จากกรณีเหตุการณ์ความวุ่นวายในกองประกวด Miss Universe 2025 เมื่อนางงามวอล์กเอาท์ออกจากห้องประชุมก่อนมอบสายสะพาย Miss Universe 2025 ให้นางงามแต่ละประเทศ หลัง ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ได้ปะทะคารมกับนางงามเม็กซิโก จนกระทั่งเกิดบรรยากาศวุ่นวายนางงามวอล์กเอาท์ ทยอยลุกออกจากห้องประชุม

ล่าสุด ณวัฒน์ ได้ออกมาไลฟ์เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น บอกว่า

- อยากให้ฟังสองด้าน ไม่ใช่บริบทที่ควบคุมได้ง่าย

- เหตุการณ์วันนี้มาจากหลายแรงกดดันจริงๆ ตั้งแต่วันแรกเข้ากองมา ตั้งแต่เรื่องที่ทางยูนิเวิร์สเขาประกาศ เรื่องมีการโหวตทานอาหารกับ วิกตอเรีย เคียร์ ทีลวิก MU2024 ทำให้เราค่อนข้างมีปัญหา เพราะน้องๆ ผู้เข้าประกวดหลายคน จะไม่เชื่อมั่นในการทำกิจกรรม ว่าเอ๊ะจะฟังใครดี เพราะนโยบาย MU บอกว่าเหมือนไม่อยากให้ทำ แต่เป็นสิ่งที่เราทำ เนื่องจากอยู่ในคอนแทร็กต์ มันก็เลยทำให้น้องๆ อาจทำบ้างไม่ทำบ้าง ให้ความร่วมมือบ้าง ไม่ให้ความร่วมมือบ้าง อันนี้เป็นปกติเราก็เข้าใจได้ ไม่ได้เกิดจากความผิดของน้องเกิดจากความรู้สึกกลัว จากข้อกำหนดของยูนิเวิร์ส

- พอมาเมื่อวานเกิดเรื่องที่ต้องไปถึงโรงพัก คนที่ต้องออกจากโรงแรม และอาจจะต้องกลับประเทศ จริงๆ มีทั้งหมด 4 คน แต่ที่ถูกต้องมีแค่ 3 แต่อีกคนเขาไปกับเพื่อนเขา เพราะเป็นห่วงก็เลยไปด้วย ตำรวจเลยให้อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน คนนั้นคือ เนชั่นแนล ไดเรกเตอร์ของเม็กซิโก ซึ่งผมเพิ่งรู้ เขามาดูแลน้องเม็กซิโก มันเลยกลายเป็นปัญหาคุกรุ่นเมื่อวานนี้ นำมาสู่ปัญหาในวันนี้

- เมื่อเช้ายูนิเวิร์สได้โพสต์เรื่องกฎกติกาของการตัดสินว่า ให้ความสำคัญกับรอบสัมภาษณ์ รอบชุดประจำชาติ และ รอบพรีลิม รอบไฟนอลเท่านั้น ส่วนอื่นไม่เกี่ยวข้อง มันก็เลยเป็นสาเหตุให้เราไม่สามารถจะทำงานและปกครองคนได้ค่อนข้างเยอะ

...

- ซึ่งจะมีปัญหากับทางทีมงานเรา ที่ขอให้น้องผู้เข้าประกวดทำงานให้กับสปอนเซอร์ ถ่ายงานให้สปอนเซอร์ หรือถ่ายคลิปถ่ายโปรโมต ก็ได้รับการปฏิเสธอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะวันนี้ถูกปฏิเสธถึงเกือบ 20 ประเทศ และก็มีบางประเทศ ที่ผู้ช่วยแจ้งว่าให้เหตุผลตามที่พูดไปในไลฟ์ คือ ND สั่งไว้ก่อนไป

- มันเลยเป็นสาเหตุที่เยอะมาก ที่ทำให้การทำงานไม่ได้เป็นทีมเวิร์กที่เหมาะสม เพราะมันแบ่งเป็นกลุ่มๆ โดยเฉพาะกลุ่มลาติน เขาแยกตัวไปแต่งหน้าทำผมข้างบนกับกลุ่มลาติน อยู่กันเป็นกลุ่ม แล้วก็ขึ้นไปถ่ายสัมภาษณ์ข้างบน เฉพาะลาติน มันก็ยากแก่การควบคุมและลำบากใจ

- ก่อนเริ่มงานวันนี้ ก็เลยจะใช้โอกาสพูดคุย พยายามให้น้องยอมรับการทำงานร่วมกัน ซึ่งได้ถามไป ว่าใครวันนี้ไม่ยอมทำงานบ้าง ไม่ยอมถ่ายอะไรตามที่เจ้าหน้าที่ขอร้องให้ถ่าย มันเยอะประเทศ บอกตรงๆ ทำให้เราค่อนข้างที่จะไม่สบายใจและโมโห ว่างานมันทำอะไรไม่ได้

- อย่างน้องเม็กซิโก เขาปฏิเสธ ไม่ยอมโพสต์งานให้สปอนเซอร์ ทุกอย่าง ลองถามสต๊าฟได้ มันเยอะมาก เราก็คิดว่าเราอยากเคลียร์ เวลาถามว่าวันนี้ใครปฏิเสธการทำงานกับเรา ค่อนข้างเยอะ 20 ประเทศ ที่ไม่ใส่ใจและไม่สน แต่พอถามแล้วก็ไม่ยอมตอบ แต่ผมได้รีพอร์ตมาแล้วล่ะ เก็บไว้แล้วว่ามีใครบ้าง ผมถามหลายครั้งก็ไม่ตอบ

- ผมก็เลยยกตัวอย่างเม็กซิโก เพราะค่อนข้างมีกรณีกับพี่เลี้ยงที่ควบคุมและก็ปฏิเสธอยู่เรื่อยๆ ซึ่งผมถามเพียงแค่ว่า คำถามรอบแรกว่า สามารถทำงานให้กับสปอนเซอร์ได้ไหม เขาก็พูดอธิบาย ผมก็เลยถามว่าอยากถามว่าได้หรือไม่ได้ เพราะกลัวพูดไม่จบกันสักที เขาบอกว่าได้ ผมก็แฮปปี้ครับ ผมก็เชิญเขานั่งลง

- จากนั้นผมก็พูดต่อ แต่การพูดของผม ผมยอมรับว่าอาจพูดเสียงดัง เพราะว่าปัญหาสั่งสมมาตั้งแต่วันแรก ใครอยู่หน้างานจะเห็นว่าปัญหาเยอะมาก ไม่ว่าจะแบ่งเป็นกลุ่ม ไม่ว่าเป็นช่างที่มาโดยที่ผมไม่รู้ว่ามาได้ยังไง เอานางงามไปแต่งส่วนตัวอยู่ข้างบน เราก็หานางงามไม่เจอ เพราะแต่งเสร็จก็ไปอัดเทปกันเอง มันยากมากที่จะไปตามหรือไปขอให้มาทำงาน มันยุ่งไปหมด

- เมื่อวานเป็นเรื่องคาสิโนออนไลน์อีก ก็มีผลกระทบ เพราะคนที่เกี่ยวข้องเรื่องคาสิโนออนไลน์คือกลุ่มลาตินกลุ่มนั้นทั้งหมด อารมณ์ก็ไม่ดีครับ ผู้ช่วยก็รีพอร์ตว่าคนนั้นคนนี้ก็ยังไม่ทำงาน คนนี้ไม่โพสต์อะไรเลย ก็เลยพยายามอธิบายต่อหลังเม็กซิโกนั่งลง พูดเรื่องทั่วๆ ไปว่าคุณต้องทำนะ กว่าจะได้เงินจากอะไรต่างๆ ผมจ่ายเงินไปแล้วกี่เหรียญให้ยูนิเวิร์ส เพราะฉะนั้นคุณต้องทำงาน ไม่ทำไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่ถูก

- ขณะที่พูดไป 2-3 นาที ผมไม่ได้เรียกให้ใครยืนขึ้นและถามคำถามใครเลย อยู่ๆ เม็กซิโกก็ยืนขึ้นอีกครั้ง และพูดอะไร ผมได้ยินไม่เคลียร์ เพราะเขาอยู่ไกล ผมเลยบอกเขาว่าไม่ต้องพูดหรอก ให้นั่งลง เพราะตอนนี้ผมพูดเรื่องทั่วไปกับทุกคนว่าทำไมเราต้องทำงาน อย่าไปฟังคนอื่นเยอะ เราต้องทำงาน เขาบอกเขาอยากจะพูด เขาจะพูด ผมก็เลยตอบไปว่าคำถามที่ถามตอบแล้ว ก็น่าไม่มีอะไร แล้วจะพูดอะไร ผมอยากจบแล้ว

...

- เขาก็เถียงกลับมาว่า มันเป็นเสียงของเขา ผมก็โมโหขึ้น ผมยอมรับ เพราะว่าเขาไม่ฟังสิ่งที่เราเจรจา ผมบอกว่า ใช่มันเป็นเสียงยู แต่ยูก็ต้องเคารพ ผมใช้คำว่าเรสเปกต์ จากนั้นเขาก็ยิ่งเพิ่มความดังขึ้น มันอาจมีปัญหาเรื่องฟังไม่รู้เรื่องด้วย และมันไกลด้วย พูดไม่ค่อยเข้าใจ เขาก็ดังขึ้นๆ แล้วอยู่ ๆ เขาเดินออกจากแถว

- ผมก็เรียกการ์ด แต่ผมไม่ได้สั่งให้ทำอะไร การ์ดมาอยู่ข้างๆ ผม เพราะมีคนของ MU อยู่คนนึง ที่นั่งเป็นเพื่อนผม ก็มายืน ที่ผมเรียกเพราะผมไม่ไว้ใจกับเหตุการณ์เมื่อวานนี้ ผมเกือบถูกเม็กซิโกรุม คือหนึ่งในคนที่ตำรวจเชิญออกนอกประเทศไป โดยผมตกใจว่าอยู่ ๆ พุ่งเข้ามา ผมไม่รู้ในนี้มีใครอีก หรือจะทำอะไร ผมก็เรียกมาเพื่ออุ่นใจ เรื่องมีอยู่แค่นี้

- แต่ขณะเดียวกัน ทางคนเม็กซิโกที่มากับวิกตอเรีย เขาก็กวักมือให้ทุกคนออกไป ซึ่งคนก็ออกไป ส่วนมากเป็นกลุ่มลาติน เขาก็รีบขึ้นไปบนชั้นลาตินทั้งหมด รวมกลุ่มถ่ายรูปอย่างที่ทุกคนเห็น ด้วยความร่าเริง ใช้คำพูดที่ผมรู้สึกว่ามันไม่ดี เรื่องราวทั้งหมดมีแค่นี้

- หลังจากนั้นก็พยายามจะเคลียร์สถานการณ์ให้ โดยเชิญวิกตอเรียลงมาเพื่อจะคุยกัน แต่ว่าก็เลื่อนไปเรื่อยๆ

- ผมก็ขอโทษด้วยแล้วกัน ที่มันเป็นสภาพแบบนี้ ที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้

- จากนี้เป็นต้นไปเป็นนโยบายของทางผมที่สั่งลูกน้องทุกคนไปแล้ว หลังจากเคลียร์ปัญหาจบระดับหนึ่ง ให้ตามใจทุกคน เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทยและองค์กร ดีกว่าที่เขาจะหยิบปัญหาเหล่านี้ มาเล่นเป็นประเด็น เพื่อทำให้เราต้องเจ็บปวด

- เพราะฉะนั้นจากนี้เป็นต้นไป ทำได้เท่าที่ทำ และตามใจทุกคนที่อยากจะทำ หรือไม่อยากทำ จะไปหรือไม่ไป จะมาหรือไม่มา จะร่วมกิจกรรมหรือไม่ เราจะไม่มีการกดดัน ปล่อยให้ทุกคนอิสระเต็มที่ มิฉะนั้นเมื่อเราดุ หรือว่ากล่าวตักเตือน กลับเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้น เราคงเลิกใช้วิธีนี้กับการประกวดครั้งนี้

...

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม