร“
ถามว่าเคยเสียใจหนักสุดๆ ไหม วีนาบอกว่า “หนักสุดก็ร้องไห้หลายวันเหมือนกัน คือบอกตรงๆ ว่าเป็นคนที่ร้องไห้ไม่ค่อยเก่ง เป็นคนที่มูฟออนเก่งมากกว่า ถึงเราจะเจอเรื่องอะไรยากๆ มาในชีวิตน่ะ สุดท้ายสิ่งที่เราเคยเจอมาในอดีต มันไม่ได้มีเวลามากพอให้เรานอนอยู่เฉยๆ แล้วก็ร้องไห้ ชีวิตเราต้องเดินต่อ เราต้องลุกขึ้นมาทำงาน มาหาเงิน มาเลี้ยงดูครอบครัว เราต้องมาทำตามความฝัน ถ้าปี 2023 วีนายังเสียใจ จมปลักอยู่กับการร้องไห้ว่าทำไมฉันไม่ได้ จะไม่มีวีนาในปี 2025 ที่กลับมาพัฒนาตัวเองในหลายๆ ด้าน แล้วก็มาคว้ามงกุฎในวันนี้”
เหตุผลที่ชาวนาวีเชื่อมั่นในตัววีนา
แต่ถึงแม้วีนาจะเจอกระแสดราม่าเยอะแค่ไหน ชาวนาวี ด้อมแฟนคลับของวีนา ก็ยังคงเชื่อมั่นในตัวของเธอเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราถามวีนาว่าคิดว่าอะไรที่ทำให้ชาวนาวียังเชื่อมั่นในตัวเธอ วีนาตอบว่า “วีนาว่าน่าจะเป็นความจริงของวีนา เพราะว่าสิ่งที่วีนานำเสนอมาตลอด หรือสิ่งที่ทุกคนเห็น มันก็คือสิ่งที่ออกมาจากใจของวีนาจริงๆ
การที่เรามาครั้งแรกแล้วมีคนสัมภาษณ์ถามวีนาว่า ถ้าไม่ได้จะกลับมาอีกมั้ย แล้ววีนาตอบว่า “จะกลับมาจนกว่าจะมง” ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่ได้มานั่ง... เป็นเด็กใสๆ เลย ไม่เคยเข้าวงการหรือเรียนเรื่องการตอบคำถาม เราก็ตอบมาจากใจจริงๆ ว่าเราจะมาจนกว่าเราจะมง เพราะว่านี่คือสิ่งที่เรารัก
มันคือเหตุผลว่าทำไมวีนาประกวดแค่มิสยูนิเวิร์ส ไม่ได้ประกวดเวทีอื่น เพราะว่าเรารู้ว่าใจเราเนี่ยจริงๆ เรารักคอนเซปต์ รักสิ่งที่เราได้รับจากเวทีมิสยูนิเวิร์ส เราไม่ได้มาประกวดเพราะเราอยากจะได้เงินรางวัล แน่นอนว่ามันเป็นส่วนนึงที่เราอยากได้ แต่เราไม่ได้อยากจะมาประกวดเพราะอยากได้มงกุฎอะไรก็ได้ ไม่ได้อยากจะมาประกวดเพราะอยากเป็นคนมีชื่อเสียง ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นส่วนหนึ่งที่เราจะต้องได้มาอยู่แล้วถ้าเราประกวด
สิ่งที่วีนายึดถือมั่นกับตัวเองเลยคือเราจะต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง แล้วเรารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องการ แล้วสิ่งๆ นั้นแหละมันเป็นสิ่งที่ทำให้ชาวนาวีเขาเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ที่จะต้องทดสอบเรามากแค่ไหน เราจะยังคงยึดมั่นในคุณค่าที่เรายึดถืออยู่ เพราะมันคือสิ่งที่เรารัก และคือความจริงใจต่อตัวเองของเรา”
มง 3 ที่แฟนนางงามรอคอย
และการจัดประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ แฟนๆ นางงามก็คาดหวังถึงมง 3 ว่าปีนี้วีนาจะสามารถคว้ากลับมาได้หรือไม่ แต่แน่นอนว่าการแข่งขันย่อมมีแพ้มีชนะ และตำแหน่งก็มีเพียงหนึ่งเดียว ดังนั้นการเตรียมตัววางแผนต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อนำไปสู่คว้ามงกุฎเป็นสิ่งสำคัญมากๆ
ซึ่งวีนาก็ตอบถึงประเด็นนี้ไว้ว่า “วีนาก็อยากได้นะคะมง 3 เนี่ย อยากได้มาหลายปีแล้วด้วย แต่วีนามองว่าสุดท้ายแล้วมันคือการแข่งขัน การแข่งขันก็จะมีแพ้มีชนะ แต่ว่าสิ่งที่เราทำได้เลยก็คือการเตรียมตัวและการวางแผน ถึงแม้ว่าเราจะเตรียมตัววางแผนมาดีมากๆ แล้ว สุดท้ายสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือแรงเชียร์ กำลังใจ เพราะปีนี้เราจัดในบ้านของเราด้วย
ยิ่งถ้าเรามีกองเชียร์ที่ฮึกเหิม ยิ่งหนาแน่น คนยิ่งเยอะเนี่ย วีนามองว่ามันก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถจะ convince หรือว่าโน้มน้าวกรรมการได้มากยิ่งขึ้นว่าเออ บางทีอาจจะถึงเวลาของประเทศไทยแล้ว ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลมันก็ต้องมาจากการที่วีนาสามารถ perform หรือว่าทำออกมาได้ดีที่สุดบนเวทีด้วย แต่ว่ายังต้องการกำลังใจและแรงเชียร์จากคนไทยด้วยค่ะ
ถามว่ามั่นใจมั้ย คือวีนามองว่าความมั่นใจมาจากการเตรียมตัว วีนาเตรียมตัวเต็มที่แล้วแหละ แต่ว่าสุดท้ายแล้วมันก็มีเรื่องของโชคชะตาหรือเรื่องดวง หรือว่าฟ้าลิขิต ถึงแม้ว่าส่วนตัววีนาจะไม่ได้เชื่อสิ่งนี้ เพราะวีนาเชื่อในเรื่องว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น วีนาก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ตั้งใจฝึกฝน
เมื่อถึงเวลาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าวีนาทำเต็มที่แล้ว ก็ขอให้ได้ในสิ่งที่หวัง แต่ถ้าไม่ได้ วีนาก็คงจะไม่เสียใจ อยากจะบอกทุกคนว่า บางสิ่งบางอย่างมันอาจจะมีระยะเวลาของมัน อย่างการที่วีนาได้มาเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ในปีนี้ ก็อาจจะเป็นเรื่องของเวลาที่ถูกต้อง ก็ต้องมารอลุ้นกันว่า มง 3 จะมาในปีนี้หรือไม่ค่ะ”
สเตปต่อไปหลังจบ Miss Universe 2025
เราถามถึงชีวิตของเธอหลังจากจบการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2025 ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งเธอบอกว่าถ้าเกิดว่าเธอได้ตำแหน่ง ก็คงจะมีภารกิจที่ตามมามากมายอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากไม่ได้ เธอก็ยังคงอยู่ในเมืองไทย และร่วมงานกับ MGI เพื่อลองทำงานในรูปแบบใหม่ๆ พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับสังคมมากยิ่งขึ้น
“ถ้าได้ ก็น่าจะงานยุ่ง น่าจะแบบว่าไม่มีเวลานอน ซึ่งอันนี้ชินแล้ว เพราะปีนี้ก็เป็นประมาณนี้มา และคิดว่าคงจะต้องเดินทางไปหลากหลายประเทศ แต่แน่นอนว่าสิ่งที่เรายึดมั่นคือมีความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น เราไม่ได้แค่เป็นตัวแทนในการ represent ตัวเองหรือประเทศ แต่เรากำลัง represent มนุษย์หรือองค์กรทั้งองค์กรเลยที่เราจะไปเป็นทูตในการติดต่อสื่อสารกับคนอีกหลายๆ ประเทศ
อันนี้เป็นสิ่งนึงที่วีนายังยึดถือมั่นอยู่ว่า ถ้าถึงเวลานั้นวีนาได้มาแล้วเนี่ย เราจะต้องมีความที่ติดดินอยู่เหมือนเดิม เข้าใจตัวเองอยู่เสมอว่าสิ่งๆ นี้มันไม่ได้มาเพราะว่าการที่เราอยากมีอยู่ในแสง แต่ว่าเราอยากที่จะเป็นหนึ่งคนที่ส่งต่อเรื่องที่เราเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่น ให้กับคนได้ในหลากหลายมุมทั่วโลกมากยิ่งขึ้น หรือในเรื่องของ Charity ที่อยากจะทำมากยิ่งขึ้นนะคะ
ถ้าวีนาไม่ได้ วีนาก็คงจะอยู่ในประเทศไทย แน่นอนว่าทำงานร่วมกับบริษัท MGI ลองทำงานในด้านอื่นๆ ดู ยังคงที่จะส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับสังคมมากยิ่งขึ้นนะคะ และก็คงจะลองอะไรใหม่ๆ ลองดูว่าบอสมีอะไรอยากให้วีนาทำมั้ย เรื่องการแสดง เรื่องของศิลปินอะไรแบบนี้ ก็เป็นไปในแนวนั้น
ถามว่าเส้นทางสองเส้นทางนี้ วีนาว่าเป็นสองเส้นทางที่มีดอกไม้เติบโตแล้ว ไม่ว่าวีนาจะได้เส้นทางไหน วีนาก็รู้สึกว่าวีนาจะสามารถรดน้ำต้นไม้ฝั่งนั้นให้มันเจริญงอกงามได้ ก็หวังว่าเส้นทางที่วีนาจะได้คือเส้นทางแรกในการได้เป็นมิสยูนิเวิร์สคนต่อไปค่ะ“
เราถามย้ำว่าคงไม่ได้เห็นวีนาในเวทีอื่นแน่นอนใช่ไหม วีนาตอบชัดเจนว่า ”แน่นอนค่ะ จะไม่ได้เห็นวีนาในเวทีการประกวดนางงามแล้ว ยกเว้นว่าวีนาจะไปประกวดร้องเพลง (หัวเราะ) แต่ว่าการประกวดนางงามก็ให้มิสยูนิเวิร์ส 2025 เป็นปีสุดท้าย และหวังว่าจะเป็นชัยชนะด้วยค่ะ“
ฝากถึงแฟนนางงามไทย
ก่อนที่จะจบการพูดคุย วีนาขอกำลังใจจากแฟนๆ นางงามรงมถึงคนไทยทุกคนร่วมเชียร์ร่วมส่งแรงใจให้เธอคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สมาครองได้สำเร็จ “อย่างแรกเลยวีนาอยากจะขอแรงเชียร์นะคะ กำลังใจจากคนไทยทุกคนเลยนะคะ ในการประกวดมิสยูนิเวิร์สครั้งที่ 74 หรือว่านางงามจักรวาลครั้งที่ 74 นะคะ ที่ประเทศไทยของเราจะเป็นเจ้าภาพ จะจัดขึ้นในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้นะคะ
วีนาเองในฐานะตัวแทนประเทศไทย เป็นนางงามจักรวาลประเทศไทย จะสวมสายสะพายไทยแลนด์ไปต่อสู้เพื่อที่จะคว้ามงกุฎมาให้เราให้ได้ เป็นมงกุฎที่ 3 ที่ประเทศไทยรอคอย มันนานมากๆ 30 กว่าปีแล้วนะคะ วีนาจะทำให้ดีที่สุด แต่ว่าทั้งหมดแล้ววีนาก็ต้องการแรงเชียร์ แรงกำลังใจจากทุกคน หวังว่าทุกคนจะมาดู มาส่งแรงเชียร์ ส่งเสียงกรี๊ด หรือว่าร่วมโหวตให้วีนาชนะการประกวดครั้งนี้ด้วยนะคะ
และวีนาขอขอบคุณทุกคนที่ซัพพอร์ตวีนามาตั้งแต่ปีแรกจนถึงปัจจุบัน 8 ปีที่ผ่านมามันไม่ง่ายเลย แต่ครั้งนี้มันคือครั้งสุดท้ายที่เราจะได้ทำภารกิจเพื่อชาตินี้ไปด้วยกัน และวีนาก็สัญญาเลยว่าวีนาจะทุ่มเททำให้เต็มที่ และก็จะคว้าฝันของเราให้มันเป็นจริงไปด้วยกันในปีนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม