หลังเจอมรสุมใหญ่จนลาจากงานพิธีกรทุกรายการ จนสาว กาละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ หันไปแก้ปัญหาด้านธุรกิจ ทิ้งงานในวงการไปหลายปี ล่าสุด กาละแมร์ ลั่นว่าจะหวนคืนจอ พร้อมกับเปิดใจในรายการ “คุยแซ่บ SHOW” ช่องวัน 31 รับมีเสียน้ำตาหลังมีกระแสข่าว พร้อมเผยถึงเรื่องความรักกับหนุ่มฝรั่งเศสเศรษฐีหมื่นล้านรวยติดอันดับโลก
เริ่มจาก กลับมาทวงบัลลังก์พิธีกร?
“มันไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น เราได้กลับมาทำงานที่เรารักมากที่สุดคืองานพิธีกร ตอนนี้มีรายการใหม่แล้ว มันอยู่ในสายเลือด ไปไหนคนก็ถามคิดถึงเมื่อไหร่จะมีรายการอีก คิดถึงการสัมภาษณ์คนอย่างที่ทราบข่าวว่ามีเรื่องมีราวเราก็ต้องไปจัดการให้เรียบร้อย พอถึงเวลา ก็มีคนมาชักชวน ถามว่าตื่นเต้นมั้ยมันตื่นเต้นอยู่แล้ว ก็จะทำให้เต็มที่”
ในอดีตลาออกจากทุกรายการที่ทำ?
“ตอนนั้นมันมีสิ่งที่เราต้องแก้ไขปัญหา เราเกรงใจรายการไม่อยากให้ได้รับผลกระทบ เราไปจัดการความรับผิดชอบของเราก่อน ซึ้งน้ำใจในความเมตตาของทุกท่านเสมอ ตอนนั้นมันก็หวิวนะ เราคิดถึงคนที่เราทำงานด้วยมันคือความผูกพัน แต่ตอนนั้นมีสิ่งที่เราต้องทำและรับผิดชอบอยู่ ที่บริษัทก็มีลูกน้อง เราละทิ้งไม่ได้”
หลายคนคิดว่าเราเป็นเจ้าของพาวเวอร์ชอต?
“เป็นหุ้น 30% ไม่ว่าจะมีหุ้นเท่าไหร่เราทำเต็มที่”
แต่พอมีปัญหารับ 100%?
“อย่างที่บอกมันเป็นหน้าเรา อะไรที่เรารับผิดชอบได้ก็รับผิดชอบ เราทำผลิตภัณฑ์มีเรื่องมีราวมีปัญหามา เราเป็นหนึ่งในผู้ร่วมทำ เรามีหน้าที่ในการรับผิดชอบเรื่องนี้ เราคิดอย่างเดียวว่าจะแก้ไขยังไงให้มันดีขึ้น”
...
ตอนนี้ยังเกี่ยวข้องกับพาวเวอร์ชอตมั้ย?
“ตอนนี้ไม่แล้วค่ะ ลาออกจากทุกตำแหน่ง ไม่มีความยุ่งเกี่ยวแล้ว แมร์ได้คิดทบทวนแล้ว ตอนทำงานมีความเห็นตรงกัน แต่พอทำไปสักพักทัศนคติไม่ตรงกัน หรือว่าเป้าหมายไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพื่อความสบายใจในทุกฝ่ายเราออกมาดีกว่า แต่เรายังเป็นเพื่อนกันได้”
ตอนมีปัญหาลาออกจากพิธีกรหมด ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะทำเหมือนเดิมมั้ย?
“เหมือนเดิม เพราะความรับผิดชอบ เราไม่เคยเสียใจเลยที่ตัดสินใจแบบนั้น สำหรับความรู้สึกตอนนี้เหมือนตัวเองเป็นอิสระ ได้ชีวิตตัวเองกลับคืนมา แมร์มีโฟกัสในชีวิตต้องทำ”
ตอนสะดุดหนักๆมีเสียน้ำตามั้ย?
“มี มันเป็นเรื่องปกติ ร้องไห้คนเดียว ตอนนั้นรู้สึกว่ามันขนาดนี้เลยเหรอชีวิตเรา พอร้องไห้เราก็มีสติว่าร้องเพราะอะไร ทุกข์เพราะอะไร หาทางแก้ยังไง เสียใจได้ ล้มได้ ต้องลุกให้เป็น”
เป็นพิธีกรหญิงแถวหน้าตอนนั้นเสียฐานแฟนคลับไป?
“มันไม่มีเวลาจริงๆที่เราจะไปดู แต่เรายังเห็นคนให้กำลังใจเรา คนที่ไปเจอกันจริงๆเราจะได้รับพลังบวกดีๆกับเค้า ทำให้เรามีแรงใจให้ลุกขึ้นเดินต่อ มันซึ้งใจ”
ตอนดึงตัวเองออกมาจากบริษัทเก่าตอนนั้นเป็นไง?
“ก็คิดทบทวนนะ แต่เวลาเราทำอะไรโฟกัสหรือเป้าหมายเป็นสิ่งที่จำเป็น วันนึงมันเริ่มไม่ใช่ พิจารณาว่าอะไรคือคำตอบของชีวิต เรามาทำของตัวเองแล้วกัน”
บางคนคิดว่าเงินไม่ลงตัว?
“ไม่หรอกค่ะ เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ ทัศนคติ เป้าหมายมากกว่า”
จบสวยมั้ย?
“ไม่ได้มีอะไรเรื่องเงินเรื่องทอง”
เราดูซอฟต์ขึ้น?
“แมร์ก็รู้สึกแบบนั้น คนทักเยอะว่าสดใสขึ้น แต่แมร์ก็ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้ เรารู้สึกว่ามีความสุข เป็นตัวของตัวเอง”
เมื่อก่อนทำบุญกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ หลังๆไม่เห็น?
“เวลาไม่ตรงกัน โฟกัสแต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่างเราตอนนี้โฟกัสการทำรายการ อาจไม่ได้ไปไหนมาไหนกัน อายุเท่านี้แล้วไม่อยากจะไปโกรธใครเกลียดใคร ไม่ได้ทะเลาะไม่ได้อะไร”
ถามถึงที่มีข่าวว่ามีหนุ่มฝรั่งเศสรวยมากเข้ามา?
“คุณลุงฝรั่งเศสไปเจอตอนเล่นสกีที่ฝรั่งเศส มีครูสกีคนเดียวกัน ครูไปคุยยังไงไม่รู้คุณลุงเค้าเลยอยากเจอ เลยนัดกินข้าวกันกลางลานสกี ไม่ค่อยได้คุย คุณลุงภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่น คุณลุงได้แต่คิสซ้ายคิสขวาเพราะเป็นชาวฝรั่งเศส มีแลกช่องทางส่งรูป ไม่แน่ใจว่าจีบมั้ย”
อยากให้เค้าจีบมั้ย?
“น่าคิด คือเราต้องดูแลเค้าขนาดไหน เค้า 70 กว่า แก่กว่าพ่อฉันนะ มันดูสื่อสารกันยากด้วย ไม่ได้สานต่อกันหรอกค่ะ ตอนนี้ไม่ได้คุย ยอมรับว่ามันก็มีคนดีๆเข้ามา กัลยาณมิตร คุยกันไปให้ชื่นอกชื่นใจ ตัวเราในจอดูแข็งกร้าวตัวจริงก็ซอฟต์ๆ ถ้ามีคนมองทะลุตรงนั้นมีเข้ามาคุยบ้างก็มี”
สเปกล่ะ?
“อยู่ด้วยแล้วสบายใจ จิตใจดี เอาพื้นฐานจิตใจ”
ชีวิตนี้ต้องแต่งงานมั้ย?
“ถ้ามันถึงเวลา เพราะชีวิตนี้ไม่ตั้งใจจะมีลูกเพราะ 46 แล้ว ดังนั้นวันนึงถ้าจะมีการแต่งงานแต่งเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าได้มีเจอคนคนนั้นที่ใช่ เวลาเรารักใครเราไม่ได้รักที่อายุ หรือฐานะ แต่เรารักเพราะเค้าเป็นเค้า”.