ตลอด 20 กว่าปีในละคร หรือภาพยนตร์ เราก็ยังเห็น เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ ออกจอสร้างผลงานการแสดงให้เราชื่นชมอยู่ตลอด อาจจะปีละเรื่องหรือสองเรื่อง แต่เชื่อไหมว่าในระยะเวลาที่พระเอกคนนี้อยู่ในวงการบันเทิง เคยมีความคิดเหมือนกันว่าอยากออกจากวงการบันเทิง ซึ่งสาเหตุมาจาก...
"ผมก็มีช่วงที่เบื่อ อยากจะออกจากวงการบันเทิงเหมือนกัน ช่วงที่แต่งงานมาสักพัก ตอนนั้นผมเลี้ยงลูกเองกับคุณหน่อย บุษกร แบบไม่มีพี่เลี้ยง ไม่มีผู้ช่วยเลย คือในฐานะนักแสดงผมเต็มที่นะ แต่บางครั้งผมไม่ได้นอน นอนได้ไม่กี่ชั่วโมง เช้าผมต้องไปถ่ายละคร กลับมา 4 ทุ่มก็นอนและลูกก็ร้อง มันคือความกดดันในตัวเยอะมาก มันเลยเกิดความขัดแย้งในตัวมากเหมือนกัน ถึงขนาดบอกคุณหน่อย จะเลิกแล้ว เลิกๆ"
แต่สุดท้ายก็สามารถปรับจูนตัวเอง และลูกๆ ก็เริ่มโต จึงมีเวลามากพอที่จะกลับมาวงการบันเทิงเต็มตัว และยังได้ท้าทายตัวเอง ปรับเปลี่ยนจากนักแสดงเพียงอย่างเดียว มาเป็นผู้จัดละครและผู้กำกับในละครเรื่อง ซุปตาร์2550
"ผมไม่เคยคิดอยากจะเป็นผู้กำกับหรอก ผมคิดเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะอยากจะเล่นนั่นแหละ แต่หาผู้กำกับรุ่นใหญ่ เราก็ไม่กล้าจะไปขอเขา ก็เลยตัดสินใจไปบอกคุณหน่อย ว่าจะเป็นผู้กำกับเอง มันท้าทายมาก เพราะผมเริ่มทุกอย่างจากศูนย์หมดเลย เหมือนกับว่าผมเปลี่ยนตัวเองเยอะมาก ไม่งั้นผมก็จะไม่มาออกรายการนี้แน่นอน (หัวเราะ) และผมก็จะไม่ไปออกรายการอื่นอีกเลย
...
ไม่ใช่ว่าผมมาออกรายการเพราะผมอยากจะดังหรอกนะ ผมอยากให้คนอย่างน้อยรับรู้ว่ามีละครเรื่องนี้อยู่ มันเลยเป็นโจทย์ของผม ว่าต้องทำให้คนในกลุ่มที่เขาไม่ได้สนใจในละครแล้ว ไม่ได้ดูทีวีแล้ว เกิดการรับรู้ก่อนว่า พี่เคนเขาจะทำละครเรื่องนี้ เคน ธีรเดช ที่แม่หนูชอบกำลังทำละครเรื่องนี้ อย่างน้อยได้รับรู้ก็ยังดี มากกว่ากระแสมันเงียบๆ"
ทำสิ่งที่ไม่ชอบ เหมือน ‘ตกนรก’
นอกจากนี้ เคน ธีรเดช พระเอกวัย 44 ปีคนนี้ได้เล่าถึงปรัชญาการทำงานให้เราฟัง ซึ่งมันสะท้อนตัวตนของคนที่รักในงานตัวเอง และเลือกที่จะทำให้สิ่งที่ตัวเองอยากทำเพื่อจะทำมันออกมาให้ดีที่สุดและไม่มีคำว่าเสียใจหรือเสียดาย
"ผมไม่รู้นะว่าการรับละครสักเรื่องนึง จะมองออกว่ามันจะดัง ผมไม่รู้จริงๆ สำหรับผมเลือกแค่ว่า ผมอยากเปลี่ยน อยากลองทำ และพยายามยึดโจทย์ทำแล้วมีแรงบันดาลใจ ซึ่งก็มีบางเรื่องที่ผมปฏิเสธ สุดท้ายเรื่องนั้นดังมาก ก็มีนะครับ แต่ฐานความคิดผม ไม่ใช่ว่าละครเรื่องนี้ไม่ดังหรอกเลยปฏิเสธ หรือมันดังแน่นอนเลยต้องเล่น แต่มันขึ้นอยู่กับว่าผมจะทำอะไรกับตัวละครนี้ได้บ้าง
ผมเชื่อว่านักแสดงเล่นไปเรื่อยๆ มันเบื่อ มันตัน เดี๋ยวหาทางออกไม่เจอ เพราะฉะนั้นต้องเลือกทางให้เรามีแรงบันดาลใจมากกว่า ละครจะดังหรือไม่ดัง อันนี้ผมกำหนดไม่ได้จริงๆ แต่ ณ วันที่ผมออกทำงานต้องสนุกด้วยไง ไม่งั้นจะเหมือนตกนรก ทำงานยาว 6-8 เดือนอยู่แต่กับเรื่องที่ไม่สนุกเลย ต่อให้ละครเรื่องนั้นมันจะดังมาก แต่ประสบการณ์ในตัวผมบอกว่ามันจะได้ทำไม่ซ้ำเดิมมากกว่า เราจะเล่นอะไรได้ แสดงศักยภาพ พัฒนาตัวเองอะไรได้บ้าง"